เราคงเคยเห็นในข่าวหรือเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับสิ่งของแปลก ๆ ที่ไปติดอยู่ที่อวัยวะภายในจนต้องผ่าตัดกันมาบ้างแล้วแน่ๆ วันนี้ทางทีมงานก็เลยจะพาทุกท่านมาดู 5 สิ่งแปลกปลอมชวนปวดหัวที่แพทย์นำออกมาจากในตัวของคนไข้กันค่ะ แต่ละอย่าง คิดไม่ออกเลยว่ามันเข้าไปได้ยังไง
1. เห็ดหอมขนาด 7 เซนติเมตรที่โตในลำไส้
การทานอะไรแล้วมันจะไปโตในท้องฟังดูเป็นเหมือนเรื่องโกหก แต่ที่มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ผู้หญิงวัย 50 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากอาการปวดท้อง เมื่อแพทย์ส่องกล้องก็พบว่ามีเห็ดหอมติดอยู่ตรงบริเวณลำไส้เล็กค่ะ แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ เมื่อนำเห็ดที่ติดอยู่ออกไปแล้วก็พบกับเห็ดอีก 1 ดอกที่โตอยู่ในลำไส้จนมีขนาดประมาณ 7 เซนติเมตร! สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอทานเห็ดหอมอบแห้งที่ไม่ได้ปรุงสุกดีและไม่ได้เคี้ยวให้ละเอียดค่ะ ทำให้เห็ดไปโตและติดอยู่ในลำไส้เล็กค่ะ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับคุณป้าคนนี้ ก่อนจะทานเห็ดหอมต้องเช็คให้ดีนะคะ ว่ามันสุกดีแล้วรึยัง แล้วก็ต้องเคี้ยวให้ละเอียดด้วยค่ะ
2.แมลงสาบที่ยังมีชีวิตในกะโหลกศีรษะ
แค่เห็นแมลงสาบไกลๆ ก็ชวนขนลุกแล้วค่ะ แต่เรื่องนี้อ่านแล้วชวนขนลุกยิ่งกว่า เพราะว่าที่เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ผู้หญิงวัย 42 ปี ได้มาพบแพทย์ เนื่องจากรู้สึกถึงความผิดปกติที่บริเวณจมูกและดวงตาค่ะ เมื่อแพทย์ได้ส่องกล้องเข้าไปตรวจเช็คในโพรงจมูก ก็ได้พบกับแมลงสาบขนาดเล็กอยู่ตรงบริเวณกะโหลกศีรษะ ระหว่างดวงตา เรื่องที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือเมื่อทางทีมแพทย์ได้ทำการเอาเจ้าแมลงสาบออกมาก็พบว่ามันยังมีชีวิตอยู่ คาดว่าแมลงสาบตัวนี้เข้าไปทางจมูกของผู้หญิงคนนี้ระหว่างที่หลับ และแมลงสาบตัวนี้ก็ได้เข้าไปอยู่ในกะโหลกศีรษะของเธอถึง 12 ชั่วโมงแล้ว แพทย์ได้กล่าวว่า โชคดีที่คนไข้มารักษาเร็ว และโชคดีที่แมลงสาบมันยังมีชีวิตอยู่ค่ะ ถ้าหากเธอมาโรงพยาบาลช้ากว่านี้ และแมลงสาบตายในกะโหลกศีรษะของเธออาจจะทำให้เชื้อโรคกระจายตัว ติดเชื้อในสมอง และเสียชีวิตได้ค่ะ
3.เด็กผู้หญิงที่มีก้อนผมในกระเพาะอาหาร
พูดถึงก้อนขน (Hair Ball) ก็จะนึกถึงแมวกันใช่มั้ยคะ เพราะโรคขนอุดตันในลำไส้มักจะเกิดในแมวค่ะ คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอาการนี้ในคนด้วย แต่ที่ประเทศอินเดีย แพทย์ได้ตรวจพบก้อนขนขนาดเท่าผลเมล่อน ในกระเพาะอาหารของเด็กสาวชาวอินเดียวัย 16 ปี สาเหตุมาจากพฤติกรรมการกินที่ประหลาดของเธอ เพื่อที่จะลดน้ำหนัก เธอเลยกินเส้นผมของตัวเองเพื่อให้อาเจียนอาหารที่ทานเข้าไปออกมาค่ะ เธอทำอย่างนี้มาเป็นเวลา 1 ปี จนครอบครัวสังเกตเห็นถึงอาการผิดปกติของลูกสาวที่มีน้ำหนักลดลงไปอย่างมาก จึงพาไปพบแพทย์ค่ะ เมื่อ X-ray ดูในช่องท้องก็พบก้อนบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 80% ของกระเพาะอาหารค่ะ หลังจากที่ได้นำก้อนผมขนาดใหญ่ออกมาและรักษาจนหายดีแล้ว ทางครอบครัวและตัวน้องคนไข้เองก็ได้บอกว่ารู้สึกสุขภาพดีและมีความสุขกว่าตอนที่ยังไม่ได้ทำการรักษาค่ะ
4.ชายชาวอินเดียที่มีมีดจำนวน 40 เล่มอยู่ในกระเพาะอาหาร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียค่ะ ในปี 2016 ศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งผ่าตัดเอามีดโลหะจำนวน 40 เล่ม ออกจากท้องของคนไข้ชายวัย 42 ปี ที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง มีดที่ทางทีมแพทย์ได้นำออกมามีทั้งมีดพับ มีดด้ามตรง และมีดหักๆ ขึ้นสนิม สร้างความประหลาดใจให้กับทีมแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเป็นอย่างมาก คนไข้ยอมรับกับคุณหมอว่าเขาเป็นคนกลืนมีดพวกนี้เข้าไปเองในช่วง 2 เดือนก่อนที่จะมาพบแพทย์ เพราะว่าชอบและติดใจในรสชาติของมีด ก็เลยกินมาเรื่อยๆ ค่ะ เป็นเหตุผลที่เข้าใจยากมากๆ เลยนะเนี่ย ทีมแพทย์ที่ทำการผ่าตัดบอกว่าไม่เคยเจอเคสแปลกๆ แบบนี้มาก่อนเลย และในการผ่าตัดก็ต้องวางแผนและใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อรักษาชีวิตของคนไข้คนนี้เอาไว้ค่ะ
5.ผู้ชายที่มีปลอกปากกาติดอยู่ในปอดเป็นเวลา 20 ปี
แค่สิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกายของเราไม่ถึงชั่วโมงก็รู้สึกอึดอัดไม่สบายจะแย่อยู่แล้วล่ะค่ะ แต่ว่าคนไข้รายนี้กลับมีปลอกปากกาค้างเอาไว้ในปอดเป็นเวลา 20 ปี เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน นายหวังได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการไอเป็นเลือด เมื่อส่องกล้องดู ทีมแพทย์ก็พบปลอกปากกาพลาสติกติดอยู่ที่ปอด หลังจากนั้นทีมแพทย์ศัลยกรรมก็ผ่าตัดเอาปลอกปากกาที่ติดอยู่ออกมาค่ะ นายหวังกล่าวว่าเขามีอาการหายใจติดขัด เจ็บหน้าอกและไอเรื้อรัง มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง จนกระทั่งเขามีอาการไอเป็นเลือดและมาพบแพทย์ค่ะ เมื่อเห็นปลอกปากกาเจ้าปัญหาแล้ว เจ้าตัวก็นึกออกทันทีเลยว่าตอนตัวเองอายุ 6 ขวบเคยบังเอิญสูดหายใจเอาปลอกปากกาเข้าไป พอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับครอบครัว เจ้าตัวก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลยล่ะค่ะ
แต่ละอย่างดูอันตรายกับทั้งนั้นเลยค่ะ ทั้งมีด ทั้งแมลงสาบ โชคดีมากๆ เลยค่ะที่ทีมแพทย์ในโรงพยาบาลสามารถนำสิ่งของแปลกๆ ออกมาจากร่างกายและช่วยชีวิตของคนไข้ไว้ได้ เห็นถึงความอันตรายแบบนี้แล้ว เพื่อความปลอดภัย น้องๆ ห้ามทำตามนะคะ และเวลามีอะไรผิดปกติกับร่างกายของเราก็ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายค่ะ
ข้อมูลจาก : เด็กดี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ