เปิดใจพ่อพิการพาลูก7ขวบขอทานด้วยกัน สะอื้นไห้ เผยชีวิตรันทดแต่เกิด ‘ชีวิตเลือกไม่ได้'(คลิป)





 

จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อ “จาร์ก๊อ รอบโลก” ได้โพสต์รูปภาพพ่อพิการพาลูกมาขอทาน กระทั่งเกิดการส่งต่อบนสื่อสังคมออนไลน์ และมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวอย่างกว้างขวาง

 

 

วันที่ 10 พ.ย. 61 ที่บ้านของนายขวัญ เผือกขวัญยืน ชายพิการที่ปรากฎภาพนำลูกไปขอทาน ภายในซอยอุดมสุข 30 กรุงเทพฯ พบว่าสภาพห้องเป็นห้องไม้ ภายในห้องเต็มไปด้วยขยะ โดยเจ้าตัวเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตัวเองพิการมาตั้งแต่เกิด สาเหตุเพราะแม่กินยาขับเลือดแต่รอดออกมาได้เลยไม่สมบูรณ์ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าพ่อแม่ของตนคือใคร ถ้ามีใครมาบอกว่าคนนี้คือแม่ของตน ตนก็เชื่อเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอหน้าแม่เลย

 

 

นายขวัญเล่าว่า ตนได้อยู่บ้านพักเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 11 ปี แต่บรรยากาศภายในบ้านพักฯ ไม่ค่อยดีนัก จึงได้ออกมาตั้งแต่อายุ 11 ปี จากนั้นก็มาพักอยู่ตามป้ายรถเมล์หรือข้างทาง เวลาหิวก็หาเศษอาหารตามขยะกิน ซึ่งใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน จนวันหนึ่งตนได้ไปเจอกลุ่มเด็กที่กำลังเตะฟุตบอลกันอยู่ จึงไปนั่งดูทุกวัน จนเพื่อนชื่อนายเอ็ม (นามสมมติ) เดินเข้ามาถามว่าบ้านอยู่ที่ไหน ตนก็บอกว่าไม่มีบ้านอยู่ นายเอ็มจึงชวนไปอยู่ด้วยที่บ้าน เป็นระยะเวลา 2 ปี แต่เหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อนายเอ็มประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต หลังจากนั้นตนก็ขอแม่ของเอ็มย้ายออกจากบ้านเพราะว่าเกรงใจ โดยวันที่ตนขอย้ายออกจากบ้านนั้น แม่เอ็มยังให้เงินติดตัวออกมาจำนวน 4,000 บาท ตนจึงได้มนำไปจ่ายค่าเช่าห้อง โดยเสียค่าห้องเดือนละ 1,000 บาท ขณะนั้นตนก็พยายามหางานทำ ซึ่งทำทุกงานที่ได้เงิน ไม่เลือกงาน

จากนั้นไม่นาน ตนได้เจอกับหญิงสาวรายหนึ่ง โดยได้สานสัมพันธ์จนได้เป็นสามีภรรยากัน และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ซึ่งตอนนี้อายุ 7 ขวบแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาย ภรรยาตนได้ไปมีสามีใหม่ และหนีไปโดยไม่บอกกล่าว แต่ขณะที่คบหากับตนอยู่ ภรรยาก็ชอบทำร้ายลูกด้วยการตี หรือ หยิกแม่ยายก็รับไม่ได้ที่ตนพิการ ช่วงเวลาที่คบกับผู้หญิงคนนี้มา นายขวัญยอมรับว่าไม่เคยให้ผู้หญิงคนนี้ทำงานเลย ให้ดูลูกอย่างเดียว ส่วนเงินที่ใช้ในครอบครัวตนก็จะเป็นคนหา ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ซึ่งขณะที่คบกันฝ่ายหญิงก็ได้ชวนมาอยู่ที่บ้านเช่าด้วยกัน ในบ้านก็จะมีตน ลูก ภรรยาและแม่ยาย ซึ่งขณะที่อยู่ในบ้านหลังนั้นนายขวัญบอกว่าไม่มีความสุข เหมือนอยู่กับลูกสองคน แม่ยายก็ไม่เคยเหลียวมองลูกตน แม้แต่กินข้าวก็ยังไม่เรียก ส่วนเงินค่าเช่าบ้านต้นก็ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทุกเดือน รวมถึงค่าน้ำค่าไฟด้วย ตกประมาณเดือนละ 3,500 บาท

 

 

กระทั่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ยายออกจากบ้านเช่าของภรรยาแล้ว เพราะลักษณะการพูดจาของแม่ยายเหมือนจะไล่ให้ออกมา และยังต้องเสียเงินให้แม่ยายอีก 2,000 บาท เป็นค่าบ้านอีกด้วย จนต้องเดินตัวเปล่าออกจากบ้านหลังนั้นกับลูก และได้มาเช่าอยู่ห้องปัจจุบัน ค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท ซึ่งขณะที่ออกมาก็มีคนใจบุญเข้ามาช่วยจึงได้มีที่พักอาศัย

ส่วนเรื่องขอทาน ตนได้คุยกับลูกแล้วว่า พ่อขอทำแบบนี้สักพัก ไม่ได้คิดว่าจะทำไปตลอด ซึ่งลูกก็เข้าใจ และลูกเคยพูดกับตนด้วยว่า ลูกไม่อาย เพราะพ่อจะส่งเรียน ตอนนี้ตนอยากมีบ้าน ส่วนที่ต้องขอทาน เพราะอยากหาเงินเพื่อทำทุนไปทำอย่างอื่นต่อ การขอทานนายขวัญบอกว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้ว เพราะตนเคยบอกลูกว่าถ้าเราไม่มี ก็ให้ขอเขา พอตั้งตัวได้ก็จะหันไปทำอย่างอื่น ตอนนี้ที่เป็นห่วงที่สุดคือลูก อยากให้ลูกเรียนสูง ๆ อยากให้ลูกสบาย ไม่อยากให้ลูกเป็นทุกข์เหมือนที่ตนเจอมา และที่ต้องเอาลูกไปขอทานด้วยเพราะว่าไม่มีใครดูแล และไม่ไว้ใจให้คนอื่นดูด้วย เพราะตนรักลูกมาก

ด้านนายธีรพงษ์ วงมะเซาะ เพื่อนบ้านที่รู้จักนายขวัญมานานกว่า 4 ปี เปิดเผยว่า นายขวัญเป็นคนนิสัยดี ตนเห็นว่าเขามักลูกให้เป็นคนดี ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกครั้งที่เจอ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายขวัญเป็นขอทาน รู้เพียงแค่ว่าทำงาน แต่ไม่ทราบว่าเป็นงานอะไร บางครั้งตนก็ยังเคยไปส่งที่หน้าปากซอยอีกด้วย เวลามีปัญหาอะไรก็จะช่วยเหลือตลอด

ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา นายธีรพงษ์บอกว่า เห็นนายขวัญเป็นคนสู้ชีวิตมาตลอด พยายามหาเงินเลี้ยงลูกและตัวเอง ไม่เคยเห็นว่าท้อ นอกจากนี้ นายขวัญยังเคยพูดกับตนด้วยว่าท้อได้ แต่อย่าถอย ซึ่งทำให้ตัวเองยอมรับในตัวนายขวัญที่สู้มาตลอดทั้งชีวิต

ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: