วิธีเอาตัวรอดเมื่อลิฟต์ค้าง เรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนต้องรู้!!





“ลิฟท์” เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราจำเป็นต้องเข้าออกมันวันละหลายๆครั้ง ยิ่งคนไหนที่ทำงานอยู่บนตึกสูงด้วย แล้ว การขึ้นบันได คงไม่ใช่การเดินทางที่ประหยัดเวลาอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีการติดตั้งลิฟต์ไว้เกือบทุกที่ที่เป็นอาคารสูง ไม่ว่าจะเป็น หอพัก สถานที่ทำงาน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งโรงเรียน การโดยสารด้วยลิฟท์ช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางไปได้อย่างมาก แต่ถ้าวันไหนคุณเกิดดวงไม่ดีขึ้นมา และต้องติดอยู่ในลิฟท์ที่ค้างละ จะต้องทำอย่างไรเพื่อรักษาชีวิตให้รอด? เรามาลองศึกษาวิธีการเอาตัวรอดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนกันเถอะค่ะ

41.2

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ลิฟท์ค้าง ได้แก่

1. ไฟดับ แต่หากในอาคารนั้นๆมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง (Generator) หรือชุด Bettery Back up ระบบควบคุมจะสามารถสั่งให้ลิฟท์เคลื่อนตัวไปยังชั้นที่ใกล้ที่สุด และสามารถใช้งานต่อได้

2.อุปกรณ์นิรภัยตรวจพบสิ่งผิดปกติ เช่น อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนบางชิ้นชำรุด หรือเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้งาน เป็นต้น หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ลิฟท์จะหยุดการทำงานทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น

3.ระบบควบคุมการทำงานขัดข้อง สำหรับกรณีนี้ลิฟท์จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชั้นที่ใกล้ที่สุด และเปิดประตูให้ผู้โดยสารออกมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นจึงหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ

[ads]

ต้องทำอย่างไรเมื่อลิฟท์ค้าง

1. ตั้งสติ เป็นสิ่งแรกที่ทุกคนรู้ดีว่าต้องทำ แต่มักจะลืมทุกทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา เมื่อลิฟท์ค้างไม่ต้องกลัวว่าคุณจะขาดอากาศหายใจหรอกค่ะ เพราะลิฟท์ส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีระบบระบายอากาศที่เพียงพอ แม้ว่าพัดลมระบายอากาศจะไม่ทำงานก็ตาม ในกรณีที่ไฟดับ ชุดไฟส่องสว่างจากแบตเตอรี่สำรองฉุกเฉินจะทำงานขึ้น เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นและขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกได้

2. กดปุ่มสัญญาณ EMERGENCY CALL ที่แผงปุ่มกด เพื่อขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก และให้ข้อมูลสำคัญแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน โดยข้อมูลที่จะต้องให้ เช่น ลิฟท์ที่โดยสารเป็นตัวไหน ภายในลิฟท์มีผู้โดยสารกี่คน มีใครได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องพยายามสังเกตชั้นที่ใกล้เคียงที่สุดก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ลิฟท์ค้าง เพื่อจะได้ทราบตำแหน่งที่ลิฟท์อยู่ และจ้างให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยได้ทัน ดังนั้น การขึ้นลิฟต์ครั้งต่อไป จึงไม่ควรเอาแต่เล่นมือถือหรือทำกิจกรรมอื่นๆ แต่ควรสังเกตที่เลขชั้นที่ลิฟท์ผ่านขึ้นไปตลอดเวลา หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา จะได้เอาตัวรอดได้ทัน

3. ระหว่างรอการช่วยเหลือ อย่าพยายามงัดหรือเปิดประตูจากด้านในโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ลิฟท์เกิดการขัดข้องจนไม่สามารถเปิดได้ตามปกติ

41.1

นี่เป็นวิธีง่ายๆที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากเหตุการณ์ลิฟท์ค้างได้ หากเรียนรู้ที่จะสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะรักษาชีวิตให้ปลอดภัยได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลลิฟท์  ก็ต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลเอาใจใส่และบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆให้ปลอดภัยตลอดเวลาด้วย มีรอบตรวจสภาพการทำงาน หรือซ่อมแซมด้วยอะไหล่ที่มีคุณภาพหากเกิดการชำรุด  และต้องมีแผนฉุกเฉินในการรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รวมไปถึงต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยเหลือและฝึกซ้อมในกรณีที่เกิดลิฟท์ค้าง เพราะไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด

ไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่ถ้ามันบังเอิญเกิดขึ้นเมื่อใดแล้ว ก็ต้องสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้ได้ปลอดภัยและรวดเร็วมากที่สุด

 

ข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: