น่าเวทนา…5พี่น้องต้องดูแลกันเอง หลังจากพ่อทิ้งไปมีเมียใหม่-แม่ไปต่างจังหวัดเพื่อตัดอ้อยส่งเงินเลี้ยง วอนภาครัฐและผู้ใจบุญดูแล





 

สุดเวทนา 5 พี่น้องที่ อ.บ้านกรวด วัย 2 ขวบ ถึง 13 ปีใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพังในบ้านเช่า หลังพ่อแยกทางไปมีครอบครัวใหม่ แม่ต้องตระเวนรับจ้างตัดอ้อยต่างจังหวัดส่งเงินมาให้ลูกซื้ออาหารประทังชีวิตครั้งละ 1 พันบาท “น้องฟลุ๊ค” ต้องรับภาระดูแลน้องทั้ง 4 ชีวิตตามอัตภาพ วอนภาครัฐและผู้ใจบุญช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ขณะนี้มีเด็กชายและหญิง 5 คนพี่น้อง อายุ 2 ขวบเศษ ถึง 13 ปี ใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพังอย่างขัดสนลำบาก ในบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ในหมู่บ้านสายโท 1 ใต้ หมู่ 7 ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล

 

 

 

 

27 มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงบ้านเช่าหลังดังกล่าวก็พบกับเด็ก 5 คนพี่น้องใช้ชีวิตอยู่กันเองตามลำพังจริงๆ คือ ด.ช.ศิมนต์ เพ็งสุข หรือน้องฟลุ๊ค อายุ 13 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านกรวดวิทยาคาร, ด.ช.บุญญฤทธิ์ อยู่คง น้องเฟีย อายุ 11 ขวบ เรียนชั้น ป.5, ด.ญ.สลิลทิพย์ อยู่คง น้องข้าวฟ่าง เรียนชั้น ป.3, ด.ญ.พรพิมล ป้อมหมั่น อายุ 6 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนสายโท 1 ใต้ และ ด.ช.อรุณ จิตวงษา หรือน้องฟอร์ด อายุ 2 ขวบเศษ เรียนอยู่ศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์เทศบาลตลาดนิคมบ้านกรวด

โดยเด็กทั้ง 5 คนเป็นลูกของนางปณิตตา พันธ์ทา อายุ 37 ปี แต่คนละพ่อ ซึ่งหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน พ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนแม่ก็ต้องตระเวนดิ้นรนไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยยังต่างจังหวัดเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองและลูกๆ จึงต้องปล่อยให้ลูกทั้ง 5 คนใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพังเป็นเวลาร่วม 1 ปีแล้ว นานๆ จึงจะได้กลับมา 

ส่วนสาเหตุที่ต้องเช่าบ้านอยู่เพราะแม่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ชลบุรี ไม่มีญาติอยู่ใน จ.บุรีรัมย์ หลังแยกทางกับสามีก็ต้องขอเช่าบ้านคนในหมู่บ้านเดือนละ 500 บาทให้ลูกอยู่อาศัย

ซึ่งช่วงที่แม่ไม่อยู่ ด.ช.ศิมนต์ หรือน้องฟลุ๊ค พี่ชายคนโต ต้องรับภาระดูแลน้องทั้ง 4 คน แต่ละวันน้องฟลุ๊คต้องตื่นแต่ตี 5 มาหุงข้าวทำกับข้าว เตรียมเสื้อผ้าชุดนักเรียน อาบน้ำให้น้องและเดินไปส่งโรงเรียน หลังจากนั้นตัวเองถึงจะเดินทางไปเรียนในตัวอำเภอ

 

 

 

 

 

 

หลังเลิกเรียนน้องฟลุ๊คก็จะรีบกลับมาหุงหาอาหาร ซักผ้า ล้างจาน สอนน้องทำการบ้าน และพาน้องๆ เข้านอนจนกลายเป็นหน้าที่ที่ต้องทำประจำทุกวัน ส่วนเงินที่นำมาซื้อกับข้าว และให้น้องๆ ไปโรงเรียนก็เป็นเงินที่แม่ส่งมาให้ 1-2 สัปดาห์ ประมาณครั้งละ 1,000 บาท

ซึ่งน้องฟลุ๊คบอกว่าต้องใช้อย่างประหยัด บางวันก็จะแวะซื้อแกงจืด หรือกับข้าวมาอย่างเดียว แล้วหุงข้าวกินกันเองทั้ง 5 คนพี่น้องตามอัตภาพ สร้างความเวทนาสงสารแก่ชาวบ้านที่พบเห็น บางครั้งก็จะนำข้าว อาหารมาให้บ้าง 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วันนี้น้องฟลุ๊คจะมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นถูกพ่อทอดทิ้ง แม่ก็ต้องตระเวนรับจ้างไปเรื่อย แต่น้องฟลุ๊คก็ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่คอยดูแลน้องทั้ง 4 คนตามลำพังได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นเด็กขยัน เรียนดี ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันทักษะวิชาคณิตศาสตร์ทั้งระดับเขต และระดับนานาชาติ คว้ารางวัลเหรียญทองมาแล้ว

แต่สิ่งที่น้องฟลุ๊คอยากได้คือ อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ทั้งอยากมีทุนการศึกษาสำหรับตนเอง และน้องทั้ง 4 คน เพื่อจะได้เรียนสูงๆ มีความฝันอยากเป็นตำรวจเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง

ขณะที่พระอาจารย์อ๊อด เจ้าอาวาสวัดจันทร์นิมิต และประธานศูนย์บรรเทาทุกข์ศิษย์วัดจันทร์ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับทราบข่าวขณะเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ก็ได้เดินทางมาดูที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว เมื่อเห็นสภาพก็รู้สึกหดหู่ใจที่เด็กอายุเพียง 13 ปีต้องทำหน้าที่ดูแลน้องทั้ง 4 คนตามลำพัง

จึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ก็มีลูกศิษย์บริจาคเงินผ่านศูนย์บรรเทาทุกข์ศิษย์วัดจันทร์ มาช่วยเหลือเด็กทั้ง 5 คนในเบื้องต้นจำนวน 8,000 บาท ทั้งนี้ยังได้ซื้อข้าวของและจักรยานมามอบแก่เด็กๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นเท่าที่จะช่วยได้ เพราะลำพังเงินค่าแรงที่แม่ของเด็กตระเวนรับจ้างตัดอ้อยคงไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูทั้ง 5 คนได้

จึงอยากฝากให้หน่วยงานภาครัฐ หรือผู้มีจิตศรัทธา ที่ต้องการทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็สามารถช่วยเหลือได้ เพื่อให้เด็กๆ ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้

หากผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือเด็ก 5 พี่น้องก็สามารถติดต่อประสานได้ที่พระอาจารย์อ๊อด หมายเลข 06-1264-7891 หรือ น.ส.นภัสสร สุขกำเนิด กรรมการหมู่บ้าน เบอร์โทร 09-8634-2487 ได้ หรือบริจาคได้ที่ชื่อบัญชี ด.ช.ศิมนต์ เพ็งสุข หมายเลขบัญชี 020220677817 บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขาบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: