พ่อเด็กช่างลั่น ลูกผิดยอมรับ ไม่รู้ลูกพกปืน ถามตร.ทำไมยิงถึงชีวิต!





 

พ่อเด็กเทคโนถูกตำรวจยิงเสียชีวิต โร่แจ้งความเอาผิด เผยไม่รู้ลูกพกปืน หากผิดยอมรับ แต่สงสัยทำไมต้องยิงถึงตาย พร้อมเดินทางไปรับศพลูกนิติเวช รพ.ตำรวจ ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ ส่วนตำรวจถูกระบุเป็นคนยิงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง

จากกรณีตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 คน โดยควบคุมไว้บนรถกระบะ ระหว่างทางพบเจอกับกลุ่มเด็กเทคชื่อดังย่านมีนบุรี ขับขี่รถจยย. หลังจากกลับจากงานเลี้ยงสังสรรค์ วันคล้ายวันสถาปนาสถาบัน ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูแลรถกระบะ กระสุนถูกที่หน้าขาของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ จึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น กระทั่ง นายเอกชัย บุญรัตน์ อายุ 22 ปี นักศึกษาสถาบันเทคโนชื่อดัง ชั้นปีที่ 3 คณะช่างยนต์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ใต้ราวซ้าย 2 แห่ง หน้าอกขวา 1 แห่ง หน้าท้องขวา 1 แห่ง รวม 4 แห่ง บริเวณหัวเข็มขัดพบซองปืนเหน็บเอวอยู่ ในกระเป๋ากางเกงยังพบกระสุนปืนขนาด .38 มม.จำนวน 6 นัด ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด .38 มม.ถูกยิงจนหมดโม่ตกอยู่ 1 กระบอก

โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ กลุ่มเพื่อนผู้ตายกว่า 50 คน ไม่ยอม ได้ตะโกนด่าและกรูเข้าไปรุมทุบรถและทำร้ายร่างกายตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนยิงเพื่อนจนตาย ก่อนเกิดเหตุชุลมุน จนตำรวจดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมขึ้นลำปืนและชี้ไปที่กลุ่มนักเรียนพร้อมกล่าวว่า "ใครเข้ามากูยิง" ก่อนที่กลุ่มเด็กเทคโนฯ จะพากันหยิบก้อนอิฐและขวดน้ำระดมปาเข้าใส่ จนนายตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัดก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มนักเรียน 4 นัด ท่ามกลางสายตาประชาชน รถประชาชนที่สัญจรไปมา ก่อนที่จะมีรถเจ้าหน้าที่มารับนายตำรวจหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงเวลา 01.30 น. วันที่ 11 ก.พ. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุไม่นาน พ.อ.อ.นภัสกร บุญรัตน์ พ่อของนายเอกชัย และแม่พร้อมญาติ รวมทั้งกลุ่มเพื่อนผู้ตาย ได้เดินทางไปยัง สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายตำรวจดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการเรียกพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนตำรวจดังกล่าวจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ก่อนแยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเหตุบานปลาย

ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.อ.อ.นภัสกร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดต่อขอรับเอกสารเพื่อไปรับศพนายเอกชัย ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมกล่าวว่า เวลาลูกชายอยู่บ้านจะปกติ แต่ไม่รู้ว่าอยู่กับเพื่อนเป็นอย่างไร ไม่รู้มาก่อนว่าลูกพกปืน ที่ผ่านมารู้ว่า ลูกเป็นคนรักสถาบัน รักพวกรักพ้อง ส่วนประเด็นที่ลูกถูกยิงก่อนหรือใครยิงก่อน ขณะนี้ยังไม่รู้ ต้องให้ตำรวจสอบสวน หากลูกเราผิดจริง เราก็ยอมรับ แต่สงสัยว่าทำไมต้องยิงให้ถึงตาย ทำไมไม่จับกุม ซึ่งภายหลังจากรับศพลูกชายแล้ว จะนำศพไปตั้งสวดที่วัดลาดบัวขาว ย่านมีนบุรี ต่อไป.

ข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: