ปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไข? ย้อนข่าวเก่า รร.ประถมในโคราช รับสมัครครูภาษาไทยเงินเดือน2,500-สุดยอดครูอัตราจ้าง จบ ป.โท เงินเดือนเริ่มต้น2,500 บาท





จากกรณีประกาศรับสมัครครูอัตราจ้างเอกภาษาอังกฤษของโรงเรียนบ้านดงยาง จ.ศรีสะเกษ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ถึงเงินเดือน 5,000 บาท (ห้าพันบาท) ว่าเหมาะสมหรือไม่? จริงหรือเท็จ? หากจริงก็น่าหดหู่ใจว่าเหตุใดกระทรวงศึกษาธิการจึงยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม : ร.ร.บ้านดงยาง ศรีสะเกษ รับสมัครครูอัตราจ้าง ป.ตรี เอกภาษาอังกฤษ เงินเดือน5,000 บัดนี้-22มี.ค.62

เกี่ยวกับเรื่องนี้ หากสืบค้นข่าวจะพบว่า ไม่ใช่กรณีแรกที่มีการจ้างครูในอัตราเงินเดือนที่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำขนาดนี้ ในปี 2560 ยังปรากฎข่าวว่า ร.ร.บ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์)สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ก็มีการจ้างครูอัตราจ้าง เอกภาษาไทย เงินเดือน 2,500 บาท มาแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม : เรื่องจริงยิ่งดราม่า! รับสมัครครูเงินเดือน 2,500 เปิดใจ ผอ.เราเป็นร.ร.บ้านนอกเล็กๆ

และในปี 2561 ก็มีการเปิดใจถึง “นายคณาธิป นับแสง” หรือ “ครูเก่ง” ครู วุฒิ ป.โท ที่เคยผ่านเงินเดือนเริ่มต้น 2,500 บาทมาแล้ว

  

  

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่โรงเรียนวัดแจ้ง หมู่ 5 บ้านบางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึง ป.6 ปี และในปี 2561 มีนักเรียนทั้งหมด 87 คน พบนายคณาธิป นับแสง หรือครูเก่ง ครูอัตราจ้างที่เคยรับเงินเดือนแค่ 2,500 บาท ในการเริ่มต้นอาชีพครู ถือเป็นเงินเดือนครูที่น้อยคนหนึ่งในประเทศไทย แต่ทุกวันนี้ยังคงยืนหยัดทำหน้าที่สอนเด็กอย่างเต็มที่ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น ไม่เคยคิดย่อท้อ หรือลาออกทิ้งเด็กนักเรียนไปไหน แม้ค่าตอบแทนจะน้อยนิด หากเทียบกับภาวะเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันก็ตาม

นายคณาธิป หรือครูเก่ง เปิดเผยว่า เป็นครูประจำชั้น ป.4 สอนหลายวิชาทั้งสังคม คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และยังช่วยงานด้านอื่นๆ ของโรงเรียน ส่วนนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของผู้มีรายได้น้อย มีฐานะยากจน ไม่มีทางเลือกด้านการศึกษามากนัก ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่เข้ามาเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนแห่งนี้ ตั้งแต่ด้วยวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมีใบประกอบวิชาชีพครู ได้เริ่มต้นด้วยเงินเดือนแค่ 2,500 บาท และปัจจุบันปรับเป็น 8,500 บาทแล้ว

  

  

นายคณาธิป กล่าวต่อว่า แม้จะไม่ได้จบครูโดยตรง แต่เมื่อได้มาเป็นครู ก็ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย ได้เห็นชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ขาดความพร้อม จนทำให้ทิ้งนักเรียนไม่ได้ แม้จะมีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตหลายครั้ง แต่เลือกที่จะปฏิเสธไป ส่วนเงินค่าตอบแทนที่หลายคนอาจมองว่าน้อยนิด หากเทียบกับภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เนื่องจากตอนเช้าจะอาศัยกินข้าวมาจากบ้าน ขณะที่ตอนเที่ยงก็กินที่โรงอาหารโรงเรียน ส่วนตอนเย็นก็กลับไปกินข้าวที่บ้าน เป็นแบบนี้ทุกวัน โดยเงินเดือนที่ได้มาส่วนหนึ่งก็จะแบ่งกลับคืนไปให้เด็กๆ เช่น คนไหนไม่ได้กินข้าวมาก็ซื้อให้ หรือคนไหนไม่มีเงินกินขนมก็จะดูแล แถมเมื่อเด็กคนไหนทำดีก็จะเจียดเงินไปเป็นรางวัล เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาอยู่เสมอ เฉลี่ยเดือนละ 3,000-5,000 บาท

“ผมคิดว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน แต่อยู่ที่สิ่งที่เราได้ทำมากกว่า ผมรักอาชีพครู เพราะเป็นอาชีพในฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ขณะที่ครอบครัวทั้งปู่ย่าตายาย รวมทั้งพ่อและแม่ก็รับราชการเป็นครูกันทุกคน ส่งผลให้ได้สายเลือดความเป็นครูมาอย่างเต็มๆ หลายคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมจึงต้องอยู่กับเงินเดือนแค่น้อยนิด หรือไม่ได้ตามวุฒิการศึกษา ก็บอกไปว่า ไม่สามารถทิ้งเด็กนักเรียนได้ ถ้าจะให้ไปอยู่ในโรงเรียน หรือไปทำงานที่ไหนที่ให้ค่าตอบแทนมากกว่า แต่ถ้าที่นั้นมีครูเพียงพออยู่แล้ว ก็ขอเลือกที่จะอยู่ที่โรงเรียนวัดแจ้งแห่งนี้ เนื่องจากเด็กๆ ต้องการครู อย่างไรก็ตามยังหวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถสอบบรรจุเป็นข้าราชการ” นายคณาธิป กล่าว

ขอบคุณข่าวจาก : มติชนออนไลน์, ไทยรัฐออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: