เลี้ยงก่อนรวยก่อน! สัตว์เลี้ยงตัวใหม่อนาคตไกล รายได้ดี…จีนและเวียดนาม ต้องการสูง





มีอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์แนวใหม่ที่น่าสนใจมาฝากคุณผู้อ่านกันอีกแล้วค่ะ เพราะในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเพาะปลา เพาะกุ้งเท่านั้น แต่สัตว์แปลกๆที่คุณอาจไม่เคยเห็น ก็สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คุณมากมาย

สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่อนาคตไกลตัวนี้สามารถเพาะเลี้ยงส่งขายได้ทั้งจีนและเวียดนาม โดยความต้องการของลูกค้ามีมากกว่า 5,000 ตัว/เดือน

 

สัตว์ที่ว่านี้ ก็คือ “แมงป่องช้าง” นั่นเองค่ะ

 

แมงป่องช้างเป็นหนึ่งในโครงการเพาะเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 โดยเป็นความคิดริเริ่มของนายดนัย ศิริบุรี ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนาและประชาสัมพันธ์ สาขาธุรกิจการเกษตร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งเขาได้ไอเดียจากการเห็นพ่อค้าแม่ค้าขายแมลงทอด ทั้งจิ้งหรีด ตั๊กแตน หรือแมลงอื่นๆ และมีแมงป่องรวมอยู่ด้วย

 

 

โดยปกติแล้ว…แมงป่องจะขายตัวละ 100 บาท ซึ่งเขาคิดว่าราคาค่อนข้างสูง จึงเกิดแนวคิดการเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่าย

ด.ต.วชิระ พรมมา ผู้บังคับหมู่ ร้อย.ตชด.24 ผู้รับผิดชอบโครงการเลี้ยงแมงป่องช้าง เล่าว่า…

ตอนแรกก็ทดลองเลี้ยง ลองผิดลองถูกนานหลายเดือน จนได้เรียนรู้จากการสังเกตพฤติกรรมและวงจรชีวิตของแมงป่อง หลังจากเข้าใจพฤติกรรมของมันแล้วก็ทำให้สามารถเพิ่มประชากรแมงป่องได้มากขึ้นตามความต้องการ

 

ปัจจุบันมีลูกค้าสั่งซื้อประจำ ทั้งจากจีน และเวียดนาม ติดต่อซื้อในราคาตัวละ 50 บาท แต่ละเดือนขายแมงป่องให้ลูกค้าได้ 300-500 ตัว

ทั้งนี้ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะความต้องการของตลาดจริงตอนนี้มีสูงมากถึงเดือนละ 5,000 ตัว ทำให้เพาะเลี้ยงไม่ทันตามความต้องการของลูกค้า

 

 

ประโยชน์ของแมงป่อง

1. ประกอบเป็นเมนูอาหารได้หลายประเภท เช่น น้ำพริกแมงป่อง แมงป่องทอดสมุนไพร ผัดหรือคั่วแมงป่อง ฯลฯ

2. สกัดทำเป็นตัวยา  เช่น ยาขยายหลอดเลือด ป้องกันอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

 

สำหรับการเลี้ยงแมงป่องต้องทำอย่างไรบ้าง มาลองอ่านกัน

1. สถานที่ที่เหมาะสม คือ มีร่มเงา เงียบสงบ ไม่ให้มีศัตรูรบกวน โดยเฉพาะนกและไก่

2. อุปกรณ์ในการเลี้ยงแมงป่องช้าง

1.วงบ่อซีเมนต์ ขนาดกว้าง 80 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร โดยภายในวงบ่อเราควรจะทำการขัดมันหรือติดสติกเกอร์เพื่อให้เกิดความลื่น แมงป่องจะไม่ได้ปีนหนีออกมาถึงกระนั่นก็ต้องหาตะข่ายปิดปากบ่อซีเมนต์ที่เตรียมไว้ด้วยเพื่อป้องกันศัตรูมาทำร้ายแมงป่องที่เลี้ยงไว้

 

2.ภาชนะใส่น้ำ ซึ่งน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับแมงป่อง แมงป่องเป็นสัตว์ที่ขาดน้ำไม่ได้ ภายใจภาชนะใส่น้ำเราควรจะมีหินวางไว้เพื่อป้องกันแมงป่องช้างจมน้ำ

 

3.ที่หลบซ้อน ซึ่งจะหินหรือเศษใบไม้ หรือท่อนไม้

 

หลังจากเตรียมอุปกรณ์ครบแล้ว เราจะนำดินมาใส่ไว้ในบ่อซีเมนต์ที่เตรียมไว้โดยใส่ดินให้หนาประมาณ 10 ถึง 20 เซนติเมตร หลังจากนั้นก็นำพ่อแม่พันธุ์แม่ป่องช้างในอัตรา 1 ต่อ 1 โดย 1 บ่อซีเมนต์เราจะใส่แมงป่องประมาณ 30 ถึง 40 ตัว ซึ่งจะเป็นพ่อแม่พันธุ์ในอัตราส่วนที่เท่ากัน วิธีสังเกตพ่อพันธุ์ให้สังเกตที่นิยมเมื่อมีศัตรูเขาใกล้พ่อพันธุ์จะชูกล้าม ชูหางพร้อมสู้แต่ถ้าเป็นแม่พันธุ์จะไม่สู้

 

3. อาหารของแมงป่องช้าง

อาหารจะเป็นพวกสัตว์เล็ก เช่น แมงมุม ตั๊กแตน ปลวก จิ้งหรีด

โดยต้องให้อาหารในช่วงเย็นเพราะเวลาหากินของแมงป่องช้างจะเป็นเวลากลางคืน และควรที่จะทำความสะอาดสถานที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ

 

เมื่อเลี้ยงไปซักระยะแมลงป่องช้างจะผสมพันธุ์เองตามธรรมชาติ โดยแม่แมงป่องช้างจะเวลาในการตั้งท้องนาน 1 ปี โดยแมงป่องจะออกลูกเป็นตัว เมื่อลูกแมงป่องอายุได้ 8 ถึง 12 เดือนก็สามารถนำออกจำหน่ายได้แล้ว

 

 

ในเวลานี้ความต้องการในตลาดของแมงป่องช้างยังมีสูงมาก ซึ่งราคาขายหน้าฟาร์มจะอยู่ที่ 10 ถึง 20 บาทต่อตัว แต่ถ้าขายพอแม่พันธุ์จะอยู่ที่ 50 บาท ถึง 80 บาทต่อตัว ซึ่งนับวันแมงป่องในธรรมชาติก็จะหมดไปราคาแมงป่องก็จะมีแต่จะสูงขึ้นไม่มีลดลงเลย

ถ้าใครสนใจลองเลี้ยงกันดูนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://xn--72c9abrq9ctb0c2aqc9iof.com/647/

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: