ขรก.ด้านตุลาการ เล็งสวนกลับ กลุ่มต้านหมู่บ้านป่าแหว่งเชียงใหม่ เตรียมฟ้องเอาผิดคอมเม้นท์หมิ่นศักดิ์ศรี!!





 

เครือข่าย "ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ" ยังคงเดินหน้ายกระดับชุมนุมใหญ่ 29 เม.ย.ค้านหมู่บ้านป่าแหว่งในขณะเดียวกันฝ่ายตุลาการหนุ่มรวบรวมคอมเม้นท์ดูหมิ่นศักด

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1263457

เครือข่าย "ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ" ยังคงเดินหน้ายกระดับชุมนุมใหญ่ 29 เม.ย.ค้านหมู่บ้านป่าแหว่งในขณะเดียวกันฝ่ายตุลาการหนุ่มรวบรวมคอมเม้นท์ดูหมิ่นศักดิ์ศรี ฟ้องเอาผิด


กลุ่มเครือข่าย"ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ"ยังคงเดินหน้ารณรงค์ให้คนเชียงใหม่และผู้ไม่เห็นด้วยกับบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ป่าดอยสุเทพ เพื่อจะรวมพลังเรียกร้องให้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งในการดำเนินการจัดการในเรื่องนี้ โดยจะมีการชุมนุมกันพร้อมผูกริบบิ้นสีเขียวในที่บริเวณลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ โดยกระแสที่เกิดขึ้นชาวเชียงใหม่ตื่นตัวและให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก โดยมีแนวร่วมกลุ่มต่างๆทยอยเข้ามาร่วม ไม่เพียงเฉพาะเครือข่ายในเชียงใหม่ ยังมีกลุ่มเครือข่ายจำนวนมากของจังหวัดใกล้ และกลุ่มโชเชียลหลายกลุ่มมีการคอมเม้นท์ในเรื่องนี้โดยใช้ถ้อยคำต่อว่า และใช้ถ้อยคำหยาบกับฝ่ายตุลาการอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 เม.ย.นี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการปรับทุกข์ทางโทรศัพท์กับ ผู้พิพากษาที่เคยประจำอยู่พื้นที่ จ.เชียงใหม่คนหนึ่งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้ทางกลุ่มผู้พากษาไม่มีโอกาสได้ออกมาพูดกันเลย ได้แต่อ่านข่าวจากสื่อที่รับเรื่องมาจากเครือข่ายต่างๆ อยู่ฝ่ายเดียวจนเกิดกระแสโจมตีทางโชเชียล มีการคอมเม้นท์ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ดูถูกหมิ่นเกียรติผู้พิพากษา ที่ไม่ได้ไปก่อสร้าง หรือเกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านพัก ถึงแม้ในเรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้ใหญ่จะไม่ให้ตอบโต้หรือเอาผิด

แต่ในส่วนของกลุ่มผู้พิพากษาที่เห็นว่าขบวนการยุติธรรมถูกโจมตี ดูหมิ่นศักดิ์ศรี ทนไม่ได้ จึงได้รวบรวมคอมเม้นท์ชาวเว็บต่างๆ ที่ใช้ถ้อยคำดูหมิ่น หยาบคาย เพื่อจะดำเนินการในเรื่องนี้ โดยกลุ่มเครือข่ายต่างๆ เป็นฝ่ายได้เปรียบในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอยู่ด้านเดียวทำให้เกิดมี คลิปเสียงและภาพจำนวนมากของนักวิชาการและกลุ่มคัดค้านที่ออกมาด่าคอมเม้นท์ดูถูกเหยียดหยามในเรื่องนี้อย่างรุนแรงจนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในขบวนการศาลยุติธรรมและผู้พิพากษาอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียใจ และอันตรายต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่ง ทำให้ประชาชนทั้งประเทศขาดความเชื่อมั่นศรัทธาต่อศาลยุติธรรม โดยเรื่องปัญหาบ้านพักทางศาลยุติธรรม ก็ไม่ได้เป็นผู้กำหนด เราพยายามหาที่ดินในการดำเนินการสร้างบ้านพัก เพราะพื้นที่เก่าหลังศูนย์ราชการเชียงใหม่ ก็มีการคืนให้กับราชการไปแล้ว มีผู้พิพากษาหลายคนที่มาประจำที่เชียงใหม่ ต้องไปอยู่บ้านเช่าหรือคอนโดมิเนียมอย่างลำบาก แต่ก็ไม่เคยมีใครออกมาปริปากบ่น จนเมื่อมีการสร้างบ้านพักให้เพื่อจะได้มีที่อยู่เหมือนหน่วยงานหรือองค์กรอื่น แต่ก็มาถูกโจมตีด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อผู้พิพากษาทุกคน โดยไม่มีการแยกแยะความผิดถูกโดยเราไม่มีโอกาสได้ชี้แจงเลย ในเรื่องนี้ถือเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรี ดูหมิ่น อย่างรุนแรง ถึงแม้ผู้ใหญ่จะออกข่าวไม่เอาความแต่ ทางกลุ่มผู้พิพากษาที่ทนไม่ได้กับพฤติกรรมความกร้าวร้าว ถ้อยคำที่รุนแรง ก็คงจะต้องมีการรวบรวมถ้อยคำทั้งภาพและคอมเม้นท์เพื่อดำเนินการกอบกู้ศักดิ์ศรีที่ถูกย่ำยีกลับคืนมา


นางคำสีดา แป้นไทย กลุ่มเฮาฮักเชียงใหม่ เป็นเครือข่าย"ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ" กล่าวถึงเรื่องที่ทางกลุ่ม ขรก.จะมีการรวบรวมถ้อยคำในโชเชียล และคลิปที่เข้าข่ายดูหมิ่นโดยการใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า ในเรื่องนี้ทางเครือข่ายได้มีการปรามและควบคุมการใช้วาจา ในลักษณะหยาบคายรุนแรงมาตลอด เพราะการเรียกร้องของพวกเราใช้ความสงบหลักและเหตุผล ในการต่อสู้เรียกร้องมาโดยตลอด แต่พวกตนไม่สามารถจะไปควบคุมการโพสต์ คอมเม้นท์ของเว็บไซต์ต่างๆได้ พวกเราไม่สนับสนุนในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แม้จะมีบ้างที่พูดในเชิงน้อยอกน้อยใจในเรื่องที่เกิดขึ้นกับป่าดอยสุเทพ การเรียกร้องของพวกเราทำในกรอบมีการประชุมร่วมกันมาตลอดพร้อมทั้งปรามกันในเรื่องการใช้ถ้อยคำไม่ให้ยั่วยุและหยาบคาย พวกเราไม่สนับสนุน อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 เม.ย.ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ขอให้ชาวเชียงใหม่และผู้ไม่เห็นด้วยออกมารวมพลังกันให้มากๆ

ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: