ลูกหนี้ตัวอย่าง! ขอบคุณ ช.พ.ค.ทำชีวิตดีขึ้น เห็นต่างครูเบี้ยวจ่าย ถ้าวางแผนก่อนกู้อยู่ได้(มีคลิป)





 

จากกรณีกลุ่มวิชาชีพครู รวมตัวกว่า 100 คน ประกาศปฏิญญามหาสารคาม เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารออมสิน พักหนี้ โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ช.พ.ค. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 เป็นต้นไป โดยอ้างว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นอัตราไม่คงที่

วันที่ 18 ก.ค. 61 นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภาเปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และเข้าใจว่า อาจเป็นความเดือดร้อนของครู แต่การที่ครูจะไม่จ่ายหนี้ คงไม่สามารถทําได้ ทั้งนี้ การกู้ยืมมีการทําสัญญาระหว่างครูซึ่งเป็นผู้กู้ กับธนาคารออมสิน และในการกู้แต่ละโครงการ ผู้กู้จะทราบดีว่าตัวเองต้องจ่าย ดอกเบี้ยจํานวนเท่าใด และต้องทําสัญญาใดบ้าง ดังนั้นก็ต้องชําระหนี้ตามกฎหมาย จะเบี้ยวหนี้ไม่ได้ หากคนที่ตั้งใจจะไม่ใช้หนี้จริง ๆ ก็จะต้องถูกดําเนินการทางกฎหมาย

 


สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์

 

ทั้งนี้ หากครูคนไหนเบี้ยวหนี้ ก็จะเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณครู และมีโทษทางวินัยด้วย ส่วนครูกลุ่มดังกล่าว ยังไม่ถือว่าเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณ เพราะยังไม่มีการตรวจสอบว่า เบี้ยวหนี้จริงหรือไม่ หากทางธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามา ทางคุรุสภาก็จะดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีมูลจริงตามที่ถูกกล่าวหา จะเสนอให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ลงโทษทางวินัยกับครูที่ไม่จ่ายหนี้

ด้าน นางทิราวรรณ อันทะนิล พนักงานราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นบุคลากรทางการศึกษา ในจังหวัดมหาสารคาม ช่วงแรกของชีวิตการทำงานมีเงินเดือนประมาณ 15,000 บาท ตนกู้เงิน ช.พ.ค. มาจำนวน 800,000 บาท เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่ให้กับตัวเองและครอบครัว โดยส่วนหนึ่งใช้ซื้อบ้าน และเช่าซื้อรถยนต์ อีกส่วนก็ใช้เป็นทุนทำอาชีพเสริม ตอนนี้ใช้หนี้ไปแล้วประมาณ 7 ปี มียอดหนี้คงเหลืออยู่ประมาณ 730,000 บาท ยอมรับว่าขณะนั้นไม่มีธนาคารใด หรือโครงการใด จะให้กู้เงินมากขนาดนี้กับคนที่มีเงินเดือนน้อย จึงต้องขอบคุณโครงการ ช.พ.ค. ที่ช่วยให้มีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น และก่อนที่จะได้เงินมา ตนเชื่อว่าทุกคนควรได้ศึกษาข้อมูล และยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ รวมทั้งมีการวางแผนการไว้แล้ว หากมาถึงวันนี้ จะขอยุติการใช้หนี้ ตนเองมองว่า ขึ้นอยู่กับวินัยและการวางแผนการใช้จ่ายเงินของแต่ละคน

 


นางทิราวรรณ อันทะนิล

 

โดยปัจจุบัน ตนมีเงินเดือนประมาณ 22,920 บาท เหลือเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว แค่ 2,200 บาท ซึ่งก็ไม่มีปัญหากับการจ่ายหนี้ เพราะตนไม่ได้เอาเงินส่วนที่ต้องใช้หนี้ ช.พ.ค.ไปใช้ทางอื่น และไม่ได้ไปกู้ยืมเงินทางอื่น หรือกู้เงินนอกระบบมาใช้หนี้ ช.พ.ค.

นางทิราวรรณ ระบุว่า บางคนอาจถึงขั้นไปกู้ยืมเงิน สร้างหนี้แบบเสียดอกเบี้ยรายวัน ก็อาจจะทำให้มีปัญหาชำระหนี้ ช.พ.ค. ได้ แต่ตนมีเงินเหลือก็ยังแบ่งไปเป็นเงินเก็บอีกส่วนหนึ่งด้วย ส่วนที่เหลือจากเงินที่ตั้งใจเก็บออมทุกเดือน ก็จะถูกนำมาใช้รวบรวมกับรายได้อื่น ๆ ที่เคยเอาเงินกู้ส่วนหนึ่งของ ช.พ.ค. ไปใช้เป็นทุนประกอบอาชีพเสริมตามที่วางแผนไว้ และหากใช้ชีวิตในเมืองมหาสารคามเป็นเมืองการศึกษา สามารถใช้ชีวิตได้แบบเรียบง่ายด้วยต้นทุนที่ไม่สูงมากได้

ด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อสุขภาพคนไทย” ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การเป็นหนี้ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ มีเกียรติ และหนี้ก็ไม่ได้มีใครเอาไปใช้ ตัวเองเอาไปใช้เอง จะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ ให้ครูขอทยอยใช้หนี้ไป เพราะรัฐบาลจะช่วยดูแล ทุกคนเคยมีหนี้กันทั้งนั้น ตนก็เคยมี ถ้าเราพัฒนาตัวเอง เราก็จะชนะอุปสรรค

ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: