งานเข้า!!! ผู้กำกับทั้งสองโรงพักโต้เอง “ดาบตำรวจ” ใช้ปืนขู่ไฟแนนซ์ “ไม่ผิด” แถมไฟแนนซ์อาจโดนข้อหาเพิ่มด้วยเพราะทำแบบนี้?!!!(มีคลิป)





 

เรื่องที่เป็นประเด็นร้อน ในกรณีชายคนหนึ่งที่อ้างตนว่าเป็นตำรวขถือปืนขู้ไฟแนนซ์และเป็นเรื่องโด่งดังไปทั้งโลกโซเชียล จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพและคลิปวีดิโออธิบายเหตุการณ์ของพนักงานเร่งรัดหนี้สิน กำลังเข้าไปทำงานตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส หมายเลขทะเบียน ฌอ 2979 กรุงเทพมหานคร กระทั่งมีชายไม่ทราบชื่อไม่สวมเสื้อ ใส่แต่กางเกงขายาวสีครีม ไม่สวมรองเท้า เดินถือปืนออกจากบ้านหลังหนึ่ง และขึ้นไปที่นั่งคนขับ ก่อนขับรถคันดังกล่าวออกไป
ล่าสุด ผกก.สน.คันนายาว เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าชายที่ปรากฎในคลิป คือ ด.ต.เอกฉัตร สมสิริ ผบ.หมู่ สืบสวน สน.บางเขน พร้อมแจ้งว่าไม่ได้แจ้งข้อหาพกปืนผิดกฎหมาย เพราะมีทะเบียนและใบอนุญาตพกพา แถมเมียของดาบยังแจ้งความกลับว่า มีการติดตามยึดรถถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงการโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ ผู้ทวงหนี้สามารถทำได้หรือไม่อีกด้วย

ล่าสุด พ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า คดีดังกล่าวต้องแบ่งเป็น 2 กรรม 2 วาระ ส่วนแรกในคลิปมีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ จากการตรวจสอบกับผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.เอกฉัตร พบว่าการครอบครองอาวุธปืนมีใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนถูกต้อง รวมทั้งมีใบอนุญาตพกพาที่ทางผู้บังคับบัญชาออกให้ไว้ชั่วคราวสำหรับปฏิบัติหน้าที่ โดยทาง ด.ต.เอกฉัตรได้นำอาวุธปืนพร้อมเอกสารหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะดำเนินการเตรียมแจ้งข้อหาผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 392 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) กับ ด.ต.เอกฉัตร ส่วนคดีแพ่งที่มีการผิดสัญญาการซื้อขายนั้น พบว่าขาดส่งจริง โดย น.ส.นพวรรณระบุว่าพนักงานเร่งรัดหนี้สินไม่ได้แสดงบัตร โดยได้ขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบว่ามีการติดตามยึดรถถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงการโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ ผู้ทวงหนี้สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งการจะยึดรถของไฟแนนซ์ต้องกระทำตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาพ.ศ.2555 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และขณะนี้มี พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 เรื่องการนำข้อมูลของลูกหนี้ไปเผยแพร่โพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ เข้าข่ายความผิด ตามมาตรา 11 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และวรรค (3) การแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และสุดท้าย พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญกับด.ต.เอกฉัตร และจะส่งปืนไปตรวจสอบว่าถูกต้องตามใบอนุญาตพกพาหรือไม่ โดยฝ่ายภรรยาของด.ต.เอกฉัตรต้องการให้ทาตำรวจตรวจสอบโดยใช้อำนาจสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงหาต้นตอของผู้ที่เผยแพร่ ซึ่งการโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ ในลักษณะแบบนี้นั้นอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 อย่างไรก็ตามด.ต.เอกฉัตรได้ให้การภาคเสธ และเนื่องจากด.ต.เอกฉัตรได้เข้ามามอบตัวด้วยตนเองจึงทำการสอบปากคำและปล่อยตัวไป

ชมคลิป

ข้อมูลจาก AMARIN TVHD

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: