ชาวเน็ตแชร์โพสต์สุดอนาถ เด็กชายอายุ 10 ขวบก่อเหตุลักทรัพย์เพื่อนบ้านเกือบ 1 แสนบาท สารภาพว่าทำจริง เอาเงินไปให้ญาติตามคำสั่ง พร้อมอ้างนำเงินไปซื้อทองแจกแฟนสาว 10 คน พร้อมเปิดโรงแรมซื้อเหล้า ซื้อเบียร์และเนื้อย่างมากินกับแฟน ผกก.เผยด้านคดีต้องละเอียดรอบคอบเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผิดถูกว่ากันตามกฏหมาย
กรณีผู้ใช้เพจเฟสบุ๊กชื่อ Social Hunter V.ss โพสต์ภาพข้อความหลังจากมีชาวเน็ตเข้ามาเล่าเรื่องราวของเด็กอายุเพียง 10 ขวบ ก่อเหตุลักขโมยทรัพย์สิน 3 หลังรวดในขณะที่ภายในหมู่บ้านกำลังมีงานศพ ทุกคนต่างมาช่วยกัน กระทั่งเด็ก 10 ขวบรายนี้เข้ามาขโมยเอาทรัพย์สินภายในบ้านหลังหนึ่ง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่า 80,000 บาท ซึ่งจับตัวได้และเด็กก็สารภาพว่าทำจริง นอกจากนี้ยังสารภาพว่านำเงินไปซื้อทองแจกญาติๆ ทางคดีไม่สามารถดำเนินการกับเด็กได้เพราะเป็นเยาวชนอายุเพียง 10 ขวบ มีชาวบ้านหลายหลังถูกเด็ก 10 ขวบรายนี้เข้ามาขโมยเอาทรัพย์สินไปโดยที่ผู้ปกครองปล่อยปละละเลย ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบดูแลและแก้ไขปัญหา เพราะชาวบ้านหวาดกลัวไปทั้งหมดทุกคนแล้ว พร้อมข้อความระบุในเพจว่า “เจอเด็กนรกแบบนี้แย่ พ่อแม่ญาติพี่น้อง ดูแล้วเป็นใจ ติดที่มันยังเด็กนี่ละ ทำอะไรไม่ได้มาก ยิ่งครอบครัวรู้เห็นเป็นใจแบบนี้ด้วย แต่จริงๆแล้ว ผู้ปกครองเด็ก ต้องรับผิดชอบ รับผิดชอบในการกระทำของผู้ที่อยู่ในความปกครองตัวเอง อย่างว่านะหน้ามึน ไม่มี ทำไงได้ แบบนี้ถ้าปล่อยไว้ ชิบ..ทั้งหมู่บ้าน ยิ่งเด็กไม่ได้เรียน พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความผิด รบกวน …สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง สภ.เขาสวนกวาง สภ.ขอนแก่น สถานีตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ภ.จว.ขอนแก่น ช่วยดำเนินการด้วย //กูแม่มรั้น ปล. เด็กแบบนี้ ให้สงสารเห็นใจก็ไม่ไหวเหมือนกัน ปล.1 ใครมีคำแนะนำช่วยชาวบ้านเขาหน่อย”
ต่อมาเวลา 15.00 น.วันที่ 14 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวที่ปรากฏว่า พ.ต.อ.นรวัฒน์ คำพิโล ผกก.สภ.เขาสวนกวาง พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่บ้านทุ่งโพธิ์ไชย ม.7 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีการแชร์ในโซเชียล พบว่ามีเบาะแสของการก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักของชาวบ้านจริง แต่เมื่อไปตรวจสอบที่บ้านสองชั้น ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านของญาติชาวเน็ตผู้เผยข้อมูลการลักทรัพย์ ไม่มีคนอยู่ในบ้าน สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวทราบว่า เจ้าของบ้าน มีสามีเป็นชาวต่างชาติ และอยู่ต่างประเทศกับสามี ในบ้านมีเพียงบิดาอาศัยอยู่คนเดียว ขณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บิดาเจ้าของบ้านออกไปทำธุระ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินทางไปพบกับนางอุทัย พรมอุตร์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักทรัพย์เงินสดไปหลายหมื่นบาท ซึ่งนางอุทัย กล่าวว่า หลังเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนร้ายได้และคนร้ายก็ได้นำเงินมาคืนให้บางส่วน โดยมารดาของคนร้ายวัย 10 ขวบ ได้นำเงินมาคืนให้บางส่วนแล้วและรับปากว่าจะมาคืนให้อีก นอกจากนี้ยังมีครอบครัวของคนร้ายวัย 15 ปี นำเงินมาคืนให้แล้ว 2 หมื่น และสัญญาว่าจะนำมาคืนให้อีก
นางอุทัย พรมอุตร์ อายุ 56 ปี ยังได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดว่า มีบ้านพักอยู่ใกล้กับบ้านคนร้ายทั้งสองคน ส่วนร้านค้าอยู่กลางหมู่บ้าน วันที่ 22 ธันวาคม 2561ที่ผ่านมา หลังปิดร้านก็กลับเข้าบ้าน ปรากฏว่าบ้านถูกรื้อค้นและเงินสด ซึ่งเป็นเงินที่ยืม ธกส.มาจำนวน 70,000 บาท เงินขายของ 20,000 บาท รวม 90,000 บาท ซึ่งเตรียมไว้จ่ายหนี้คืนกองทุนเงินล้าน และเตรียมไว้ซื้อน้ำมันมาขายที่ร้าน ถูกคนร้ายลักไปจนเกลี้ยง จึงสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียง จนทราบว่า ด.ช.แตงโม วัย 10 ขวบ เดินเข้าไปในบ้าน จึงเชื่อว่า ด.ช.แตงโม ต้องเป็นคนร้ายลักทรัพย์ในครั้งนี้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้าย ตำรวจจับตัวคนร้ายเป็นเด็กวัย 10 ขวบและ 15 ขวบ ซึ่งทราบว่า เด็กวัย 10 ขวบเป็นคนเข้าไปในบ้านและลงมือลักทรัพย์เงินสดไปแบ่งให้เด็กวัย 15 ปี ซึ่งเมื่อผู้ปกครองของเด็กสองคนทราบเรื่อง จึงมาขอเจรจาชดใช้เงินที่ลูกลักไปคืนให้ทั้งหมด จึงขอคืนเพียง 70,000 บาท ส่วนอีก 20,000บาท ถือว่าทำบุญทำทาน และในส่วนของการดำเนินการทางกฎหมายก็ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เขาสวนกวาง
ด้านพ.ต.อ.นรวัฒน์ คำพิโล ผกก.สภ.เขาสวนกวาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การที่มีผู้แชร์ในโซเชียลถึงการเกิดเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านทุ่งโพธิ์ไชย ม.7 ต.โนนสมบูรณ์ นั้น ถือเป็นการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้าต้องการให้มีการสืบสวนจับกุมคนร้าย หรือสงสัยบุคคลใดเป็นผู้ก่อเหตุ ให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที เพราะหากไม่มีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนได้ ในกรณีของผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์เงินสดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสืบสวน ดำเนินการจนทราบตัวคนร้ายเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของผู้เสียหายก็ทราบถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเช่นกัน การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคืบหน้าไปมาก แต่ในบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นเด็กวัยเพียง 10 ขวบ ซึ่งในทางกฎหมายเด็กมี พ.ร.บ.คุ้มครองอยู่ การจะดำเนินการใดๆกับเด็กวัย 10 ขวบ และ 15 ปี ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการตามขั้นตอนของการปฏิบัติทุกอย่าง โดยพนักงานสอบสวนได้นำตัวเด็กชายวัย 10 ขวบ และ 15 ปี ไปสำนักงานอัยการ เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพทำการสอบปากคำเด็ก ซึ่งการสอบปากคำนั้น เด็กก็ยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง จึงแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนของทีมสหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ก็นำตัวเด็กไปส่งที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่น เพื่อทำการสืบเสาะข้อเท็จจริง ว่าเด็กอยู่กับใคร เรียนหนังสือหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดการสืบเสาะนั้น เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ จะมีการสรุปส่งให้พนักงานสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการสอบสวนขยายผลว่า การที่เด็ก 10 ขวบก่อเหตุนั้น มีผู้ใหญ่คอยยุยงส่งเสริมหรือไม่ หากพบว่ามีก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน
พ.ต.อ.นรวัฒน์ คำพิโล กล่าวต่ออีกว่า ในทางการสืบสวน ทราบว่า น้องแตงโมอาศัยอยู่กับตายและยายวัยชรามากและพี่สาวซึ่งกำลังเรียนชั้นป.5 โรงเรียนในพื้นที่ ส่วนน้องแตงโมง ออกจากโรงเรียนเอง ส่วนบิดา มารดา แยกทางกันหลายปีแล้ว มารดา ได้สามีใหม่เป็นชาวต่างชาติ ส่งเงินมาให้ใช้ และกลับมาเยี่ยมครอบครัวอยู่เป็นประจำ ในวันเกิดเหตุน้องแตงโม เข้าไปก่อเหตุในบ้านของผู้เสียหายเพียงลำพัง แต่เมื่อได้เงินมาแล้วนำไปให้ญาติผู้พี่วัย 15 ปี และญาติรายนี้แบ่งคืนให้น้องแตงโมจำนวน 30,000 บาท ส่วนที่เหลือญาตินำไปซื้อทองให้แฟนสาวใส่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สอบสวนเจ้าของร้านทองในพื้นที่ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับน้องแตงโมที่บ้านพัก โดยมียายซึ่งมีอาการหูตึงคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ยายกล่าวทั้งน้ำตาพร้อมทั้งยกมือไหว้ขอร้องเจ้าหน้าที่ ให้นำหลานชายไปอบรมดูแลแทน เพราะยายไม่ไหวแล้ว จนบางครั้งยายอยากล่ามโซ่ไว้ สอนไม่ฟัง โรงเรียนก็ไม่ไป ซึ่งน้องแตงโมเปิดเผยมูลเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะน้าอ้นบอกให้ทำ จึงได้เดินเข้าไปบ้านของเพื่อนบ้านทางหน้าบ้าน และเข้าไปเอาทรัพย์สินได้เงินสดดังกล่าวมา และนำมาให้น้าอ้น และน้าอ้นก็แบ่งเงินให้ โดยนำเงินไปเปิดโรงแรมซื้อทองให้แฟน 10 คน ซื้อเหล้าเบียร์ และเนื้อย่างมาให้แฟนกับเพื่อนกินที่โรงแรม ก่อนที่เพื่อนบ้านจะมาตามและได้นำทรัพย์สินไปคืนเพื่อนบ้านที่เหลือทั้งหมด
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังเดินทางไปพบกับมารดาของน้องอ้น เด็กชายวัย 15 ปี ที่บ้านพัก มารดาน้องอ้นกล่าวว่า ไม่รู้ว่าลูกชายกับหลานชาย ก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดของเพื่อนบ้าน รู้ตอนที่ให้แฟนสาวของลูกชายใส่ทองทั้งสร้อยคอและกำไลข้อมือ จึงได้ถามน้องอ้น จนทราบว่า ได้เงินจากน้องแตงโม 40,000 บาท จึงรีบไปซื้อทองให้แฟนสาวใส่ กระทั่งมีตำรวจมารับตัวน้องอ้นไป จากนั้นน้องอ้นก็กลับมาบ้าน และพาแฟนสาวออกรับจ้างหาเงินส่งคืนเจ้าของตอนนี้คืนไปแล้ว 20,000บาท ที่เหลือกำลังทยอยส่งคืนเจ้าของเงิน
ขอบคุณข้อมูลจาก : Social Hunter V.ss, Khon Kaen Link : ขอนแก่นลิงก์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ