สัสดียืนยันยังไงก็ต้องมารายงานตัว ปีต่อไปไม่ต้องมา หลังมีข่าวแม่พาลูกป่วยติดเตียงมาเกณฑ์ทหาร





กลายเป็นเรื่องราวดราม่าที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อ คุณแม่ของ “น้องอ็อฟ ธนกฤต” อดีตนักแสดงหนุ่ม พาลูกชายป่วยติดเตียง เดินทางมาหน่วยรับเลือกทหารกองเกิน หลังสัสดีอำเภอยืนยันต้องพามาให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจร่างกาย สร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็น จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 เม.ย. 2566 น.ส.ดวงกมล วุฒิโรธง อายุ 49 ปี แม่ของนายธนกฤต วุฒิโรธง อายุ 21 ปี นักแสดงหนุ่มในภาพยนตร์เรื่อง 16 ห้าว 19 เดือด ซึ่งถูกสาวเมาสุราขับรถชนจนต้องรักษาตัวในสภาพหมดสติคล้ายกับเป็นเจ้าชายนิทรามาเกือบปี หลังทราบว่าเช้าวันนี้ต้องนำลูกชายในสภาพไม่รู้สึกตัวขึ้นรถ 1669 ไปยังหน่วยรับเลือกทหารกองเกิน เพื่อเป็นทหารกองประจำการอำเภอเมือง จ.ลำพูน สร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่เข้ามาคัดเลือกและชมการคัดเลือกจำนวนมาก

แม่นักแสดงหนุ่ม เผยว่า ลูกชายเป็นนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง 16 ห้าว 19 เดือด เมื่อเกือบปีที่ผ่านมาลูกชายกลับมาบ้านและกำลังขี่จักรยานยนต์ไปโปรโมตหนังร่วมกับเพื่อนๆ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาถูกสาวเมาสุราขับเก๋งมาชนท้ายรถจักรยานยนต์ของลูกชายจนเจ็บสาหัส นอนรักษาอยู่ไอซียูหลายเดือน ต้องมารักษาตัวต่อที่บ้านซึ่งสร้างเป็นห้องปลอดเชื้อในสภาพเหมือนคนไม่รับรู้อะไร ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ปัจจุบันหมดเงินค่ารักษาไปกว่า 3 ล้านบาท แต่คู่กรณียังไม่มาช่วยเหลือ

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มาแค่สี่หมื่นกว่าบาท แต่โชคดีที่ประกันมอบเงินช่วยเหลือมาจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่เพียงพอกับที่ต้องจ่ายค่ารักษาไป หลังเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมและยังโยกโย้การจ่ายเรื่องเยียวยาอีก ตอนนี้ต้องแบกรับภาระเพียงคนเดียว ที่ผ่านมาตนเองทราบว่าลูกชายจะต้องไปเกณฑ์ทหารตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว พยายามเดินเรื่องแจ้งให้ทางสัสดีอำเภอเมืองทราบว่า ลูกชายตนเองประสบอุบัติเหตุจนปัจจุบันก็ยังไม่ได้สติ ต้องทำห้องปลอดเชื้อที่บ้านให้ลูกชายพร้อมทั้งนำคลิปสภาพของลูกชาย ใบรับรองแพทย์ บัตรผู้พิการ รวมถึงจะให้ผู้นำชุมชนมาเป็นพยานให้

แต่สุดท้าย วานนี้ทางสัสดีประสานมาทางผู้นำชุมชน พร้อมให้นำลูกชายตนเองไปที่หน่วยรับเลือกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจร่างกายเพื่อปีต่อๆ ไป จะไม่ต้องมาทำการผ่อนผันอีก ซึ่งตนเองก็พยายามถามว่ามีทางอื่นไหม เพราะการที่นำลูกชายซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายไปหน่วยนั้นมันลำบากมาก เพราะลูกชายอยู่ในสภาพไม่รับรู้อะไรและยังต้องใช้เครื่องออกซิเจนช่วย จึงต้องประสานรถ 1669 มารับ ส่วนตัวไม่อยากที่จะให้คนอื่นๆ เป็นแบบนี้เพราะการนำผู้ป่วยในลักษณะนี้ออกนอกสถานที่เป็นการเสี่ยงมาก หากเกิดอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

ทั้งนี้ ตนเองก็เข้าใจในระเบียบที่เจ้าหน้าที่อธิบาย แต่ก็อยากจะถามว่ามันไม่มีทางออกหรือหนทางอื่นอีกเหรอ อยากจะขอวิงวอนให้คู่กรณีมาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระตนเองบ้าง และหากมีผู้ใจบุญมาช่วยเรื่องผ้าอ้อมหรือข้าวของจำเป็นสำหรับผู้ป่วยตนเองก็ยินดีรับ

ทางด้าน พันโทปรีชา กาบเอื้อง สัสดีอำเภอเมืองลำพูน เผยว่า เรื่องนี้เป็นไปตามระเบียบของการคัดเลือกตามกฎหมายกำหนด ซึ่งตนเองได้อธิบายให้แม่ของน้องทราบแล้ว ซึ่งแม่ของน้องเขาก็ต้องการทำเรื่องนี้ให้เรียบร้อยภายในปีนี้ ปีต่อไปก็ไม่ต้องมาทำเรื่องอีก เพราะตามระเบียบ ถ้าพาน้องเขามาได้แล้วให้คณะกรรมการในหน่วยทั้ง 3 คนมาตรวจร่างกายของน้องเองเขาจะได้กำหนดได้ว่าป่วยในจำพวกไหน ซึ่งปีต่อไปก็ไม่ได้มาอีก ไม่เช่นนั้นผู้ปกครองก็ต้องมาทำเรื่องผัดผ่อนอีกเป็นเวลาจำนวน 3 ปี

แต่หากนำน้องมารับการวินิจฉัยการคณะกรรมการภาระทางกฎหมายทางทหารของน้องถูกวินิจฉัยจากกรรมการในปีต่อๆ ไปก็ไม่ต้องมาอีก ซึ่งก็เป็นเหมือนรายอื่นๆ ไม่ต่างกัน เพราะตามระเบียบของคณะกรรมการก็ไม่ให้คณะกรรมการออกนอกพื้นที่ ซึ่งหลายคนมองแล้วว่ามันอาจจะเป็นภาพที่ไม่สวยงามเท่าไรแต่กฎหมายทหารมันเป็นแบบนี้.

 

ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: