สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหญิงแซ่เจียคนหนึ่งอายุ 35 ปี โดยระบุข้อความว่า…
ฉันมีอาชีพเป็นพนักงงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่ง วันๆ ทำงานไม่มีเวลาดูแลพ่อส่วนสามีก็ทำงานต่างถิ่นกลับบ้านเดือนละครั้งเท่านั้น เพราะเราทั้งสองไม่มีลูกด้วยกันสักที เมื่อปีก่อนช่วงเดือนมีนาคม คุณแม่เสียชีวิตด้วยโรคต่างๆ คุณพ่ออายุ 62 ปี โรคหลอดเลือดในสมองแตกมาแล้ว ทำให้มือและเท้าผ่านการผ่าตัดเดินเหินไม่สะดวก ปกติจะเป็นแม่ที่จะเป็นคนช่วยดูแล ฉันจึงหาพี่เลี้ยงมาดูแลพ่อ คุณพ่อจึงพูดเล่นว่า “หาเพื่อมาเป็นแม่เลี้ยงคนใหม่ดีไหม” เพราะคำพูดนี้ฉันทะเลาะกับพ่อหลายครั้ง ฉันยังบอกพ่อว่า “แม่เพิ่งจากไปนะพ่อ ทำไมต้องรีบหาแม่ใหม่ขนาดนี้”
พี่เลี้ยงที่ช่วยดูแลพ่ออายุ 51 ปี เป็นคนอวบๆ แต่ดูซื่อสัตย์ดี ยังบอกอีกว่าเพราะลูกจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยจึงต้องออกมาหาเงิน
ฉันจึงจ้างพี่เลี้ยงคนนี้เพื่อมาดูแลพ่อ ใจจริงฉันก็ไม่ค่อยสบายใจเเท่าไร เพราะฉันเห็นในละครทีวีพี่เลี้ยงนำปัญหาต่างๆเข้าบ้าน เมื่อฉันว่างก็จะรีบกลับบ้าน ฉันสังเกตเห็นมือของพ่อติดปลาสเตอร์ และหัวก็มีรอยช้ำหลายที่ ฉันถามว่าเป็นอะไร พี่เลี้ยงทำท่าทางลุกลี้ลุกลน คุณพ่อชอบพูดว่าไม่เป็นไรอยู่ตลอดเวลา พ่อเดินไม่ระวังล้มเอง แต่บาดแผลที่มือเห็นชัดว่าเป็นรอยมีดบาด พ่อไม่ทำกับข้าวมามีดมาทำอะไร?
พ่อพูดเสียงขึ้นมาทันทีว่า “ลูก ไม่ต้องโวยวาย ตอนนี้พ่อกำลังฝึกทำกายภาพจริงๆ ดูสิมือและเท้าของพ่อดูมีเรี่ยวแรงขึ้นแล้ว พี่เลี้ยงคนนี้เป็นคนดีมาก” ฉันคิดในใจว่าพ่อคงบ้าไปแล้วแน่ๆเลย ! “พ่อคะ เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้รึเปล่าคะ”
พ่อจึงตบหน้าฉัน “ลูกไม่รักดี วันๆไม่เห็นแม้แต่เงา ฉันก็อยากมีเพื่อนบ้างไม่ได้หรือ?”
พี่เลี้ยงฉันเป็นคนจ้างมา ฉันจะไล่ออก แต่พ่อฉันยืนกรานที่จะให้พี่เลี้ยงอยู่ต่อ และยังบอกอีกว่าหากไล่ออกก็อย่ามาเป็นพ่อลูกกันเลย ฉันใจสลายเมื่อได้ยินพ่อพูดแบบนั้น ผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักสามารถแทนที่ลูกสาวในไส้ได้เลยหรอ อะไรทำให้เขามีความสำคัญขนาดนี้ ฉันไม่เข้าใจพ่อจริงๆ
ขอบคุณที่มาจาก : thaiclips
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ