ร้านค้าโวย รัฐรีดภาษีขายของออนไลน์ หวั่นหากมุ่งจะเก็บภาษี อาจทำให้การค้าออนไลน์ที่กำลังเติบโตสะดุดลง!!(มีคลิป)





 

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ตลาดดอทคอม Tarad.com กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะออกกฎหมายตัวนี้ เพราะสาระสำคัญคือการกำหนดให้สถาบันการเงินต้องรายงานข้อมูลของบุคคล และนิติบุคคลที่มีความเคลื่อนไหวทางบัญชีในการทำธุรกรรมฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีเกิน 3,000 ครั้งต่อปี หรือการฝากและรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 200 ครั้ง และยอดเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี ส่งให้กรมสรรพากรตรวจสอบเพื่อประโยชน์ในการเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง โดยตั้งเป้าเรียกเก็บภาษีจากผู้ขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ที่ปัจจุบันการติดตามข้อมูลเพื่อจัดเก็บภาษีไม่อาจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าว

นายภาวุธ กล่าวอีกว่า หากกฎหมายตัวนี้ออกมาก็เท่ากับว่ารัฐบาลออกกฎหมายที่มีความขัดแย้งกันเองเพราะมีการประกาศนโยบายว่าจะเป็นประเทศดิจิตอล ไทยแลนด์ 4.0 ส่งเสริมการค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมริ์ส รวมทั้งผลักดันให้ประเทศเข้าสู่สังคมไร้เงินสด เช่น การใช้ E- Wallet , QR Code , E-Banking ซึ่งต้องทำผ่านธุรกรรมออนไลน์ทั้งหมด

หากกฎหมายตัวนี้ออกมาก็เท่ากับว่า ทำให้คนที่กำลังลังเลว่า จะเข้าสู่ระบบสังคมไร้เงินสดหรือไม่ ตัดสินใจไม่ใช้ระบบออนไลน์ในการทำธุรกรรมทางการเงิน แม้ว่าจะมีความสะดวกสบายมากกว่า บวกกับความยังไม่มั่นวจในความปลอดภัยของการเข้าสู่ระบบสังคมไร้เงินสด ก็อาจทำให้นโยบายสังคมไทยไร้เงินสดไม่ประสบความสำเร็จ

"รัฐบาลควรชะลอการออกกฎหมายตัวนี้ออกไปก่อนสัก 2 ปี เพื่อให้คนปรับตัวให้ได้ก่อนกับการใช้ระบบต่าง ๆ ทั้ง E- Wallet , QR Code , E-Banking รวมทั้งการค้าออนไลน์ ที่กำลังได้รับความนิยมและเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หากรัฐบาลชุดนี้มุ่งจะเก็บภาษีกับผู้ที่ทำธุรกรรมผ่านบัญชี ตั้งแต่ 200 ครั้ง และยอดเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาท ขึ้นไปนั้นมองว่าจะทำให้การค้าออนไลน์ของประเทศไทยที่กำลังเติบโตชะงัก

รวมทั้งรัฐบาลควรเข้มงวดในการเก็บภาษีทางตรงกับผู้ประกอบการที่มีอยู่เดิม มากกว่าการมารีดภาษีกับผู้ค้าออนไลน์ที่มีการทำธุรกรรมเป็นประจำ เพราะไม่เช่นนั้นคนที่จะกลับไปใช้เงินสด หรืออาจต้องซื้อไหมาเก็บเงิน แทนการนำไปฝากธนาคาร" นายภาวุธ กล่าว

ข่าวจาก : เรื่องเล่าเช้านี้

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: