น้องแพรวเปิดใจหลังได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน เผยคดีเข้าสู่ชั้นศาล หลังเคลียร์กับคู่กรณีไม่ลงตัว คู่กรณีอ้าง’เรียกเงินเยอะไป’





 

แม่น้องแพรวเผย นัดเคลียร์คู่กรณีครั้งที่ 2 ไม่ลงตัว ยันอีกฝ่ายไม่เคยโทร. หา – มาเยี่ยมตามที่อ้าง ด้านคู่กรณีเผยถูกเรียกเงินเยอะไป ชี้เรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด วอนสังคมให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย

ข่าวน้องแพรว นางสาวพัชนก โพยนอก อายุ 23 ปี พยาบาลสาวในคลิปถูกรถยนต์สีขาวคู่กรณีชนจนกระเด็นขณะจอดรถรอสัญญาณไฟจราจร จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องตัดม้ามทิ้งนั้น ล่าสุด (12 มีนาคม 2561) มีรายงานว่า น้องแพรว เดินทางกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว หลังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 1 เดือน

 

 

โดยในเรื่องของคดีความขณะนี้อยู่ระหว่าง พ.ต.ต. สุเนตร สรรพสมบัติ  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสั่งฟ้องส่งสำนวนไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู หลังการเจรจาครั้งที่ 2 ไม่เป็นผล ยังตกลงเรื่องค่าสินไหมกันไม่ได้ โดยนางกุสุมา โตนชัยภูมิ อายุ 47 ปี แม่ของน้องแพรว เผยว่า ครอบครัวตนเองไม่ได้มีฐานะอะไร พ่อน้องแพรวทำงานก่อสร้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งน้องแพรวเองก็เพิ่งเรียนจบและมาเป็นพยาบาล เป็นเสาหลักให้ครอบครัวได้ไม่นาน การเจรจากันไม่สำเร็จทั้ง 2 ครั้ง ตนเองอยากให้คู่กรณีมองในเรื่องของคุณธรรม หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวคุณ ลูกสาวคุณต้องโดนตัดม้ามทิ้ง ร่างกายไม่เหมือนเดิม คุณจะรู้สึกอย่างไร

นางกุสุมา กล่าวอีกว่า ตนเองอยากให้คู่กรณีมีน้ำใจมากกว่านี้ มีความจริงใจเหมือนกับที่ตอนไปเยี่ยมน้องแพรวที่โรงพยาบาลครั้งแรก ที่มาอ้อนวอนตนเองให้เห็นใจว่าไม่ได้ตั้งใจขับรถชน ซึ่งหลังจากน้องแพรวออกจากโรงพยาบาล คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยม หรือโทร. มาหาตามที่กล่าวอ้าง มีแต่ฝ่ายตนเองที่ต้องโทร. ไป เพื่อนัดเจรจาที่โรงพัก จนวันนัดจริงก็มาสาย นัดบ่ายโมง กลับมาบ่ายสองครึ่ง

 

 

ขณะที่ น้องแพรว กล่าวว่า ตนเองอยากขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและคอยสอบถามอาการ ซึ่งตอนนี้อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังมีอาการเจ็บที่ต้นคอเวลาหัน หัวเข่าขวางอไม่ได้ และเจ็บท้องตรงแผลที่มีการผ่าตัดม้าม เบื้องต้นคงต้องพักฟื้นอีกสักระยะกว่าจะกลับไปทำงานได้ตามปกติ

 

 

ขณะที่ นางสาววรรณนภัสสร ลากุล คู่กรณี เปิดเผยยืนยันว่า ตนเองไม่เคยทอดทิ้ง ไปเยี่ยมน้องแพรวตลอดช่วงที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ถ้าไม่ได้ไปก็จะโทร. หา แต่ด้วยที่แม่น้องแพรวเรียกเงินสูงไปตั้งแต่เจรจาครั้งแรก จนครั้งที่ 2 ก็เรียกถึง 650,000 บาท พร้อมรถจักรยานยนต์ 1 คัน ตนจึงต่อรองเหลือเงิน 300,000 บาท และรถ 1 คัน แต่ทางแม่น้องแพรวก็ไม่ตกลง

อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่เคยพูดว่าถ้าอยากได้เงินให้ไปฟ้องร้องเอาเอง ตนถูกใส่ร้าย ตนขอให้สังคมฟังฝ่ายตนบ้าง และขอให้ให้ความเป็นธรรมกับ 2 ฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็พยายามผ่อนหนักให้เป็นเบา เป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ตนก็เสียหาย น้องแพรวก็เสียหาย แต่หากยังตกลงกันไม่ได้ ก็คงต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: