แกร่ง-เสี่ยงตายไม่แพ้กัน! เปิดใจ ‘คุณเอื้อย ศศิวิมล’พลังใจสำคัญของ’ผบ.หน่วยซีล’





 

เปิดใจ ศศิวิมล อยู่คงแก้ว ภริยา พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ผู้ซึ่งมีอีกหน้าที่หนึ่งคือเป็นแอดมินเพจ Thai NavySEAL ที่มียอดคนติดตามสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงภารกิจค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมี เกือบทะลุ 2 ล้านคน

พี่เอื้อย หรือ คุณศศิวิมล จะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ยังไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน รวมไปถึงเรื่องชวนขนหัวลุกที่เกิดขึ้นภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

ภารกิจที่ถ้ำหลวงจบแล้ว หายเหนื่อยแล้วหรือยัง
– มันก็เป็นภาวะการทำงานปกติที่เราต้องทำงานเต็มที่ ถามว่าเหนื่อยหรือไม่ ก็โอเค อาจจะไม่ได้พักเท่าที่ควร เวลานอนก็ไม่ได้นอน กินก็ไม่เป็นเวลา ตอนนี้ถือว่าเสร็จงานแล้ว เราได้อยู่นิ่งๆ สักพักหนึ่งก็ถือว่าโอเคแล้ว

ท่าน ผบ.หน่วยซีล ได้นอนเต็มอิ่มแล้วหรือยัง
– เรียกว่าได้นอนมากกว่าตอนอยู่ในพื้นที่ เพราะที่ถ้ำหลวง เราจะกลับโรงแรมกันประมาณ 03.00 น. และตื่นในเวลา 06.00 น. เพราะมีประชุมกับทีมงานที่เตรียมตัวเข้าถ้ำ เรียกได้ว่า งานนี้ทุกคนเหนื่อยเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหน

ในฐานะภรรยาให้กำลังใจกันอย่างไร
– เราไม่ได้คุยกันเยอะ หน้าที่เขาก็ทำเต็มที่ ส่วนเราก็ดูอยู่ห่างๆ มีเป็นห่วงบ้าง เขาอาจจะกินข้าวไม่ค่อยเป็นเวลา ก็บอกให้น้องๆ คอยดูแล เพราะส่วนตัวต้องเข้าไปในถ้ำ เข้าไปเก็บภาพ ไม่ได้อยู่ดูแลเขา แต่ก็เป็นสไตล์ของครอบครัวเรา กินง่าย อยู่ง่าย ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย

แบ่งงานการถ่ายภาพในถ้ำหลวงกันอย่างไร
– เรามีน้องช่างภาพที่เป็นมนุษย์กบ 3-4 คน ในวันที่มีการเคลื่อนย้ายเด็กออกจากถ้ำ ก็ต้องแบ่งงานกันว่าใครอยู่จุดไหน รับผิดชอบตรงไหนบ้าง เพราะตั้งแต่จุดเนินนมสาวจนถึงปากถ้ำ ค่อนข้างมีเส้นทางยาวพอสมควร

คนที่อยู่ข้างในถ้ำนานๆ มีปัญหาเรื่องสุขภาพบ้าง
– พื้นที่ตรงนั้นค่อนข้างมีความเป็นพิเศษ หลายคนอาจจะคิดไม่ถึง ส่วนตัวมีโอกาสได้เข้าไปถึงห้องโถง 3 ช่วงก่อนที่น้ำจะท่วม ได้เห็นเส้นทางจากปากถ้ำเข้าไปก็รู้ว่าต้องผ่านอะไรบ้าง ขอใช้คำว่า แค่เดินเท้ายังลำบาก พลทหารที่ลากสายไฟ 1,000 เมตร เข้าไปต่อเครื่องสูบน้ำในถ้ำยังต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ยิ่งช่วงหลังน้ำเข้ามาปิดเส้นทาง ก็เกิดความยุ่งยากเข้าไปอีก ฉะนั้นบอกได้เลยว่าพื้นที่มันยากจริงๆ

ทุกคนในถ้ำถือว่ามีกำลังใจที่ดี
– งานนี้ขอใช้คำว่า เราระดมพลังทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ ทั้งพลังคนและพลังที่มองไม่เห็น มาช่วยกันทำงานจนประสบความสำเร็จ

มีคนพูดถึงเรื่องลี้ลับบ้างหรือไม่
– ก็มีบ้าง แต่มนุษย์กบทุกคนต้องผ่านการเรียกพลังตัวเองขึ้นมา แม้ว่าการดำน้ำจากห้องโถง 3 ไปที่จุดเนินนมสาว ปริมาณน้ำจะขุ่นและทัศนวิสัยมืดมาก เหมือนกับต้องหลับตาคลำทางอยู่ในน้ำเย็น ดังนั้นพวกเขาต้องใช้คนที่มีจิตใจเข้มแข็งในการทำงาน ถ้าใครนึกไม่ออก อยากให้ลองไปแช่อยู่ในน้ำที่เย็นๆ แล้วจะได้อารมณ์และเข้าใจสภาพการทำงานของมนุษย์กบที่อยู่ในถ้ำหลวง

เรื่องลี้ลับมีหลากหลายแบบ แต่เราทุกคนไม่อยากจะไปพูดถึงตรงนั้น ขอบอกแค่ว่า มีพลังทุกอย่างอยู่ในถ้ำหลวงจริงๆ

 

ท่าน ผบ.หน่วยซีล บอกว่าจบภารกิจ สิ่งแรกที่อยากทานคืออาหารใต้
– เขาเป็นคนทานง่าย แต่พี่เป็นคนไม่ทำกับข้าว (หัวเราะ) คือไม่ถนัดจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ซื้อทาน หรือกินข้างนอกบ้าน ส่วนวันที่อยู่ในพื้นที่ทำงาน เรามีโรงครัวพระราชทาน และอาหารที่คนนำมาให้มากมาย

เคยลุยยอดเขาเอเวอเรสต์ เบสแคมป์ และลุยทวีปแอนตาร์กติกา ถือว่าเป็นหญิงแกร่งและเข้มแข็งคนหนึ่ง
– ก็โชคดีว่า จะเดินทางไปไหนไม่เคยป่วยระหว่างการเดินทาง อาจจะมีภูมิต้านทานเยอะ รับเชื้อมาไว้ทุกอย่างในตัวจนกลายเป็นภูมิต้านทาน (หัวเราะ)

ส่วนตัวเป็นคนออกกำลังกายประจำ
– ไม่ออกกำลังกายเลย เต็มที่จริงๆ จะออกกำลังกายก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย แต่ส่วนตัวไม่ใช่เป็นคนเข้าฟิตเนส แต่ถ้าเรื่องยิงปืนก็เรียกว่าของชอบ (หัวเราะ)

ในฐานะแอดมินเพจ Thai NavySEAL รู้สึกอย่างไรที่มีผู้ติดตามเกือบ 2 ล้านคน
– ดีใจที่เราได้ทำเพจให้เป็นที่น่าเชื่อถือ และเป็นสื่อที่ทุกคนจับตามองตลอด เพราะข้อมูลจากเพจนี้เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ พวกเขาก็จะเฝ้ารอกันว่า เมื่อไรเพจนี้จะพูดอะไรออกมา มาถึงตรงนี้คิดว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว

ส่วนยอดติดตามจะเข้ามาเท่าไรไม่ได้ตื่นเต้น เพราะมันเกิดขึ้นจากผลที่เราทำ ยอดขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ได้แต่บอกทีมงานว่า วันนี้เราทำอะไรก็ตาม มีคนเขาเฝ้าดูอยู่ และเมื่อสามีหมดวาระจาก ผบ.หน่วยซีล เราก็ต้องตามเขาไปด้วย ก็พยายามฝึกฝนทีมงานที่จะขึ้นมาดูแลเพจ ขอให้เขาใส่ใจสิ่งที่ทำเหมือนกัน

ชีวิตส่วนตัวผ่านการผจญภัยมามากมาย ยังมีอะไรที่อยากทำอีกไหม
– สิ่งที่อยากทำคือถ่ายทอดประสบการณ์ตัวเองให้คนอื่น โดยเฉพาะในแง่สื่อมวลชน ประสบการณ์ที่เรามีอยากให้สื่อมวลชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ เราทำงานไม่ได้เป็นไปตามทฤษฎี การทำรายการถ่ายสารคดี ก็ไม่เคยมีบทที่เขียนล่วงหน้า รู้แต่ว่าจะไปที่ไหน ที่เหลือเป็นการถ่ายทอดสิ่งที่เราเห็น เจออะไรบอกอย่างนั้น ก็อยากให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้จากสิ่งนี้

ในฐานะที่เป็นภรรยา ผบ.หน่วยซีล อยากให้ภรรยาของน้องๆ หน่วยซีล ที่จะขึ้นมาทำหน้าที่ต่างๆ ก็อยากสื่อสารให้เขารู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง เพราะภรรยาถือเป็นพลังสำคัญให้กับสามี โดยเฉพาะการสนับสนุนการทำหน้าที่ของมนุษย์กบ เมื่อเขาออกไปทำงาน ภรรยาของทุกคนก็ไม่ทราบว่าไปไหน เพราะเป็นงานลับและเสี่ยงอันตราย เราก็มีหน้าที่ดูแลคนที่อยู่ที่บ้าน นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นภรรยาต้องเรียนรู้ว่างานของสามีเราเป็นอย่างไร

ครอบครัวไม่ได้มีลักษณะที่เช้าไปทำงาน กลับมาตอนเย็นนั่งกินข้าวพร้อมกัน ครอบครัวมนุษย์กบไม่ใช่อย่างนี้ เรื่องพวกนี้ก็จะมีผลต่อลูกๆ ด้วย อย่างชีวิตส่วนตัวเราต้องเดินทางตลอด สามีก็ทำหน้าที่อยู่อำเภอสัตหีบ เราเลี้ยงลูกผ่านโทรศัพท์ ถึงเวลาหนึ่งต้องอธิบายให้เขาเข้าใจว่า เราและสามีทำงานอย่างไร

 

 

มีคนบอกว่า ผบ.หน่วยซีล ดูแข็งกร้าว มีมุมโรแมนติกบ้างหรือไม่
– (หัวเราะ) ของพี่หรอ พี่ไม่รู้ว่าโรแมนติกคืออะไร

เมื่อวันก่อน ผบ.หน่วยซีล ขอบคุณออกสื่อ บอกว่าเป็นกำลังใจที่คอยสนับสนุนมาโดยตลอด
– ก็เพิ่งได้ยินนี่ล่ะ แต่อย่างที่บอกว่า เราไม่ต้องคุยกันเยอะ งานของเรา สามีก็รู้ว่าเราไปไหน ไปเจออะไร ก็ไม่ต้องมาบอกว่าเป็นห่วงหรือห้ามไม่ให้ไปนะ

ตกลง ผบ.หน่วยซีล ดุจริงหรือไม่ เห็นมีแต่คนกลัว
– สำหรับลูกน้องเขาดุ ลูกน้องกลัว (หัวเราะ)

แต่เขาว่ามีคนเดียวที่ไม่เคยกลัวคือภรรยา
– มันก็ต้องมีบ้าง (หัวเราะ)

ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: