กองทัพเรือแถลง”เรือดำน้ำจีน” ผ่อน 7ปี 17งวด ปีนี้จ่าย 700ล้าน!! ปีต่อๆไปจ่าย 2.1พันล้าน!!





 

การชี้แจงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ชั้นหยวน S26T จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ วงเงิน 13,500 ล้านบาท หลังผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 เมษายน กองทัพเรือใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง ชี้แจง ที่โรงเก็บอากาศยาน เรือหลวงจักรีนฤเบศร ท่าเทียบเรือ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะชี้แจง ประกอบด้วย พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ, พลเรือเอกพัชระ พุ่มพิเชษฐ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดจ้างสร้างเรือดำน้ำในรัฐบาลต่อรัฐบาล, พลเรือเอก กฤษฎาภรณ์ พันธุมโพธิ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ในกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ, พลเรือตรี วิสาร ปัณฑวังกูร ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยผู้ใช้งาน และพลเรือเอกจุมพล ลุมพิกานนท์ โฆษกกองทัพเรือ

 

 

พลเรือเอกลือชัย เปิดเผยว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องการจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีราคากว่า 24 ล้านล้านบาท และสินค้านำเข้าส่งออกร้อยละ 95 ต้องใช้เส้นทางคมนาคมทางทะเล โดยกองทัพเรือไม่มีเรือดำน้ำประจำการมากว่า 60 ปีแล้ว และเทคโนโลยีเกี่ยวกับเรือดำน้ำก็มีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งประเทศต่างๆในภูมิภาคต่างก็มีการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการแล้ว โดยอ่าวไทย มีทรัพยากรที่สำคัญและเป็นจุดยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยลักษณะพื้นที่ค่อนข้างแคบ ในอนาคตหากมีการปิดอ่าวจากประเทศอื่น ก็สามารถทำได้โดยง่ายและอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ จากการที่กองทัพเรือ ไม่มีอะไรดำน้ำมาเป็นระยะเวลานานทำให้กองทัพเรือสูญเสียขีดความสามารถด้านนี้อย่างสิ้นเชิง ทั้งองค์ความรู้ ทักษะของกำลังพล

 

 

สำหรับประเด็นในเรื่องของความลึกของอ่าวไทยซึ่งมีเฉลี่ยโดยประมาณ 50 เมตร พลเรือเอกลือชัย ระบุว่า ความลึกขนาดนี้ เรือดำน้ำสามารถปฏิบัติการได้ เช่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือดำน้ำของสหรัฐเคยใช้เส้นทางนี้เช่นกัน ยืนยันว่าในขั้นตอนของการจัดซื้อนั้น มีการพิจารณาอย่างรอบด้าน และยึดยุทธศาสตร์กองทัพเรือเป็นหลัก มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ พร้อมทั้งงบประมาณที่ใช้ นั้น ไม่ได้เบียดเบียนงบประมาณจากกระทรวงอื่น รวมถึงไม่ได้ของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล และอยากจะใช้ช่องทางนี้ ชี้แจงกับกำลังพลของกองทัพเรือว่า แม้ว่ากองทัพจะนำงบประมาณไปจัดหาเรือดำน้ำ แต่ก็ยังมีงบประมาณ พอสำหรับการซ่อมบำรุงและจัดหายุทโธปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นได้

 

 

ด้านพลเรือโทพัชระ ระบุว่า การมีเรือดำน้ำไม่ได้เป็นความต้องการของกองทัพเรือเท่านั้น แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมี ซึ่งมีการศึกษาพูดคุยกันมานานแล้ว กองทัพเรือได้ศึกษาและดำเนินโครงการจัดหาเรือดำน้ำมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 30 ปี โดยเกือบจะได้รับอนุมัติให้จัดหามาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง การจัดหาเรือดำน้ำครั้งนี้ เป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ต่อเนื่องมาในปีงบประมาณ 2559 และปีงบประมาณปัจจุบัน กองทัพเรือได้มีการศึกษาเปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทผู้ผลิตเรือดำน้ำจากประเทศต่าง ๆ 6 ประเทศ ซึ่งบางประเทศก็ให้เฉพาะตัวเรือไม่ให้ระบบอาวุธ บางประเทศให้ทั้งตัวเรือและระบบอาวุธแต่ก็มีราคาสูงและอะไหล่สำหรับการซ่อมบำรุงที่แพงมาก บางประเทศไม่สนับสนุนการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่งกองทัพเรือได้พิจารณาคัดเลือกอย่างรอบคอบ โดยข้อเสนอของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการสร้างเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า ชั้นหยวน S26T พร้อมระบบอาวุธและระบบสนับสนุนต่าง ๆ รวมทั้งการจัดหลักสูตรการฝึกอบรมให้กับกำลังพล เป็นข้อเสนอที่ตอบโจทย์ได้ตามหลักการในข้างต้นมากที่สุด ประกอบกับศักยภาพของน้ำจีนก็เป็นประจักษ์ชัดว่าเป็นกองเรือดำน้ำที่ยิ่งใหญ่ในลำดับต้นๆ ของโลก

 

 

โดยการจัดซื้อในครั้งนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องทำในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการที่มีความสำคัญ มีระยะเวลาดำเนินโครงการค่อนข้างนาน มีวงเงินค่อนข้างสูง ผลสำเร็จมีผลกระทบต่อกองทัพเรือและประเทศไทย และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทางฝ่ายจีนที่มีทั้งบริษัทต่อเรือ กระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือจีน และหน่วยงานของจีนที่กำกับดูแลด้านอุตสาหกรรมทางทหาร ซึ่งจะต้องเข้ามาร่วมให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการให้เดินหน้าและประสบผลสำเร็จ ตั้งแต่ขั้นดำเนินโครงการไปจนถึงการใช้งานตลอดอายุการใช้งาน ดังนั้น การที่จัดทำสัญญาในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาลนี้ ย่อมเป็นการลดความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่นว่าโครงการจะสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลสามารถกำกับดูแลและติดตามการดำเนินโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ง่ายต่อการติดตามตรวจสอบทั้งจากส่วนกลางและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน

ข่าวจาก : ทีนิวส์
ภาพจาก : โพสต์ทูเดย์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: