สืบเนื่องจากในวันนี้ (18 ตุลาคม 2560) สังคมออนไลน์ได้แชร์ข้อมูลว่า ประกันสังคมเตรียมขยายฐานเงินเดือนของผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบจากเดิมต่ำสุด 1,650 บาทต่อเดือน และสูงสุดอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน เป็นฐานเงินเดือนต่ำสุดที่ 3,000 บาทต่อเดือน และสูงสุดกว่า 20,000 บาทต่อเดือนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ. 2558 ซึ่งจะทำให้การจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมีเพดานสูงสุดอยู่ที่ 1,000 บาทต่อเดือน จากเดิม 750 บาทต่อเดือน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม เป็นต้นไปนั้น
[ads]
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกระแสข่าวดังกล่าวแล้วพบว่า เป็นการแชร์ข้อมูลเก่าที่เคยเป็นข่าวเมื่อปี 2558 โดย ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) ในขณะนั้น ได้เคยกล่าวชี้แจงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการศึกษา และยังไม่ได้สรุปผล หรือนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประกันสังคมแต่อย่างใด คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้ข้อสรุป
ส่วนประเด็นที่ว่า พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคม 2558 นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของการเก็บเงินสมทบเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 บาทแต่อย่างใด โดยจะยังคงเก็บเงินสมทบในอัตราเดิมคือ 5% ของฐานเงินเดือน สูงสุดคือ 750 บาท แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมเพิ่มขึ้นในหลายกรณี ทั้งกรณีที่ผู้ประกันตนเจ็บป่วย ตาย ทุพพลภาพ ว่างงาน คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร
และที่สำคัญคือ พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 มีการกำหนดมาตรการตรวจสอบเพื่อกำกับดูแลความโปร่งใส และความมีมาตรฐานจากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังเช่นรายละเอียดดังต่อไปนี้
ขอบคุณเนื้อหาจาก:สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ