จากกรณี นายธนาวุฒิ บุญใส อายุ 27 ปี ซึ่งผูกคอตัวเองเสียชีวิต บริเวณประตูเหล็กดัดหน้าห้องพัก ของอะพาร์ตเมนต์ ในซอยนวลจันทร์ เนื่องจากทะเลาะกับแฟน ซึ่งฝ่ายหญิงไม่ยอมให้เข้าห้อง จึงเกิดความน้อยใจนั้น หลังจากนั้น แฟนสาว ได้โทรศัพท์หาแม่ของผู้ตาย บอกว่าลูกชายผูกคอตาย แล้วตอนนี้ศพ อยู่ที่ รพ.มีนบุรี
วันที่ 26 ต.ค. 61 นางโสภา แม่ของนายธนาวุฒิ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนไม่เชื่อว่าลูกชายจะผูกคอตาย เพราะตนเดินทางไปที่โรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลบอกว่า ไม่มีคนชื่อธนาวุฒิตาย ยิ่งทำให้ตนและญาติสงสัยมากขึ้น เมื่อสอบถามอดีตลูกสะใภ้ จึงทราบว่า ศพอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ตนจึงเดินทางไปรับศพ และยิ่งแปลกใจมากขึ้น เมื่อโรงพยาบาลแจ้งว่าได้ผ่าศพแล้ว ซึ่งทางญาติไม่ได้เซ็นอนุญาต
ที่สำคัญ ตนและครอบครัวข้องใจมาก เรื่องลูกชายผูกคอตาย เหตุใดจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ข้างศพ เป็นไปได้หรือไม่ ว่าคนตายจะรู้ตัวมาก่อน จึงเก็บเสื้อผ้ามากองไว้ข้างตัวและผูกคอตาย จึงรู้สึกมีพิรุธมากขึ้น ทั้งนี้ ยอมรับว่าลูกชายกินเหล้าแต่ไม่ถึงขนาดเมาหนักไม่เป็นผู้เป็นคน อย่างที่อดีตลูกสะใภ้กล่าวอ้าง อีกอย่างที่ตนสงสัย คือ ตอนตาย ลูกชายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตนฝากถึงอดีตลูกสะใภ้ว่า ให้พูดความจริง อย่าพูดเอาดีใส่ตัว ผู้เสียชีวิตพูดไม่ได้ อยากให้ตำรวจสอบสวนเรื่องนี้ และขอฝากขอโทษเจ้าของห้องเช่าด้วย หากเป็นไปได้ตนอยากจะบอกลูก ไม่ให้ทำแบบนั้น เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ผูกคอตายเอง อาจจะมีคนอื่นทำให้ตายมากกว่า
นางกุลจิรา กุลธรรม อาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าหลานชายจะผูกคอตาย เหตุการณ์ดังกล่าวมีเรื่องที่ญาติสงสัยหลายอย่าง ทั้งลักษณะการผูกคอตาย ซึ่งรัดแค่คางและเท้าแตะที่พื้น และเหตุใดผู้ตายจะต้องนำตระกร้าเสื้อผ้ามาไว้ข้างด้วย และอยากอดีตแฟนหลานชาย พูดความจริง
นางจิราภา แก้วใส หรือ น้อย เพื่อนข้างห้อง ผู้พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 04.20 น. ของวันจันทร์ที่ 22 ต.ค. 61 ตนเพิ่งกลับจากต่างจังหวัด เมื่อเดินขึ้นไปบริเวณห้องพักชั้น 3 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องผู้ตาย ตนเห็นนายธนาวุฒิ ยืนอยู่หน้าห้อง จึงทักทายตามปกติ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมตอบ จึงหันไปคุยอีกรอบ ก็ไม่มีเสียงตอบรับ กระทั่งหันไปมองรอบที่ 3 จึงเห็นความผิดปกติ คือ หน้าของนายธนาวุฒิซีดมาก และเมื่อมองเพ่งดู ก็พบว่า มีเชือกอยู่ที่คอ จึงทราบว่านายธนาวุฒิผูกคอตาย ตนตกใจมาก รีบวิ่งไปเคาะประตูห้องเพื่อนเพื่อให้เพื่อนออกมาดู แต่เพื่อนกลัวไม่กล้าออกมา ตนจึงต้องวิ่งลงไปตามคนดูแลตึก จากนั้นจึงโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยภาพที่ตนเห็น คือนายธนาวุฒิ ใช้เชือกสายกระเป๋าผูกคอกับประตูเหล็กดัดซี่บนสุด หันหน้าออกมาด้านนอก ขาของนายธนาวุฒิ เหยียดเกือบถึงพื้น หน้าซีด หลับตา ลักษณะคล้ายคนนอนหลับ ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ช่วงที่ดิ้น เหตุที่ห้องข้าง ๆ ไม่ได้ยิน เพราะอาจคิดว่าเป็นการเคาะประตู เนื่องจากก่อนเสียชีวิต เจ้าตัวทะเลาะกับแฟนและพยายามเคาะประตูห้องหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเปิด
นางจิราภา กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ นายธนาวุฒิ ไม่เคยพูดเรื่องฆ่าตัวตาย แต่เคยบ่นเรื่องที่แม่ของแฟนมาอาศัยอยู่ด้วย ทำให้ไม่ค่อยสะดวก ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยติดเหล้า แต่ก็เริ่มดีขึ้น จนช่วงที่แม่แฟนมาอยู่ด้วย จึงกลับไปดื่มอีกครั้ง ปกติแล้วนายธนาวุฒิเป็นคนร่าเริง ตนไม่เคยคิดว่าจะกล้าฆ่าตัวตาย ส่วนเรื่องทะเลาะกับแฟน ก่อนหน้านี้ก็มีบ้าง แต่พักหลังเริ่มเงียบไป จนวันที่เกิดเรื่อง
นางจิราภา เปิดเผยว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนไม่ได้กลับมานอนที่ห้องตัวเองอีกเลย เพราะความกลัว เนื่องจากภาพยังติดตา และคิดว่าจะย้ายออกจากอะพาร์ตเมนต์ ส่วนห้องอื่น ๆ ตนไม่ทราบ
ทั้งนี้ เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ ขอไม่ให้บันทึกภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ โดยระบุว่า ในตอนนี้ภาพรวมของผู้เช่ายังปกติ แต่ก็มีบางห้องที่อยู่ใกล้เคียง ขอย้ายออกเท่านั้น และหลังจากนี้ ก็เตรียมนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตต่อไป
ด้าน นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่คนที่ตั้งใจผูกคอตาย จะใช้เก้าอี้เพื่อยืนขึ้น ทำบ่วงผูกคอ แล้วทิ้งตัวลงมาจากที่สูง ขาลอยพื้น เมื่อขาลอยพื้นเท่ากับว่าเท้าจะไม่ได้รับน้ำหนัก น้ำหนักตัวทั้งหมดจะไปอยู่ที่เชือก ซึ่งกดรั้งไว้ที่หลอดลม ทำให้ร่างกายขาดอากาศหายใจ อาการคนผูกคอตายลักษณะนี้ ไม่น่าจะดิ้นแรง เพราะใช้เวลาไม่นานเกิน 10-15 วินาที ก็จะขาดอากาศหายใจ ก่อนจะแน่นิ่งไป เมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ จะทำให้หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด
ขณะเดียวกัน ชายที่ผูกคอตายหน้าลูกกรงเหล็ก ประตูห้องพัก ตนสังเกตว่าพฤติกรรมผิดปกติกว่าคนทั่วไป ที่คิดสั้นผูกคอตาย แต่อาจเป็นไปได้ว่า ผู้ตายอาจจะปีนลูกกรงเหล็กหน้าห้อง แล้วใช้เชือกผูกคอตายได้เช่นกัน กรณีดังกล่าว ชายที่คิดสั้นดื่มเหล้า ซึ่งปกติแล้วฤทธิ์แอลกอฮอล์ จะทำให้ง่วงซึมแล้วหลับไป ไม่คึกเหมือนคนเสพยาบ้า
แต่ถ้าหากมองว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นการฆาตกรรม ก็ต้องดูว่า มีร่องรอยการต่อสู้หรือไม่ เพราะผู้ตายอาจดิ้นรนต่อสู้ ซึ่งก็ควรจะมีเสียงดังเกิดขึ้น และตามร่างกายน่าจะมีร่องรอยฟกช้ำ หรือบาดเจ็บด้วย
อย่างไรก็ตาม หากผู้ตายเมาเหล้าหลับไป แล้วถูกคู่อริ ลากตัวไปก่อเหตุก็เป็นได้ เพราะผู้ตายอาจจะเมาเหล้าแล้วหลับไป โดยไม่รู้สึกตัว หรืออาจจะตายมาก่อน แล้วถูกจับมาแขวนคอหน้าห้องก็เป็นไปได้
โดยในเวลาต่อมา ทางเจ้าของหอพักก็ให้สัมภาษณ์กับ ThairathTV ว่าจะให้ภรรยาผู้ตายอยู่ฟรี ไม่คิดค่าเช่า จนกว่าจะสบายใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก : อัมรินทร์ทีวี, ThairathTV
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ