จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊ก “ปรมินทร์ เกษมสุข” ได้โพสต์คลิปของ 3 พ่อลูก ถูกพี่สาวซึ่งเป็นป้าของเด็กๆ น้ำร้อนสาดใส่จนพุพอง เนื่องจากป้าเข้าใจว่าเด็กมองหน้า เนื่องตัวป้ามีความผิดปกติเรื่องหูและการพูดจนเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจคิดว่าเด็กไปว่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : เด็กไปทำอะไรให้! 3พ่อลูกระทม โดนป้าสาดน้ำร้อนใส่ รู้ชีวิตครอบครัวยิ่งน่าเวทนา
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 25 พ.ค. นายสุรกิต ศรีคำ ผอ.โรงเรียนบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ของ อบต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก และผู้นำท้องถิ่น เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ 9 ต.บ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อ.เนินมะปราง ซึ่งเป็นบ้านของนายนิพนธ์ แหยมนุช อายุ 49 ปี ที่พักอาศัยอยู่กับลูกสาว 2 คน อายุ 14 ปี และ 12 ปี
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า คลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปเกิดขึ้นช่วงเย็นของวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ลูกสาวทั้ง 2 คน กลับจากโรงเรียนและกำลังจะหุงข้าวทำอาหาร แต่ถูกนางสุนีย์ แหยมนุช อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของตน และเป็นป้าของลูกๆ ตน เรียกให้ไปหาที่บ้านใกล้เคียงกัน แต่ตนบอกลูกกินข้าวให้เรียบร้อยก่อน ทำให้ป้าที่อยู่ในอาการมึนเมาเดินมาตามถึงบ้านแล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นป้าได้ยกหม้อหุงที่ตั้งไว้บนเตาถ่านร้อนๆ สาดใส่ตน ส่วนลูกสาวเข้าห้ามจนถูกน้ำร้อนเดือดๆ ลวกตามร่างกายหลายแห่ง ตนจึงคว้าเสียมฟาดไปที่ศรีษะนางสุนีย์จนแตก จากนั้นมีนางสายฟ้า อาจบุ้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 และ นางบุญสม มารอด ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก ซึ่งมีบ้านติดกันได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงวิ่งมาดูก่อนจะถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน และพากันไปพบแพทย์เพื่อรักษาดูอาการที่โรงพยาบาลเนินมะปราง ก่อนจะไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินมะปราง แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับฝ่ายใด
ด้าน นางบุญสม กล่าวว่า ตอนแรกตนคิดว่านายนิพนธ์ ดื่มสุราจนมึนเมาแล้วตีลูกสาว เมื่อไปถึงที่บ้านก็พบว่าเป็นเรื่องทะเลาะกันในครอบครัว ตนสงสารเด็กเพราะถูกน้ำร้อนลวกจนปวดแสบปวดร้อน จึงหายาสีฟันและว่านหางจระเข้มาทาที่แผลบรรเทาอาการในเบื้องต้น ต่อมาตำรวจได้สอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะดูผลตรวจจากแพทย์อีกครั้งเพื่อลงความเห็นจะดำเนินคดีหรือไม่ เพราะอาจจะไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความกันได้ แต่ที่น่าสงสารคือบ้านหลังที่เด็กอาศัยอยู่นั้นเมื่อก่อนเป็นที่ดินของป้าคนดังกล่าว กระทั่งทางหน่วยงานราชการได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือซื้อที่ดินให้อยู่อาศัย และได้ต่อพ่วงไฟฟ้ามาจากบ้านของป้า แต่ระยะหลังมีปากเสียงทะเลาะกันป้าจึงไม่ยินยอมให้ใช้ไฟ เด็กสาวทั้งคู่จึงต้องจุดตะเกียงทำการบ้านหรืออ่านหนังสือด้วยความยากลำบาก ขณะนี้มีผู้ใจบุญที่ทราบข่าวและเคยมาช่วยเหลือเด็กยากไร้ที่โรงเรียนบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก เพื่อจะเข้ามาดำเนินการดูแลเรื่องขอไฟฟ้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 27 พ.ค.นี้
ขณะที่ลูกสาวทั้ง 2 คนของนายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้พ่อกับป้าทะเลาะกัน อยากให้ปรับความเข้าใจกัน และอยากมีไฟฟ้าใช้ที่บ้าน เนื่องจากปัจจุบันอยู่ด้วยความยากลำบาก ต้องจุดตะเกียงทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ แสงไฟไม่เพียงพอทำให้ปวดตา นอกจากนี้ยังอยากพบหน้าแม่แท้ๆ ที่ไม่ได้เจอกันถึง 5 ปี เพราะพ่อกับแม่เลิกรากันไป จึงต้องอาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพัง ครอบครัวมีฐานะยากจน ช่วงปิดเทอมต้องไปรับจ้างพับถุงกระดาษได้ค่าแรงเพียงเล็กน้อย นำเงินพกติดตัวไปเรียนวันละ 10–15 บาทเท่านั้น
ทางด้าน นายสุรกิต กล่าวว่า เด็กทั้ง 2 คน เป็นเด็กเรียนดีมาก พี่สาวคนโตเรียนได้เกรดเฉลี่ยถึง 4.00 และสอบได้ที่ 1 ของห้องเป็นประจำ ส่วนคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น หลังตนทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียกเด็กมาสอบถามเรื่องราว และให้คุณครูติดตามไปดูแลที่บ้านพักเพื่อพูดคุยกับผู้ปกครอง ทั้งนี้จะให้คู่กรณีที่มีเรื่องบาดหมางระหว่างครอบครัวมาปรับความเข้าใจกัน เพราะสงสารเด็กที่ไม่รู้เรื่องด้วย ซึ่งหลังเกิดเรื่องมีผู้ใจบุญโทรมาสอบถามอย่างไม่ขาดสาย เพราะต้องการจะมอบทุนการศึกษาให้เด็ก ซึ่งตนก็ยินดีไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้ใจบุญต้องการจะช่วยเหลือก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 0819731225 หรือช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขาเนินมะปราง ด.ญ.นิธิพร แหยมนุช เลขที่ 020213598558
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ