เด็ก14สารภาพแล้ว ผงในซองคือเฮโรอีน ซื้อจากแถวบ้าน

Advertisement จากกระแสข่าวที่เด็ก14 ถูกหมอเหรียญทองตบ ยึด โทรศัพท์ และสั่งให้แก้ผ้าเดินออกจากโรงพยาบาลเหตุเพราะแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ ซึ่งแม่ของเด็กได้แจ้งความไปแล้วนั้น ต่อมาเวลา11.00น. วันที่ 15 พ.ค.67 ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เปิดเผยว่า จากที่มีเยาวชนชายคนนึงอายุ14ปี มาสูบบุหรี่ที่แผนกผู้ป่วยนอก หรือ โอ พี ดี ชั้น 1 อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วยที่รอรับการตรวจ และรู้กันดีอยู่แล้วว่าการสูดควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอด มันอันตรายแค่ไหน Advertisement ขณะที่เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 15 พ.ค.67 ทีาโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ แม่ของเด็กชายวัย 14 ปี พร้อมด้วย มูลนิธิวินวิน นายชยพล สท้อนดี สส.เขตหลักสี่-จตุจักร และนางสาวภัสริน รามวงศ์ สส.เขตดุสิตบางซื่อ พรรคก้าวไกล เพื่อมาจ่ายค่าปรับและรับเสื้อผ้า โทรศัพท์คืน ทันทีที่เดินทางมาถึงโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ก็มีเจ้าหน้าที่มาเชิญขึ้นไปที่สำนักงาน ชั้น 8 […]

“หมอเหรียญทอง” พร้อมรับ หากทำผิดกฎหมาย ปมตบชายวัย 14 ปี

14 พ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา หรือ “หมอเหรียญทอง” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงพร้อมยอมรับประเด็นที่มีการตบหน้า ยึดโทรศัพท์ และไล่ชายวัย 14 ปี ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากสูบบุหรี่ในห้องน้ำนั้น ล่าสุด เวลา 08.32 น. พล.ต.นพ.เหรียญทอง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง ใจความว่าหากตนทำผิดก็จะยอมรับผิดตามกฎหมาย หากต้องติดคุกก็จะจำคุกอย่างมีระบบเกียรติศักดิ์ กล้ารับผิด ไม่โกหก ไม่ปฏิเสธความผิด โดย พล.ต.นพ.เหรียญทอง โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อผมกระทำผิดกฎหมาย ผมก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย ลูกน้องของผมเสนอให้ผมตัดภาพวงจรผิด ด้วยการเอากล้องวงจรปิดจากจุดที่เกิดเหตุดังเช่นส่วนราชการหลายแห่งกระทำกันเมื่อเกิดเหตุ เพื่อจะได้ไม่เป็นหลักฐานเอาผิดผมออกตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุ แต่ผมสั่งการว่า “ไม่ต้อง หากผมทำผิด ผมจะรับผิดเอง แม้จะต้องจำคุกก็ตาม” ผมเป็นอดีตหัวหน้านักเรียนผู้บังคับบัญชา ผมมีระบบเกียรติศักดิ์สูงยิ่ง ไม่โกหก ไม่หนีความผิด ติดคุกก็ติดคุก ไม่เคยรู้สึกอับอายหากต้องจำคุก ลูกน้องของผมขอเสนอตัวเป็นผู้กระทำความผิดเอง ผมก็บอกว่า “พี่ขอขอบใจ แต่พี่ทำเอง พี่รับผิดเอง ไม่ต้องมีใครมารับผิดแทนพี่ทั้งนั้น” ดังนั้น คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ […]

หมอเหรียญทอง เตรียมย้ายไปออสเตรเลีย ขอถอยมาเป็นกองกลาง ดันโล่ไม่ไหวแล้ว

11 พฤศจิกายน 2565 เฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ มีการอัปเดตชีวิตล่าสุดว่า ตอนนี้อายุของตัวเองย่าง 63 ปี ดังนั้นจึงวางแผนไว้ว่าอีกไม่กี่ปีจะไปใช้ชีวิตที่ชายทะเลเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย แล้วปล่อยให้ลูกหลานดูแลบริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด (มหาชน) ต่อไป โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้ “ผมจะเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองจากกองหน้ามาเป็นกองกลาง แล้วให้ภริยาของผมยังคงเป็นกองหลังต่อไป ส่วนลูก ๆ 3 คน 2 คนทางขวาสุดและซ้ายสุดซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวสาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยาด้วยกันทั้งคู่จะเป็นกองหน้า ส่วนลูกคนเล็กเป็นผู้สอบบัญชีเพิ่งสำเร็จปริญญาโทด้านการเงิน ก็จะเป็นกองกลางคู่กับผมและหลานชายของผมอีกคนในบริษัท มงกุฎวัฒนะ จำกัด (มหาชน) อีกไม่กี่ปีเมื่อกองหน้าและกองกลางทั้งสาม บินเดี่ยวได้เอง ผมจะใช้ชีวิตตาแป๊ะ ริมชายทะเลเมืองเพิร์ท รัฐออสเตรเลียตะวันตก …ผมย่าง 63 แล้ว ผมแก่แล้วครับ…ดันโล่ไม่ไหวแล้ว”   ข่าวจาก : kapook

หมอเหรียญทองฟ้อง สปสช. ฐานบอกเลิกสัญญามงกุฎวัฒนะ

27 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ของ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฏวัฒนะ มีการโพสต์ว่า ทางโรงพยาบาล (ผู้ฟ้องคดีที่ 1) และผู้ป่วยบัตรทองอายุ 100 ปี (ผู้ฟ้องคดีที่ 2) ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคร้ายแรง เรื้อรัง ซับซ้อน ต้องรักษากับทางโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ได้ร่วมกันยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเพิกถอนคำสั่งเลิกสัญญา รพ.มงกุฎวัฒนะที่ เลขาธิการ สปสช. กระทำการไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขัดต่อ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนจะมีการเตรียมแบบคำร้องสอดสำหรับผู้ป่วยบัตรทองรายอื่น ๆ ที่ต้องการร้องสอดให้ศาล มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ป่วยที่ร้องสอดยังรักษาต่อเนื่องที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ตามปกติต่อไป ขอยื่นถอด เลขาฯ สปสช. เลิกสัญญาโดยพลการ ต่อมา วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา นพ.เหรียญทอง […]

เลขาฯ แพทยสภา เตรียมสอบจริยธรรม ‘หมอเหรียญทอง’ ปมไม่รับรักษาม็อบป่วยโควิด

เลขาฯ แพทยสภา เตรียมสอบจริยธรรม ‘หมอเหรียญทอง’ หลังอาจารย์แพทย์ มช. ร้องสอบปมไม่รับรักษาผู้ชุมนุมป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2564 นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์ หน่วยวิชาระบบหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ประกาศไม่รับรักษาผู้ป่วยโควิดที่ไปร่วมชุมนุมื โดย นพ.รังสฤษฎ์ ระบุว่า “ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ข้อ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือลัทธิการเมือง ผมใคร่ขอทางแพทยสภา พิจารณาดำเนินการ สิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ด้วยครับ” นอกจากนี้ นพ.รังสฤษฎ์ ยังแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกว่า “นักศึกษาแพทย์ที่รักทุกคน นี่คือตัวอย่างที่อาจารย์ขอให้เราทุกคนหลีกเลี่ยง อย่าปล่อยให้อคติมาทำให้ความเป็นหมอและความเป็นมนุษย์ในตัวเราลดลงนะครับ”, “กรณีเป็นคำกล่าวในที่สาธารณะของแพทย์ผู้บริหาร รพ. ดังนั้น จึงเท่ากับเป็นการกำหนดนโยบายเลือกปฏิบัติของสถานพยาบาล หากแพทยสภาไม่ดำเนินการใดๆ ผมเกรงว่าจะกลายเป็นบรรทัดฐานอ้างปฏิบัติของแพทย์อื่นๆ […]

หมอเหรียญทอง โพสต์ทวงหนี้สปสช. ชี้ใช้เงินไปเยอะมากตั้งรพ.สนาม

หมอเหรียญทอง โพสต์ทวงหนี้สปสช. ชี้ใช้เงินไปเยอะมากตั้งรพ.สนาม เมื่อวันที่ 21 พ.ค. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก จี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโปรดชำระหนี้ค้างจ่ายจำนวน 13.2 ล้านบาทเศษให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ระบุว่า เรียน เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ความว่าเนื่องจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้ใช้เงินจำนวนมากในการจัดตั้ง รพ.สนามพลังแผ่นดินซึ่งเป็น รพ.สนาม ระดับ 3 และยังมีผู้ป่วยโควิด-19 ใน รพ.สนาม ที่ต้องรับผิดชอบต่อวันมากกว่า 700 ราย ดังนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะจึงมีค่าใช้จ่ายต่อวันสูงมากจึงจำเป็นต้องมีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอ รพ.มงกุฎวัฒนะจึงขอความกรุณาจาก สปสช. ได้โปรดชำระหนี้ค้างจ่ายจำนวน 13.2 ล้านบาทเศษให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะจากกรณีที่ สปสช. ยกเลิกสัญญาคลีนิคซึ่งเป็นคู่สัญญาของ สปสช จากเหตุประพฤติทุจริตเมื่อกลางปี พ.ศ.2563 ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจำนวนมากจากการที่ สปสช. ยกเลิกสัญญามาใช้บริการโดยตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะโดย สปสช. ได้ประกาศต่อสาธารณะว่าให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญาสามารถมาใช้บริการโดยตรงกับ รพ.ต่างๆ ที่เป็นคู่สัญญากับ สปสช. ได้ซึ่งหมายรวมถึง รพ.มงกุฎวัฒนะด้วย ทั้งนี้ […]

1 2
error: