“เม็ดมะขาม” ไม่ไร้ค่า…แปรรูปสร้างรายได้กิโลละห้าพัน…อย่าโยนทิ้ง!





 สำหรับคนที่ชอบกินมะขามหรือผลไม้ที่มีเมล็ด เมื่อทานเนื้อหมดแล้ว ส่วนที่เป็นเมล็ดก็มักจะคายทิ้งไป เพราะไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร ทั้งๆที่จริงแล้วส่วนที่ว่านี้มีประโยชน์ต่อเรามาก และสามารถสร้างเงินได้มหาศาล แต่จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูเลยค่ะ

 

ใครจะเชื่อว่าเม็ดมะขามบ้านเราจากกิโลกรัมละ 2-3 บาท เมื่อนำมาวิจัยต่อยอดแล้ว จะสามารถเพิ่มมูลค่าได้เป็น 5,000-12,000 บาท หรือคิดเป็นหลายพันเท่า ด้วยความคิดสร้างสรรค์ดังนี้

 

รศ.ดร.วุฒิชัย นาครักษา ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เล่าถึงที่มาของการเพิ่มมูลค่าเม็ดมะขาม โดยผู้วัจัยกล่าวว่า…

 

 “ส่วนตัวชอบงานวิจัยเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรตและแป้งอยู่แล้ว เลยมองไปที่เม็ดมะขามที่เหลือทิ้งมากมายไม่เคยนำมาใช้ประโยชน์อะไรที่มีมากถึงปีละ 150-200 ตัน”

 และเพราะในเม็ดมะขามมีแป้ง จึงได้เริ่มงานวิจัยชิ้นนี้มาเมื่อปี 2556 ด้วยทุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ บ.มะขามปิ่นเพชร จนกระทั่งปี 2558 จึงได้สารสกัดที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย”

 

 

 วิธีการเริ่มจาก

1. นำเม็ดมะขามมากะเทาะเปลือก แล้วนำเนื้อในที่ได้มาบดให้ละเอียดสกัดด้วยเทคโนโลยีเฉพาะโดยแอลกอฮอล์ 10-20 นาที

 

2. นำมาอบเพื่อให้ได้ “เจลโรส” หรือ สารเฮมิเซลลูโลส (แป้งเซลลูโลสไม่สมบูรณ์พบเฉพาะในพืช)

 

เจลโรสมีการซื้อขายกันในราคา กก.ละ 5,000-12,000 บาท เพราะมีคุณสมบัติทนต่อความร้อน กรด อุ้มน้ำได้สูง และต้านแรงเฉือนได้ดี ประกอบด้วยน้ำตาล และเส้นใยอาหารหลายชนิด มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ทำลายพยาธิ

ทั้งนี้ เม็ดมะขาม 1 กก. สามารถสกัดได้เจลโรส 50-60%

 

เจลโรส สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมเจลาโต้ (ไอศกรีมไขมันต่ำ ละลายช้า) ไอศกรีมแทนไขมัน เพื่อสร้างความข้นหนืด คงตัวและละลายช้า หรือทดแทนบีมกัมหรือสารสกัดจากถั่วนำเข้าจากต่างประเทศ

 

 

ทั้งนี้ การพัฒนาครั้งนี้ประสบความสำเร็จจนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศจากการประกวดสุดยอดนวัตกรรมอาหารไทย ประจำปี 2559 จากกระทรวงอุตสาหกรรมได้ ส่วนเทคโนโลยีสกัด “เจลโรส” จากเม็ดมะขามก็ได้รับรางวัลเครื่องอิสริยาภรณ์ (ชั้นอัศวิน) จากประเทศเบลเยียม รางวัลเหรียญทอง ในฐานะนักวิจัยดีเด่น จาก The President of the International Jury และเหรียญรางวัลพิเศษ จาก The President of Euro business Haller and Haller Pro Inventio Foundation ประเทศโปแลนด์ ในงาน Brussels Innova 2015 เช่นกัน

 

จะเห็นได้ว่าของเหลือทิ้งที่คนคิดว่าไร้ค่า หากนำมาพัฒนาให้ถูกทิศถูกทาง ก็สามารถพัฒนาจนสร้างรายได้ได้มหาศาล

จึงทำให้ปัจจุบันเม็ดมะขามกลายเป็นของเหลือใช้ที่มีค่า สามารถขายได้ราคากิโลกรัมละหลายบาท หากใครสนใจลองติดตามหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะคะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://truststoreonline.com

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: