ไม่แพ้ใครในโลก! วงดุริยางค์เยาวชนไทย TYO คว้าที่1 แข่งซิมโฟนีออร์เคสตราระดับโลก หลังบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในหลวง ร.9





 

วงดุริยางค์เยาวชนไทย TYO คว้ารางวัลยอดเยี่ยม แข่งซิมโฟนีออร์เคสตราระดับโลก หลังบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในหลวง ร.9 เรียกเสียงปรบมือกึกก้อง ขณะที่นักดนตรีน้ำตารินบรรเลงเพลงด้วยหัวใจรำลึกถึงพระองค์ท่านและประวัติศาสตร์เวียนนา

9 ก.ค.60 ที่กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า เว็บไซด์ https://www.sclfestival.org/ ของผู้จัดการแข่งขัน“งานเทศกาลดนตรีเยาวชนนานาชาติ ครั้งที่ 11” หรือ  “11th Summa Cum Laude International Youth Music Festival Vienna 2017” ได้เผยแพร่ผลการตัดสินการแข่งขันการแสดงดนตรีประเภทวงซิมโฟนีออร์เคสตราขนาดใหญ่ ซึ่งประเทศไทยโดยวงดุริยางค์เยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ TYO ภายใต้การสนับสนุนของ สวธ.  ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตรา โดยมีประเทศสหรัฐอเมริกา และสเปนร่วมรับรางวัลยอดเยี่ยมเช่นกัน ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้มี 7 ประเทศเข้าร่วมประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา สเปน ออสเตรีย รวมทั้งไทย ซึ่งบางประเทศได้ส่งมากกว่า 1 วงเข้าร่วม โดยรางวัลที่ 2 เป็นของสหรัฐอเมริกา รางวัลที่ 3 เป็นไต้หวัน และรางวัลที่ 4 เป็นจีน ทั้งนี้ จะมีพิธีประกาศผลพร้อมมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ก.ค.ที่เวียนนาซิตี้ ฮอลล์ โดยวง TYO ได้ซักซ้อมบทเพลงพระราชนิพนธ์ ใกล้รุ่ง-แสงเดือน ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงสดในพิธีอีกรอบ

 

 

อธิบดีสวธ. กล่าวด้วยว่า รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับเยาวชนไทย ซึ่งวงTYO ตั้งมา 30 ปี และปีนี้ถือเป็นครั้งแรกสวธ.ได้ส่งวงเข้าประกวดนานาชาติ แสดงให้เห็นถึงฝีมือเยาวชนไทยพัฒนาขึ้นจนเทียบเท่าระดับโลก  ซึ่งกรมจะส่งเสริมให้เยาวชนได้ไปเรียนรู้เวทีอื่นๆ มากขึ้น

ทั้งนี้ การแข่งขันรายการดังกล่าวมีขึ้น เมื่อวันที่ 8 ก.ค.เวลา 10.00น.ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงแสดงคอนเสิร์ต มูสิคเฟราย (Musikverein)กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ซึ่งวง TYO มีนักดนตรีเข้าร่วมทั้งสิ้น 65 คน ภายใต้การอำนวยการเพลงโดย ดร.อัครวัฒน์ ศรีณรงค์ ได้ทำการแสดงเป็นลำดับที่ 3 เริ่มต้นด้วยเพลงคลาสสิค Coriolan Overture ประพันธ์โดย ลุดวิจ ฟาน เบโทเฟน ต่อด้วยเพลง Tri-Sattawat ประพันธ์โดย นายณรงค์ ปรางค์เจริญ และปิดท้ายด้วยเพลง ใกล้รุ่ง-แสงเดือน ซึ่งเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังบรรเลงเสร็จคณะกรรมการและผู้ชมได้ปรบมือดังสนั่นกึกก้องโรงแสดงคอนเสิร์ต โดย1ในกรรมการผู้ตัดสินได้ลุกขึ้นกล่าวต้อนรับและขอบคุณที่ได้นำบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาบรรเลง  พร้อมกล่าวว่าทุกคนได้เล่นออกมาจากใจ ทำให้รู้สึกได้ว่าพระองค์อยู่ในใจของพวกคุณทุกคนและก็อยู่ในใจพวกเราเช่นกัน

ด้านดร.อัครวัฒน์ กล่าวว่า เยาวชนทุกคนได้แสดงมาจากจิตวิญญาณ  แม้แต่คณะกรรมการยังชื่นชม ซึ่งเมื่อปีพ.ศ.2507 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังโรงแสดงคอนเสิรต์แห่งนี้พร้อมให้คำแนะนำกับผู้อำนวยเพลงวงออเคสตราของเวียนนาในการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ คนเวียนนา ออสเตรีย จึงรับรู้ถึงพระปรีชาสามารถพระองค์ท่าน อาจกล่าวได้ว่าทั้งประวัติศาสตร์ สถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ทุกคนรับรู้และแสดงอย่างเต็มที่จนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ขณะที่บรรเลงเพลงพระองค์ท่าน

ข่าวจาก : เดลินิวส์ออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: