แฉแหลก!!! “นครโฮจิมินห์” ประเทศเวียดนาม เรื่องจริงที่แสนโหดร้ายจนทำเอานักท่องเที่ยวไทย เกือบเอาชีวิตไม่รอด!!(รายละเอียด)





 

เป็นการเปิดประสบการณ์ชีวิตสุดเลวร้ายในฐานะของนักท่องเที่ยวไทย ชะตากรรมสุดโหดที่ต้องเจอไม่เว้นแต่ละวันเมื่อไปเยือน นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
เมื่อ นักท่องเที่ยวไทยเผยประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดเลวร้าย เพื่อนเตือนชาวไทยด้วยกัน โดยเขาเกริ่นว่าเกี่ยวกับสิ่งที่เจอไว้ว่า "เตือน!คนไทยและคนทุกประเทศ โฮจิมินห์ เวียดนาม ไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณคิด"

 เขาเล่าว่า..เขาเป็นพนักงานเอกชนในกรุงเทพฯ ทำงานเก็บเงินและออกมาหาประสบการณ์ต่างแดน ได้เดินทางไปยัง นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ด้วยสายการบินต้นทุนต่ำ หวังจะมาเกี่ยวเก็บความงดงามตามคำร่ำลือของบ้านนี้เมืองนี้

          วันแรกที่มาถึง..เรียกบริการแท็กซี่ที่สนามบิน เขาคิดราคา 780,000 ดง คำนวนดูแล้วแพง ถามหลายเจ้าราคา 800,000-780,000 ดง ราคานี้หมด เลยตัดสินใจเลือก 780,000 ดง เดินทางไปเข้าพักที่ โรงแรม Alagon Hoang Hai Long Hotel ไม่ไกลจากตลาดเบนถัน เดินทาง 45 นาทีจากสนามบินมา เดินทางมาถึงโรงแรมก่อนเวลา ถึงประมาณ 11.30 น. มันไม่ให้ผมเชคอินให้รอ เวลา บ่ายสอง แต่คุยไปคุยมาก็ให้และมีห้องว่างผมเลยได้เข้าพักตอน 12.30 น. 
 

 วันที่สอง (ที่เกิดเรื่อง) ผมเริ่มออกเดินเที่ยวตามแผนที่ที่มีเจ้าหน้าที่โรงแรมแนะนำที่ที่ผมจะไปไม่ไกลกันเดินได้และผมก็เลือกที่จะเดินเอาครับ พอเดินมาได้สักพักมีสามล้อถีบปั่นตามหลังมา ตื้นๆพูดมากมายและที่สำคัญเอาสมุดโน๊ตที่มีคนไทยเขียนข้อความไว้มาให้อ่าน ว่าตนนั้นบริการดีอย่างไร สุดท้ายผมตกลงราคากันไปสถานที่ต่างๆ ซึ่งมันเองก็บอก no far no far ตกลงไปส่งผมสถานทีละ 15,000 ดง ทั้งหมด 7 ที่ที่ไป ผมก็นั่งชมเมืองถ่ายรูปไปเรื่อย ใช้เวลาไปเกือบ 4 ชม. ถึงเวลากลับมันให้พักระหว่างทางซึ่งไม่ใช้ทางที่เคยผ่าน มีโต๊ะเล็กๆให้เขียนบันทึก เอากาแฟเย็นมาเสริฟ คุยเป็นมิตรโน้นนี้นั้น ยังไม่ยอมสีงผมไปโรงแรม ผมเขียนบันทึกให้ เห็นว่าเป็นลุงแก่ๆปั่นจักรยานให้เรา เขียนขอบคุณ เมืองสวย ต้นไม้เยอะ ลงวันที่ 1/4/58 และมันก็เอาสมุดนั้นไป สุดท้ายถามค่าใช้จ่าย ตามที่ตกลงกันคือ 15,000*7 = 105,000 ดง แต่มันบอกไม่ใช่ ทั้งหมด 2,000,000 ดง เหมาทั้งหมดครึ่งวัน ผมไม่ได้ตกลงแบบนี้ มันก็บอกว่าเหนื่อยๆ ภาษาอังกฤษพูดไม่ได้เลยทีนี้ ยื้อกันอยู่นั้นให้ผมกินกาแฟมัน ผมเริ่มอารมณ์เสียจากที่ชมเมืองมาดีๆ เริ่มของขึ้นเพราะตกลงราคาอีกแบบ มันทำหน้ามึน ไม่ให้ไม่ไปส่ง นั่งดูดบุหรี่เฉย ผมตัดรำคาญ บอกมีเท่านี้เอาไหม 1,000,000 ดง ถ้าไม่เอาก็ให้ตกลงกับตำรวจ ผมทำทีหยิบโทรศัพท์มาจะโทรคุย มันเลยยอมโอเคๆและรีบคว้าเงินไป

  ช่วงค่ำวันที่สอง (ขอบคุณที่ยังเอาชีวิตรอด) ผมออกไปหาอะไรกินที่ตลาดเบนถัน เดินซื้อที่ชงกาแฟไปฝากพี่ที่เรียน ช็อปของฝาก ชุดอ๋าวด๊าย และอื่นๆ สักพักมีจักรยานปั่นมาเบียดข้างๆ ชวนนวดเท้า ผมเองเป็นคนชอบนวดมาก ตื้อผมอีกตามเคย ไอ้โจรนี้มันบอกว่าเป็นนวดเท้าแบบเวียดนามท้องถิ่นผสมนวดแบบไทย มีอุปกรณ์นวดมาครบ ในกระเป๋า ผมถามว่านวดที่ไหน มันบอกมีร้านใกล้ตลาดเดินไม่ไกล มีทั้งชายหญิงตกลงจ่าย 100,000 ดงต่อ 1 ชั่วโมง ผมเลยตกลง ไปถึงร้านไม่ค่อยต่างจากบ้านเรา ร้านคล้ายๆกัน มีทั้งชายและหญิง คนเยอะเหมือนกัน เปลี่ยนชุด เปลี่ยนกางเกง เหมือนบ้านเรา ผมมีเป้ 1 ใบติดตัว กระเป๋าตังและโทรศัพท์ ก็เก็บไว้ในกระเป๋า มันก็เริ่มนวดเท้า ถามว่าผมรู้สึกสบายไหม มันก็สบายอยู่เพราะผมเดินมาเกือบทั้งวัน คุยไรไปเรื่อยเปื่อยเรื่องของกินเรื่องประเทศเวียดนาม มันยังบอกอีกว่ามันเป็นหมอนวดที่เรียนมาหลายที่ทั้งไทย อินเดีย เวียดนาม จีน สักพักผมสังเกตมือมันกดโทรศัพท์ ไม่ถึง 5 นาที มีผู้ชายตัวใหญ่ตรงเข้ามาเสียงดังโวยวาย กระชากกระเป๋าผมไป บอกว่า money money ทีเเรกเข้าใจว่าจะเก็บเงินค่านวดเท้าตามที่ตกลงกัน ผมถามกลับว่านี้มันอะไร เท่านั้นแหละผมโดนไปหนึ่งหมัด ผมก้มหน้าเลยโดนต่อยที่หัวแทน
 

 สักพักไอ้คนที่นวดเท้าผมอยู่ตบหน้าผม พร้อมบอก money money ผมเลยเข้าใจละว่ามันเป็นโจร ทำกันเป็นกระบวนการ เจ็บ มึน หน้าชา ความกล้วทุกอย่างรุมเข้ามา ผมไม่รู้ว่าทั้งร้านจะมีพวกมันกี่คน ผมตั้งสติ ยิ้ม แต่มือไม้สั่นหมด มันค้นกระเป๋าเอาเงินทุกอย่างไป จากกระเป๋าตังค์ ทั้งเงินไทย 2,000 บาท เงินดงเกือบ 2,000,000 ดง US 50$ และยังมีเงินเกาหลีและเงินหยวนของจีนที่ผมเก็บไว้ เหลือแต่ผ้ายังต์หลวงปู่เสย และรูปหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ที่มันไม่เอาไป แล้วมันผลักหัวผมบอกไม่พอ โยนกระเป๋าเปล่ามาให้ ยึดมือมือไป มันบอกถ้าอยากได้มือถือให้เอามาเงินแลก 500$ ยื้อกันอยู่นาน ผมอึดอัดมากไม่ไหวแล้วพยายามทำใจร่มๆ เจ็บก็ทน หน้าพ่อหน้าแม่ลอยมา ในใจคิดอย่างเดียวต้องใจเย็นๆ และหาทางหลอกให้มันไปส่งที่โรงแรมให้ได้ เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นจาก ประมาณ 21.00 ยื้อกันโน้นนี่นั่น จนเกือบเที่ยงคืน ผมเลยบอกมีเงินในบัญชี 200 $ ที่โรงแรมถ้าจะเอาจะไปกดให้ สุดท้ายมันยอม ไปตู้เอทีเอ็ม แล้วตู้ประเทศนี้มีกระจกปิดเป็นห้อง มันเลยเข้าไปเบียดกับผม อีกคนดูลาดราวข้างนอก คนข้างนอกยืนดูดบุหรี่หน้าตาเฉย ไอ้อีกคนเข้ามาในตู้เอทีเอ็มกับผม ใช้มีดจี้บังคับกดรหัสและเปลี่ยนเป็นภาษามัน มันกดไปเกลี้ยงบัญชี โดยผมมีเงินในเอทีเอ็มประมาณ 20,000 บาท เพราะก่อนมาแลกไปหมดแล้ว โชคยังดีที่ผมเอามาบัญชีเดียวแค่แบงค์กรุงเทพ กับบัตรนักศึกษา ป.โท มันบังคับให้กดเงินจากบัตรนักศึกษาผมก็เถียงมันว่าบัตรนักศึกษา มีรูปอยู่เห็นไหม มันกดไม่ได้ โชคดีมันเชื่อ! สุดท้ายมันยังบอกไม่พอ จะเอาเงินอีก ผมเลยบอกไปว่าต้องไปโรงแรม เพราะมีอยู่ที่โรงแรม พวกมันคิดกันสักพักพวกมันก็มาส่งผมที่โรงแรม ขู่ว่าถ้าตุกติกจะให้นายใหญ่มาจัดการบุกถึงโรงแรม ผมยอมรับว่ากลัวและอยากเอาชีวิตรอด ไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คนเพราะที่เห็นในร้านนั้นมีเยอะเหมือนกันครับ
 

พอมาถึงหน้าโรงแรมผมรีบวิ่งไม่แบบคิดชิวิต ฝ่าฝูงมอเตอร์ไซค์มากมาย รีบเข้าโรงแรมและติดต่อ GM ด่วน!! มือไม้สั่น น้ำตาไหล กลัว ระเเวง เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผม เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกผมให้ใจเย็นๆ ผมจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง..!!

          สุดท้ายคำตอบที่ผมได้ ที่ทำให้ผมจำชื่อโรงแรมนี้ขึ้นใจคือ GM พูดว่า sorry sir, I can't help you I hope it your best experience in HOCM. You are 2sd..และขอร้องไม่ให้ผมแจ้งสถานทูต ไม่ยอมให้ต่อโทรศัพท์โทรหาใคร บอกให้นึกแค่ว่ามือถือหายก็แล้วกัน เพราะเคยมีเหตุการณ์แบบนี้สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ผมจะเเจ้งสถาทูตก็ไม่ยอม และที่สำคัญไม่ถามผมเลยสักคำเจ็บแค่ไหน พรุ่งนี้จะมีเงินไปสนามบินมัย? กินข้าวมายัง? พูดแต่ว่า…ทางโรงแรมช่วยเหลือคุณไม่ได้ต้องขออภัย พวกนี้มันทำเป็นกระบวนการ ที่โรงแรมตอนนี้มีแต่ staff ผู้หญิง นี้มันคืออะไรกัน? คำปรึกษา คำปลอบใจ พวกคุณเจ้าหน้าที่ในโรงแรมพวกนี้ยังไม่มีเลย ไม่ยอมแจ้งตำรวจให้ ขอใช้อินเตอร์เน็ตก็กำหนดเวลา บอกให้ผม come down and go back to your room. โรงแรม Alagon Hoang Hai Long Hotel

          สุดท้ายผมได้กลับไทยด้วยเงินมัดจำที่โรงแรม 1,500 บาท เป็นค่ารถมาสนามบิน ผมเองไม่ใช้บัตรเครดิตใช้เเต่เดบิตเงินสด ตลอดทั้งคืนผมนอนไม่หลับ กลัว ระเเวงทุกอย่าง ผวา อยู่แต่ในโรงแรมไม่ไปไหนจนถึงเวลามาสนามบินครับ ผมมานั่งรอที่สนามบินตั้งแต่ 12.00 – 21.30 น. เพื่อขึ้นเครื่องกลับ

          ขอฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่สวยงาม ผู้คนไร้น้ำใจ คับแคบจิตใจเหลือเกิน ขอบคุณตัวเองที่มีสติ ขอบคุณสิ่งศักดิ์ที่คุ้มครอง ให้ผมรอดกลับบ้านเรา

ข้อมูลจาก พันทิป สมาชิกหมายเลข 2221005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: