เปิดสาเหตุที่แท้จริง! “นายแบบป่วยมะเร็ง” ที่ผู้บริจาคสเต็มเซลล์ เปลี่ยนใจไม่ขอบริจาค!(ชมคลิป)





จากกรณี นายแบบ ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว อยู่ได้เพียง 6 เดือน มิหนาซ้ำ ถูกผู้ที่เคยตกลงจะให้บริจาคสเต็มเซลล์ ต่อมาปฏิเสธ เนื่องจากครอบครัวไม่ยินยอม ล่าสุดมีผู้รู้ที่เคยมีประสบการณ์บริจาคมาเผยข้อมูลผ่านพันทิปแล้ว พร้อมสาเหตุที่คาดว่า ทำให้ผู้ที่บริจาคคิดหนัก ไม่กล้าบริจาค

สืบเนื่องจาก กรณี ปาล์ม เปรมทัต นายแบบป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เกือบมีหวังเมื่อมีผู้ที่เลือดตรงกับเขา มาเข้ารับขอบริจาคสเต็มเซลล์ ก่อนที่เปลี่ยนใจไม่ขอบริจาค เนื่องจากครอบครัวไม่ยินยอม

ล่าสุดวันนี้ แอดมินจามจะพาไปชมรีวิวของผู้ที่มีประสบการณ์บริจาคสเต็มเซลล์ โดยเจ้าของเรื่องได้โพสต์กระทู้เล่าไว้ในพันทิป หัวข้อกระทู้ชื่อว่า "รีวิว บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตทางไขกระดูก (Stem Cell Donor)"โดยเจ้าของเรื่องได้เผยว่า ได้บริจาคไว้ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งไม่มีเจตนาจะโอ้อวดอะไร แต่จะบอกขั้นตอนการบริจาคเผื่อให้ผู้ที่คิดบริจาคได้ตัดสินใจ รวมถึงเปิดช่องทางให้ผู้ป่วยได้ต่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งขั้นตอนการบริจาค เธอเขียนไว้ในพันทิปว่า

"ขั้นตอนนี้การบริจาคทาง "หลอดเลือดดำ" และ "ทางไขกระดูก" น่าจะเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนคือ การบริจาคทางไขกระดูกนั้นต้องเข้าห้องผ่าตัดดังนั้นเราจึงต้องไปที่ธนาคารเลือดของ รพ.ศิริราช เพื่อเก็บเลือดของเราไว้ใช้ในการผ่าตัดด้วย 2 ถุง

หลังจากนั้นก็นัดวันบริจาคโดยต้องไปค้างที่โรงพยาบาลก่อน1คืน หลังจากนั้นก็ถึงวันที่รอคอยค่ะ เข้าห้องผ่าตัดแต่เช้า วางยาสลบ คุณหมอจะ ใช้เข็มขนาดใหญ่เจาะไปที่กระดูกเราเพื่อดูดเอาสเต็มเซลล์ออกมาตอนแรกเราอยากบริจาคทางหลอดเลือดดำมากกว่าเพราะเหมือนจะง่ายกว่า แต่คุณหมอบอกว่าวิธีนี้จะดีกับโรคของผู้ป่วยมากกว่า ก็โอเคค่ะ หมอว่าไงหนูก็ว่างั้น พอผ่าตัดเสร็จจะมีเจ้าหน้าที่จะสภากาชาดมารอสเต็มเซลล์ที่หน้าห้องผ่าตัดเลย เพราะก็ต้องรีบเอาไปให้ผู้ป่วย เราก็พักฟื้นอีก 1 คืน ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนก็กลับบ้านได้เลยค่ะ

ขั้นตอนการดูน่ากลัวแต่ไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้นนะคะ วันรุ่งนี้เราสามารถเดินจากห้องพักไปไหว้อนุเสาวรีย์พระบรมราชชนกได้ เดินเหินได้ปกติค่ะความมหัศจรรย์ของสเต็มเซลล์คือหลังปลูกถ่ายติดกรุ๊ปเลือดผู้ป่วยจะเปลี่ยนตามผู้บริจาคค่ะ เค้าจะกลายเป็นคู่แท้ของเราโดยสมบูรณ์ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน อิอิอิ

ขั้นตอนต่างๆ ของผู้บริจาคเหมือนจะยุ่งยาก แต่ทางผู้ป่วยก็ยุ่งยากไม่แพ้กันนะคะ เพราะก่อนปลูกถ่ายผู้ป่วยต้องกินยาฆ่าภูมิคุ้มกันตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต่อต้านสเต็มเซลล์ที่รับเข้าไป ดังนั้นใครที่ตัดสินใจแล้วว่าจะบริจาคขอร้องว่าอย่าเปลี่ยนใจนะคะ"

ต่อมาชาวเน็ตท่านหนึ่ง ได้ศึกษาเกี่ยวกับ การบริจาคสเต็มเซลล์ และพบสันนิษฐานว่า ความน่ากลัวของผู้บริจาคอาจเกิดจาก "วิธีการเก็บเสต็มเซลล์บางวิธีก็อาจจะน่ากลัวในสายตาคนทั่วไป เช่น การต้องดมยาสลบในห้องผ่าตัด แต่สำหรับบางคนอาจใช้อีกวิธีอื่น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย" ชมคลิป

ขอบคุณที่มา : ทุบโต๊ะข่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: