Say cheese!! เมนูชีส..อาหารดีที่ไม่ได้มีแค่ความอร่อย





เชื่อว่าสาวกคนรักชีสทั้งหลายคงจะต้องดีใจแน่ๆ ถ้ารู้ว่า ‘ชีส (Cheese) หรือเนยแข็ง ที่คุณชอบรับประทานนั้น เป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงได้หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ แต่คุณประโยชน์ที่อาหารชนิดนี้สามารถมอบให้แก่เราได้นั้นจะมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ

ก็เพราะความหอมอร่อย และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ชีสเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ถูกใช้ในการปรุงแต่งรสอาหารกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พิซซ่า ลาซานญ่า สลัด หรืออาหารประเภทอื่นๆ ซึ่งการที่ชีสกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเช่นนี้ ยิ่งทำให้ชีสกลายเป็นอาหารที่นิยมรับประทานเข้าไปใหญ่ แต่ใครจะรู้ว่า ภายใต้ความเอร็ดอร่อยที่ไม่เหมือนใครแล้ว อาหารชนิดนี้ยังมากไปด้วยคุณประโยชน์ที่เหมาะต่อผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยอีกด้วย

[ads]

กระบวนการในการผลิตชีสจะใช้วัตถุดิบหลักเป็น ‘น้ำนม’ โดยน้ำนมนี้จะถูกนำมาตกตะกอนโปรตีนด้วยเอนไซม์เรนนิน หรือที่เรียกว่า ‘กระบวนการ coagulation’ ขั้นตอนนี้จะทำที่อุณหภูมิประมาณ 29 – 31 องศาเซลเซียส ก่อนจะนำเอาผลผลิตที่ได้มาขึ้นรูปและบ่ม จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะได้ออกมาเป็น “ชีส” อาหารแสนอร่อยที่รอให้คุณมารับประทาน

12.1

ภาพจาก : http://www.starmarket.com/cheese-shop-deli/

ด้วยความหลากหลายของวัตถุดิบนมและเชื้อยีสต์ ทำให้ชีสสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายแบบหลายประเภท แต่ไม่ว่าชีสที่คุณชอบรับประทานจะเป็นแบบใด ชีสทุกชนิดก็ล้วนมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส สังกะสี และวิตามินบี 12 แต่ถ้าใครที่กลัวว่ากินชีสไปแล้วจะทำให้ถ่ายท้องเหมือนตอนที่กินนมวัวหรือไม่ เพราะชีสก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ทำจากน้ำนมวัวไม่ต่างกัน ก็ขอให้รู้ไว้ว่า แม้ว่าคุณจะแพ้น้ำนมวัว ก็สามารถรับประทานชีสได้อย่างสบายใจ เพราะกระบวนการมนการผลิตชีส จะทำให้น้ำตาลแลคโตสที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ลดปริมาณน้อยลง ทำให้แม้ว่าท้องของคุณจะรับน้ำตาลแลกโตสไม่ได้ แต่ก็ยังคงสามารถทานชีสได้อย่างสบายๆ

หากคุณรับประทานชีสเข้าไปแล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับอย่างแน่นอน ก็คือ แคลเซียม วิตามินดีและแมกนีเซียม ซึ่งวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้จะร่วมกันทำงานเพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และช่วยป้องกันภาวะโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ ฟอสฟอรัสที่อยู่ในชีสยังเป็นตัวช่วยในการป้องกันการกร่อนทำลายของสารเคลือบฟัน และเพิ่มฟองน้ำลายที่ทำหน้าที่ล้างกรดหรือน้ำตาลในช่องปากได้ ส่งผลให้ลดโอกาสการเกิดฟันผุลงได้

ที่ลืมไม่ได้ ก็คือ โปรตีนและกรดอะมิโน ที่ถือเป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการในการเจริญเติบโต ดังนั้น การรับประทานชีสจึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สูญเสียไปในแต่ละวันได้ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ปกป้องการเกิดริ้วรอยปห่งวัย และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นผมและเล็บได้

สุดท้ายแล้ว ก็อยากจะเตือนท่านผู้อ่านไว้สักนิดว่า แม้ว่าชีสจะประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็อย่ามัวกินชีสกันจนเพลินนะคะ เพราะนอกจากชีสจะมีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงแล้ว ชีสก็ยังมีไขมันในปริมาณที่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากเผลอรับประทานชีสในปริมาณที่มากจนเกินไป ก็อาจทำให้คุณอ้วนขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวได้  แถมยังอาจทำให้เกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ง่ายๆอีกด้วย อีกหนึ่งข้อควรระวังสำหรับผู้บริโภคที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ก็คือ ชีสเป็นอาหารที่มีปริมาณเกลือที่ค่อนข้างสูง ผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องระมัดระวังตัวเองมากๆ หรือเลือกรับประทานเฉพาะชีสที่มีการปรับสูตรให้มีเกลือต่ำลง จึงจะสามารถช่วยป้องกันอันตรายที่ว่านี้ได้

 

เลือกที่จะอร่อยแล้ว ก็ต้องเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย หากคุณคิดว่าอาหารชนิดนี้เหมาะกับคุณ ก็อย่ามัวแต่รอช้าเลย มาทานชีสกันเถอะค่ะ

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: