หน.อุทยานฯตาดโตน เเจง ‘ลานจอด ฮ. นายกฯ’ เป็นพื้นที่เสื่อมสภาพ ไม่ได้ถางป่า10ไร่อย่างที่ ‘ศรีสุวรรณ’อ้าง





 

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ ชี้แจง โต้นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ออกเเถลงการณ์ว่ามีการถางป่าตัดต้นไม้ 10 ไร่ เพื่อทำลานจอด ฮ.ให้นายกฯ นั้น ไม่เป็นความจริง ยันเป็นพื้นที่เสื่อมสภาพ มีเพียงหญ้าคาปกคลุม เเละเพียง 4 ไร่เท่านั้น  

จากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ออกแถลงการณ์ในนามสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่อง “ทำไมต้องปรับพื้นที่ดินกว่า 10 ไร่ เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์สามารถลงจอดได้ ที่ป่าโล่ใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ มาปลูกต้นไม้เพียงต้นเดียว และเรื่องการห้ามประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี ที่จดุสกัดป่าโล่ใหญ่ ในวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมานนั้น

อ่านข่าวย้อนหลัง : สุดย้อนแย้ง ! ถางป่า 10 ไร่ ทำลานจอด ฮ. ให้ นายกฯ ร่วมโครงการอนุรักษ์ป่า

นายนพวงศ์ พฤษชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ ชี้แจงกรณีต่างๆ ดังนี้

“กรณีการปรับพื้นที่ป่าจำนวน 10 ไร่ เพื่อรับนายกรัฐมนตรีนั้น พื้นที่ที่ปรับสภาพ แต่ก่อนปรับพื้นที่นี้ เป็นพื้นที่เสื่อมสภาพที่เปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่หรือต้นไม้ขนาดเล็กเลย มีเพียงหญ้าคาคลุมพื้นที่เท่านั้น โดยพื้นที่ดั้งเดิมเป็นพื้นที่ราษฎรเข้ามาใช้ประโยชน์ เลี้ยงสัตว์และทำไร่ ปลูกข้าว และสับปะรด

“ทางอุทยานแห่งชาติตาดโตนได้ทำการขอคืนพื้นที่ป่าจากราษฎร เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพแล้ว จำเป็นต้องฟื้นฟูให้กลับมาโดยเร็ว จำนวน 13,000 ไร่ จึงได้จัดทำโครงการป่ารักษ์น้ำโล่ใหญ่ชัยภูมิ โดยมี 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมสร้างฝายมีชีวิต ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 110 ฝาย และกิจกรรมปลูกป่าหลากสี 5 โซนสี คือ สีเหลือง สีม่วง สีแสด สีชมพู และสีขาว ดำเนินการไปแล้ว 7,060 ไร่ ปลูกต้นไม้ป่าให้ดอก จำนวน 296,000 ต้น ด้านการเปิดพื้นที่สำหรับจัดทำลานเฮลิคอปเตอร์ ใช้พื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ไม่ใช่ 10 ไร่ ตามข้อร้องเรียนแต่ประการใด และไม่มีการตัดต้นไม้ในพื้นที่

 

 

ส่วนกรณี พลเอกประยุทธ์ นายกฯ และคณะทำงาน มาปลูกต้นไม้เพียงต้นเดียวนั้น นายนพวงศ์ เผยว่า “การเดินทางมาพื้นที่ดังกล่าวของพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะทำงาน จำนวนประมาณ 28 ท่าน พร้อมผู้บริหารของหน่วยงานต่างๆ  มีประชาชนมาร่วมต้อนรับไม่น้อยกว่า 10,000 คน และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมชมนิทรรศการการปลูกป่าหลากสี สร้างฝายมีชีวิต การเปิดฝายมีชีวิต ลำดับที่ 111 เปิดระบบการกระจายน้ำดัวยระบบโซลาร์เซลล์ และการปลูกต้นไม้หลากสี ซึ่งเป็นตัวแทนเชิงพื้นที่และเชิงสัญลักษณ์ จำนวน 20 ต้น ประกอบด้วย ต้นรวงผึ้ง 4 ต้น (ดอกสีเหลือง) ต้นกัลปพฤกษ์ 4 ต้น (ดอกสีชมพู) ต้นทองกวาว 4 ต้น (ดอกสีแสด) ต้นอินทนิน 4 ต้น (ดอกสีม่วง) และต้นแคนา 4 ต้น (ดอกสีขาว) ทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กด้วยเมล็ดมะค่าโมง และชมนิทรรศการของหน่วยงาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา)”

นายนพวงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีการแจกบัตรติดหน้าอกให้กับราษฎรเฉพาะกลุ่ม ส่วนชาวบ้านที่เดือดร้อนกับถูกกีดกันว่า “การเดินทางมาร่วมต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรีในพื้นที่ป่าโล่ใหญ่ เป็นการเดินทางมาของพี่น้องราษฎรที่ได้ร่วมกิจกรรมตามโครงการป่ารักษ์น้ำโล่ใหญ่ ซึ่งมีราษฎรที่สนใจในโครงการฯ จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน ที่สามารถเดินทางมาถึงบริเวณพื้นที่ง่ามมรกต (บริเวณงาน) เพราะโดยสภาพพื้นที่มีจำกัด และการเดินทางมาด้วยความลำบาก รถยนต์สามารถเดินรถได้เพียงทางเดียว ไม่สามารถวิ่งสวนทางได้ จึงทำให้ราษฎรไม่สามารถเข้าบริเวณงานได้ทุกคน อีกทั้งการรับหนังสือร้องเรียนนั้น ทางศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้าของรัฐบาล จังหวัดชัยภูมิได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนไว้ด้วยแล้วในบริเวณจุดสกัดโล่ใหญ่ เพื่อรับข้อร้องเรียนของราษฎรอยู่แล้ว

 

 

ส่วนการติดบัตรประจำตัวของราษฎรนั้น เป็นมาตรการตรวจรักษาความปลอดภัยของทางฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ดังนั้น การกีดกันไม่ให้ราษฎรเข้าร่วม จึงไม่เป็นความจริงแต่ประการใด

ด้านสาเหตุที่คาดว่าทำไมจึงมีข่าวในลักษณะนี้เกิดขึ้น นายนพวงศ์ เผยว่า “น่าจะเกิดจากการได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในพื้นที่ และมีนายทุนที่เสียผลประโยชน์จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ในเรื่องของการขอคืนพื้นที่ป่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา อยู่เบื้องหลัง โดยใช้ราษฎรในพื้นที่บางรายเป็นคนขับเคลื่อนให้มีประเด็นเกิดขึ้น”

ข่าวจาก : workpointnews

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: