อุทาหรณ์คนขายรถมือสอง!! แค่โอนลอยรถถูกจับติดคุก ” หนุ่มช่างไฟ” ครวญหนัก ต้องกู้เงินสู้คดี!!





เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจีรศักดิ์ หาวิเชียร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่321 ม.6 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีอาชีพเป็น นายช่างไฟฟ้าชำนาญการ ทต.โนนทอง อ.หนองเรือ จ.ขอนแกน นำเอกสารหลักฐานซึ่งประกอบด้วยคำพิพากษาของศาลชั้นต้นของศาลอาญา เอกสารการซื้อขายรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน ฏว-8160 กทม.

เอกสารการลงเวลาทำงานของข้าราชการประจำ ทต.โนนทอง ภาพถ่ายรถและเอกสารการซื้อขายรถยนต์คันดังกล่าว เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวที่บ้านพักก่อนที่จะถูกศาลอาญาจะมีคำพิพากษาจำคุก 12 ปี ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์

นายจีรศักดิ์ กล่าวว่า ได้ขายรถยนต์คันดังกล่าว ให้กับเต็นท์รถมือสองในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี โดยเจ้าของร้านเดินทางมาซื้อรถที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2557 ซึ่งได้มีการทำสัญญาซื้อ-ขาย อย่างถูกต้อง มีการมอบโอนอำนาจและกรรมสทิธิ์ หรือการโอนลอย จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ซื้ออีกเลย เนื่องจากมีการจำหน่ายขาดกันไปแล้ว

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2559 ขณะกำลังเตรียมตัวจะไปทำงานที่ ทต.โนนทอง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามและตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 นำหมายจับของศาลอาญา มาทำการจับกุมตัวในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์

โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 3 และ 6 มี.ค. 2557 โดยถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่กองปราบปราม โดยตนนั้นปฏิเสธโดยตลอด

“ผมงงมากเมื่อตำรวจกองปราบปรามมาที่บ้าน และได้นำหมายศาลมาแจ้ง ซึ่งผมก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างดี และมีการปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด โดยมีเอกสารหลักฐานในเรื่องของสัญญาซื้อขายรถ และเอกสารของทางราชการ ทั้งใบลงเวลาทำงาน หรือพยานหลักฐานซึ่งเป็นหัวหน้างาน ว่าในวันที่ 3 มี.ค. และวันที่ 6 มี.ค.2557 นั้นยังคงปฎิบัติงานที่ ทต.โนนทอง ตามปกติ และรถยนต์คันดังกล่าวนั้นได้ขายไปแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีเดียวกัน โดยมีเอกสารหลักฐานต่างๆอย่างถูกต้อง” นายจีรศักดิ์ กล่าว

นายจีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดเป็นเอกสาร ในการประกอบสำนวนการสอบสวนและเอกสารที่ใช้ในการต่อสู้ในชั้นศาล แต่สุดท้ายตนถูกจำคุก 12 ปี ร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่นในคดีเดียวกัน และยังคงให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทย์อีกคนละ 150,000 บาท

จึงให้ครอบครัวไปกู้ยืมเงินมาทำการขอประกันตัว ในวงเงิน 400,000 บาท ในวันที่ 7 ส.ค.2561

ซึ่งผมต้องอยู่ในเรือนจำนานกว่า 2 เดือน เป็นการขอประกันตัวในช่วงของการยื่นอุทธรณ์ หลังจากที่ประกันตัวก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรถยนต์คันที่คนร้ายนำไปใช้ในการก่อเหตุนั้นได้ขายไปแล้ว เมื่อตรวจสอบไปที่กรมการขนส่งทางบก ก็มีการย้ายกรรมสิทธิ์การครอบครองไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2557

ดังนั้นวันนี้ครอบครัวซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายในการสู้คดี จึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานต่างๆเข้าปรึกษาผู้บังคับบัญชาทุกระดับของ ทต.โนนทอง จนได้ข้อสรุปในการนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องที่ผมต้องตกเป็นแพะในคดีดังกล่าว

นายจีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ขึ้นศาลครั้งแรก ตำรวจและทนายความถามว่าผู้ต้องหาในคดีทั้ง 3 คนนั้นรู้จักกันหรือไม่ ผมก็ตอบไปว่าไม่รู้จัก และยังคงยืนยันว่าในวันที่คนร้ายนำรถคันนี้ไปก่อเหตุนั้น ตนเองยังคงทำงานที่ ทต.โนนทอง ซึ่งการให้การปฏิเสธนั้น ตนยืนยันมาโดยตลอด ซึ่งหัวหน้างานทุกระดับก็พร้อมที่จะเดินทางไปเป็นพยานบุคคล ในวันที่ศาลอุทธรณ์นัดยื่นเอกสารหลักฐาน ในวันที่ 4 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

ขณะนี้ครอบครัวนั้นมืดแปดด้าน แต่ยังคงหวังในกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จะให้ความช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงนำเรื่องร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เกิดขึ้นนี้

ขอบคุณภาพจาก : posttoday

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: