ลูกสาวเหนื่อยใจ ฝากเงินไว้กับแม่นาน12ปี รวมเกือบ3ล้าน สุดท้ายเหลือแค่หลักหมื่น

Advertisement เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานเรื่องราวชีวิตของสาวไต้หวันรายหนึ่งที่ได้โพสต์ระบายความอัดอั้นใจบนชุมชนออนไลน์ โดยเธอเล่าว่า เธอไว้ใจให้แม่เป็นคนเก็บเงินเดือนไว้เกือบทั้งหมดตลอด 12 ปี ซึ่งเธอควรจะมีเงินอยู่ในบัญชีถึง 2.93 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลับต้องช็อกเมื่อพบว่าเงินก้อนของเธอหายไป เหลือติดบัญชีเพียงแค่ครึ่งแสนเท่านั้น Advertisement ตามรายงานระบุว่า หญิงสาวรายนี้นับตั้งแต่เธอเรียนจบและเริ่มทำงานได้รับเงินเดือน เธอก็เริ่มฝากเงินไว้กับแม่ทุกเดือน 24,000 ดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 24,000 บาท และเก็บไว้ใช้เพียง 4,500 ดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 4,500 บาท เนื่องจากก่อนหน้านี้แม่เกลี้ยกล่อมให้เธอเชื่อใจว่า “ถ้าลูกให้แม่จัดการเงินของลูกตอนนี้ ลูกจะต้องขอบคุณแม่ในภายหลังอย่างแน่นอน” และยังยืนยันว่าเมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการใช้เงิน ก็สามารถมาเอาไปใช้ได้ทันที แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอไม่เคยขอเงินก้อนนั้นมาใช้ได้สักครั้ง โดยเธอเล่าต่อว่า ครั้งหนึ่งเธออยากดัดผม เลยขอให้แม่ถอนเงินออกมาสัก 3,000 ดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 3,300 บาท แต่เธอกลับถูกดุเพราะใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไป Advertisement นอกจากนี้ แม้ว่าเธอต้องทนหิวและแทบไม่มีเงินพอสำหรับค่าอาหาร แต่เธอก็ลังเลที่จะขอเงินเพิ่มจากแม่ เพราะกลัวว่าแม่จะโกรธเธออีก จนเมื่อเวลาผ่านไปนานถึง 12 ปี เธอก็คาดว่าตัวเองน่าจะมีเงินออมอยู่ในบัญชีเป็นจำนวนมากถึง 2.66 ล้านดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 2.93 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตอนที่เธอจะแต่งงานและได้รับสมุดบัญชีเงินฝากคืนจากแม่ เธอกลับต้องช็อกเมื่อได้เห็นว่าเงินเก็บของตัวเองหายไปเกือบหมด […]

คิดได้ไง? เจ้าของรถไม่อยากจ่ายค่าปรับ จ้างเครนมายกรถตู้ ไปจอดบนดาดฟ้า

13 มิถุนายน ไต้หวัน นิวส์ รายงานว่า โลกออนไลน์ปรากฏภาพรถตู้ 2 คัน ที่ขึ้นไปจอดอยู่บนดาดฟ้าบนตึกในไถจง ซึ่งเจ้าของรถตู้ 2 คันนั้น ยืนยันว่า อาคารทำจากคอนกรีตและเหล็กเส้น เพื่อให้เพื่อนบ้านคลายกังวล รถตู้คันหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะพอดีกับพื้นที่หลังคาเป๊ะ ในขณะที่อีกคันดูเหมือนจะวางอยู่บนราวของอาคาร บางส่วนก็เหนือขอบขึ้นไป “มันไม่ได้จะส่งผลกระทบต่ออาคาร อย่าเอะอะไป” เจ้าของรถได้บอกกับไชน่า ไทม์ส หลังจากเจ้าหน้าที่ของเมือง และตำรวจได้ไปขอให้เขานำรถลง   ข่าวจาก : มติชน

หญิงวัย80ปวดหลังจนเดินไม่ได้ หมอเจอฝีในกล้ามเนื้อ เสี่ยงติดเชื้อถึงชีวิต

สำนักข่าวอีทีทูเดย์รายงาน กรณีทางการแพทย์ที่เตือนให้ประชาชนควรสังเกตอาการเจ็บป่วยของตนเองเป็นประจำ หากเกิดความผิดปกติแก่ร่างกายแม้แต่น้อยเป็นระยะเวลานาน ควรรีบไปพบแพทย์ ตามรายงาน หญิงอายุ 80 ปีแซ่หลิน มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน เธอรู้สึกปวดหลังส่วนล่างจนทนไม่ได้และเดินลำบาก เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์ทำการเพาะเชื้อแบคทีเรียในเลือดและการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ยืนยันการวินิจฉัยพบ “ฝีในกล้ามเนื้อเอว” ซึ่งมีอาการซับซ้อนด้วยภาวะติดเชื้อ นพ. เหลียว เจี่ยฮ่อง ผู้อำนวยการแผนกการติดเชื้อของโรงพยาบาลหนานโถว อธิบายว่าฝีเป็นการอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง ทำให้มีลักษณะอาการปวด บวม แดง ร้อน และมีหนองคั่งอยู่ข้างใน โดยฝีในกล้ามเนื้อเอว เป็นการติดเชื้อในช่องท้องที่หายาก ซึ่งหมายความว่ามีหนองสะสมในกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานส่วนเอว โดยมักอาการเบื้องต้น เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร และเดินลำบาก ทำให้เกิดความสับสนกับโรคทางเดินปัสสาวะ ทางเดินอาหาร หรือการติดเชื้อที่ข้อต่อได้ง่าย นพ. เหลียว เจี่ยฮ่องมีความจำเป็นต้องกรีดระบายหนองออกผ่านผิวหนังให้กับผู้ป่วย หลังจากอัลตราซาวนด์พบว่าฝีได้รับการระบายออกเรียบร้อยแล้ว ตามรายงานคนไข้ได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมสำหรับการรักษา และอาการก็ดีขึ้นได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงถึงชีวิตได้ นพ. ฮ่อง ฮงชาง ประธานโรงพยาบาลหนานโถว กล่าวว่า ทีมสหสาขาวิชาชีพของแผนกการติดเชื้อของโรงพยาบาล แผนกรังสีวิทยา แผนกศัลยกรรมกระดูกและแผนกระบบทางเดินปัสสาวะได้ให้บริการความร่วมมือทางการแพทย์สำหรับกรณีนี้ มีการอธิบายและหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษา แผนทางการแพทย์ในอนาคต […]

ชายวัย40 ทรุดหนัก ไอนาน1เดือน ตรวจเจอมะเร็งปอดระยะสุดท้าย

สำนักข่าวอีทีทูเดย์รายงาน กรณีทางการแพทย์ที่ควรระมัดระวังและสังเกตร่างกายของตนเองเป็นประจำเสมอ โดยชายวัย 40 มีอาการไอนาน 1 เดือน เมื่อไปพบแพทย์ถึงกับช็อก เป็น “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย” และ มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ นพ. ซู อี้เฟิง แพทย์ประจำแผนกเวชศาสตร์ทรวงอก กล่าวว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีพฤติกรรมสูบบุหรี่มา 20 – 30 ปี จากนั้นไม่นานมานี้ เกิดอาการไอหนักเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งแพทย์แนะนำผู้ป่วยให้รีบรักษาทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยกลับกล่าวว่า “ไม่เชื่อ! ต้องเอาข้อมูลไปถามโรงพยาบาลอีกสองสามแห่ง!” นพ. หลิน เมิ่งฮุย หัวหน้าแผนกการจัดการสุขภาพแห่งเมืองไทเปเตือนว่า มะเร็งปอดมักถูกเรียกว่า เพชฌฆาตเงียบ เนื่องจากมะเร็งปอดระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน เมื่อมีอาการชัดเจนและเข้ารับการรักษา ส่วนใหญ่จะเข้าสู่ระยะลุกลาม ทำให้มะเร็งปอดมีอัตราการตายสูงและอัตราการรอดชีวิตต่ำ นพ. หลิน เมิ่งฮุย กล่าวว่า การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ด้วยปริมาณรังสีต่ำ (LDCT) สามารถตรวจพบก้อนเนื้อในปอดที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ซม. และมีความไวสูงและมีโอกาสตรวจพบรอยโรคได้เร็วกว่า จากหลักฐานทางการแพทย์ การตรวจคัดกรอง LDCT […]

หนุ่มซาบซึ้งเจ้านายเลิกจ้าง-ชดเชย7.4ล้าน เหตุเจ้านายคิดว่าตนเหมาะกับที่ที่ดีกว่านี้

เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า พนักงานหนุ่มชาวไต้หวันได้โพสต์ประสบการณ์ของเขาผ่านชุมชนออนไลน์ Dcard ระบุว่า “เจ้านายบอกว่าผมเหมาะกับบริษัทที่ดีกว่านี้ และคงจะดีกว่าถ้าจะไปอยู่กับบริษัทใหญ่เพื่อการพัฒนา ดังนั้นเขาจึงให้ผมออกจากงาน” ชายหนุ่มเล่าว่า เขาทำงานที่บริษัทแห่งนี้มา 3 ปีแล้ว โดยมีเงินเดือนอยู่ที่ 52,000 ดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 56,000 บาท เจ้านายเป็นคนที่ใส่ใจพนักงาน ไม่ขอให้ทำงานล่วงเวลา เงินพิเศษช่วงสิ้นปีก็ให้มากกว่า 3 เดือน แถมบรรยากาศในการทำงานยังดีมาก ๆ อย่างไรก็ตาม เจ้านายบอกว่า บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานกว่า 20 คน ส่วนมากก็อายุเข้าเลข 4 กันแล้ว ขณะที่ตัวเจ้านายอายุ 78 ปี เขาคิดว่าพนักงานคนนี้อายุยังน้อย ในขณะที่บริษัทคงไม่สามารถดำเนินการได้นานขนาดนั้น เลยหวังว่าเขาจะออกไปพัฒนาตัวเองต่อในบริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ เพราะมองว่าหากในอนาคตบริษัทไม่อยู่แล้ว เขาจะกลายเป็นคนตกงานตอนวัยกลางคน นอกจากนี้ เจ้านายยังให้เงินชดเชยการเลิกจ้างแก่เขาเป็นเงินมูลค่า 1.5 ล้านหยวนหรือราว 7.4 ล้านบาท และยังบอกอย่างอบอุ่นว่า บริษัทจะเป็นบ้านของเขาเสมอ ถ้าลำบากหรือมีปัญหาตราบเท่าที่เจ้านายยังอยู่ในบริษัทก็จะช่วยดูแลเขาได้ หลังแจ้งข่าวดังกล่าวแล้วเจ้านายยังช่วยแนะนำเขาให้บริษัทใหญ่ ๆ […]

ปธน.ไต้หวัน ลาออก “หัวหน้าพรรครัฐบาล” หลังพรรคแพ้เลือกตั้งท้องถิ่น

วันที่ 26 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า น.ส.ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) รัฐบาลชุดปัจจุบัน หลังพรรคแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นต่อพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) พรรคฝ่ายค้านที่ชนะศึกหลายพื้นที่เมื่อวันเสาร์ที่ 26 พ.ย. รวมถึงกรุงไทเป เมืองหลวง การลงคะแนนเสียงครั้งนี้ดึงดูดความสนใจทั่วโลก เนื่องจากไต้หวันกลายเป็นจุดชนวนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่ขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ขณะที่ประธานาธิบดีไช่วางกรอบการเลือกตั้งเป็นการลงคะแนนเสียงเพื่อประชาธิปไตย ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับจีน “ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง… ดิฉันควรแบกความรับผิดชอบทั้งหมด และดิฉันขอลาออกจากหัวหน้าพรรคดีพีพีทันที” ประธานาธิบดีไช่ ซึ่งจะยังเป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ในทางทฤษฎีแล้ว การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นและนายกเทศมนตรีจะเน้นเรื่องภายในประเทศ ครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่น อาชญากรรม ที่อยู่อาศัย และสวัสดิการสังคม และการเลือกตั้งจะไม่ได้พูดโดยตรงเกี่ยวกับนโยบายของไต้หวันเกี่ยวกับจีน อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไช่และเจ้าหน้าที่รัฐบาลเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อส่งข้อความเกี่ยวกับการยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย ขณะที่จีนเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวัน นอกจากการเลือกตั้งแล้ว มีการลงประชามติควบคู่ในประเด็นการลดอายุผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจาก 20 ปี เหลือ 18 ปี ปรากฏว่าผู้ลงคะแนนเสียงปฏิเสธการลดอายุดังกล่าว ทั้งนี้ รัฐบาลจีนมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลที่แยกตัวออกไป และสักวันหนึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่คนไต้หวันจำนวนมากถือว่าไต้หวันซึ่งมีรูปแบบการปกครองและระบอบประชาธิปไตยเป็นของตนเอง โดยความตึงเครียดถึงจุดสูงสุดในเดือนสิงหาคม เมื่อจีนจัดซ้อมรบทางทหารรอบไต้หวันเพื่อประท้วงการเยือนเกาะของนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐ […]

ไต้หวันปรับ2แสน ห้ามเนื้อหมูจากไทย ต่างชาติอดเข้าไต้หวัน หากไม่จ่ายค่าปรับ

ไต้หวันปรับ2แสนบาท – วันที่ 11 ม.ค. ซีเอ็นเอ และ แอปเปิ้ลเดลี ไต้หวัน รายงานว่า ศูนย์รับมือภัยพิบัติส่วนกลางสำหรับโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ของไต้หวัน แจ้งข่าวที่กรมปศุสัตว์ของประเทศไทยประกาศการพบโรค ASF อย่างเป็นทางการในประเทศ หลังสุ่มเก็บตัวอย่าง 309 ตัวอย่าง และพบ 1 ตัวอย่างมีผลบวกโรค ASF จากโรงฆ่าสัตว์ในจังหวัดนครราชสีมา หลังจากนี้ จะแจ้งต่อองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) และประกาศให้พื้นที่พบโรค ASF เป็นเขตระบาด และจะดำเนินการควบคุมและกำจัดต่อไป ส่งผลให้จำนวนประเทศในเอเชียที่มีการระบาดของโรค ASF เพิ่มเป็น 15 ชาติ ได้แก่ จีน มองโกเลีย เวียดนาม กัมพูชา เกาหลีเหนือ ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ติมอร์ตะวันออก อินโดนีเซีย อินเดีย มาเลเซีย ภูฏาณ และไทย เป็นประเทศล่าสุด ขณะที่การระบาดของโรค ASF […]

ไต้หวันยึดพัสดุจากไทย ซุกซ่อน “กุนเชียง” ตรวจพบเชื้อ “อหิวาต์แอฟริกาในสุกร”

ไต้หวันยึดพัสดุจากไทย – วันที่ 23 ธ.ค. อาร์ทีไอ รายงานว่า ที่ทำการไปรษณีย์นครไถหนาน ทางใต้ของไต้หวัน ตรวจพบพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาจากไทย ซึ่งซุกซ่อนกุนเชียงที่ปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) นายเฉิน จี๋-จ้ง ประธานสภาเกษตร (Council of Agriculture Minister) ชี้แจงต่อคณะกรรมธิการกิจการเศรษฐกิจของรัฐสภาไต้หวันว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรที่ซุกซ่อนในพัสดุไปรษณีย์จากประเทศไทย อย่างไรก็ตาม นายเฉินกล่าวว่า ไต้หวันพิจารณาให้ไทยอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมาตั้งแต่ปี 2562 และว่า ตั้งแต่นั้นมา ผู้เดินทางมาจากไทยอยู่ในกลุ่มผู้เดินทางที่ต้องผ่านการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางอย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (โอไออี) ยังไม่ได้รับรายงานการติดเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรจากไทย จึงยังไม่ได้จัดให้ไทยเป็นประเทศที่มีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร นายเฉินกล่าวว่า ต่อจากนี้ พัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาไต้หวันทั้งหมด 100% จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และว่าเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบจะดำเนินการแสกนด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์พัสดุไปรษณีย์ทุกชิ้นที่ส่งมาไต้หวัน เพื่อรับมือความกังวลที่เนื้อสุกรปนเปื้อนจะเล็ดลอดเข้ามาไต้หวันที่พยายามป้องกันเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร ประธานสภาเกษตรไต้หวันยังเรียกร้องให้พลเมืองไต้หวันไม่สั่งผลิตภัณฑ์หมูจากต่างประเทศ ทั้งนี้ เชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรแม้จะไม่ส่งผลต่อคน แต่คร่าชีวิตสุกรได้ การที่เชื้อดังกล่าวเข้ามาไต้หวันจะทำลายล้างอุตสาหกรรมเนื้อสุกรขนาดใหญ่ของไต้หวัน ไต้หวันจึงออกมาตรการเพื่อป้องกันโรคดังกล่าว รวมถึงการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางที่ข้ามาไต้หวัน จากผู้เดินทางที่เดินทางมาจากพื้นที่ได้รับผลกระทบหรือประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร   ข่าวจาก : ข่าวสด

จีนประกาศกร้าว หลังไบเดนประกาศพร้อมปกป้องไต้หวันหากถูกโจมตี

ทางการจีนออกมายืนยันหลักการว่าจะไม่มีการประนีประนอมหรือยอมอ่อนข้อใดๆ ในประเด็นไต้หวัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ออกมาระบุว่า สหรัฐยึดมั่นในพันธกรณีที่จะปกป้องไต้หวันหากถูกโจมตี นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ย้ำในจุดยืนของจีนที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ในระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน หนึ่งวันก่อนหน้าที่ไบเดนจะประกาศจุดยืนดังกล่าวในเวทีที่จัดขึ้นโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น นายหวังกล่าวว่า เมื่อเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน รวมถึงประเด็นที่เป็นผลประโยชน์หลักอื่นๆ ไม่มีที่ว่างสำหรับจีนที่จะประนีประนอมหรือยอมความใดๆ และไม่มีใครที่จะบ่อนทำลายความมุ่งมั่น ความปรารถนาอย่างแรงกล้า และศักยภาพอันเข้มแข็งของประชาชนชาวจีนในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของเรา “ไต้หวันเป็นดินแดนอันแบ่งแยกไม่ได้ของจีน ประเด็นไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีนอย่างแท้จริง ที่ไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง”นายหวังกล่าว จีนมองว่าการออกมาแสดงความเห็นของไบเดนเป็นการขยายการดำเนินยุทธศาสตร์อันคลุมเครือของสหรัฐ ต่อกรณีว่าสหรัฐจะตอบโต้กับการโจมตีเกาะไต้หวัน นายหวังกล่าวว่า สหรัฐต้องระมัดระวังคำพูดและการกระทำในประเด็นไต้หวัน และต้องไม่ส่งสัญญานผิดๆ ไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน เช่นเดียวกับที่ต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐ สันติภาพ และเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ด้านนางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า การแสดงความเห็นของไบเดนดังกล่าวไม่ได้เป็นการส่งสัญญานว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติรวมถึงนโยบายของสหรัฐ ท่านประธานาธิบดีไม่ได้ตั้งใจที่จะส่งสัญญานว่ามีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย หรือตัดสินใจที่จะเปลี่ยนนโยบายแต่อย่างใด ข่าวจาก มติชนออนไลน์

ไต้หวันเตรียมทุ่ม 2.35 แสนล้านบาท ป้องกันเศรษฐกิจแย่ หลังโควิดระบาดรอบใหม่

รัฐบาลไต้หวันเตรียมทุ่มเงิน 2.1 แสนเหรียญไต้หวันหรือ 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.35 แสนล้านบาท เตรียมให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิดระบาดระลอกใหม่ ล่าสุดมีการติดเชื้อภายในประเทศ 13 คน มาตรการขั้นต้นที่มีประสิทธิภาพสำหรับป้องกันโควิดระบาดหนักขึ้นคือการปิดพรมแดน ทำให้สถานการณ์ระบาดในไต้หวันไม่รุนแรงไปกว่าเดิม เกาะไต้หวันมีคนอยู่ราว 24 ล้านคน มีการรายงานว่ามีคนติดเชื้อโควิดราว 1,256 คน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อมาจากต่างประเทศ การระบาดภายในไต้หวันเพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อวันพุธมีคนติดเชื้อราว 16 คน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นมาตรฐานร่วงลง 1.5% ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้าน Chu Tzer-ming หัวหน้าฝ่ายอำนวยการสำนักงานงบประมาณระบุว่า รัฐบาลกำลังเสนอให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจราว 2.1 แสนเหรียญไต้หวัน จากที่ก่อนหน้านี้เคยใช้จ่ายไปแล้วราว 4.2 แสนเหรียญไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องอนุมัติ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ระบุแหล่งที่มาของการติดเชื้อ COVID ใหม่ภายในประเทศ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับดีเอ็นเอที่มีการระบาดก่อนหน้านี้ทั้งที่โรงแรมในสนามบินและนักบินจากสายการบินรายใหญ่ที่สุดของไต้หวันนั่นก็คือ China Airlines ล่าสุด ไต้หวันกำลังกลับมาใช้มาตรการจัดการ COVID อย่างเข้มงวดอีกครั้งหลังมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเมืองนิวไทเปที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของไต้หวันนั้นมีการรายงานว่ามีการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น จึงเริ่มมีคำสั่งให้ปิดห้องสมุด อินเทอร์เน็ต คาเฟ่และจำกัดคนเข้ายิมไม่ให้เกิน 100 […]

error: