เปิดเงินเดือน ส.ว.2.4แสน มีค่าทำฟัน5พัน เบิกได้แม้กระทั่งค่าทำความสะอาดเสื้อผ้า-มีผู้ช่วยได้ถึง8คน

Advertisement รัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งกำหนดให้จ่ายได้หลังจากวันเข้ารับหน้าที่ ต่อมาในปี 2555 มี พ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกรัฐสภาเพิ่ม กำหนดให้ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร , สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือนนับแต่วันเข้ารับหน้าที่ Advertisement เงินเดือน ส.ว. และสวัสดิการต่างๆ ของ ส.ว. เงินเดือนประธานวุฒิสภา เงินเดือนประจำแหน่ง 74,420 บาท เงินเพิ่ม 45,500 บาท เงินเดือนรองประธานวุฒิสภา เงินเดือนประจำตำแหน่ง 73,240 บาท เงินเพิ่ม 42,500 บาท เงินเดือนสมาชิกวุฒิสภา เงินเดือนประจำตำแหน่ง 71,230 บาท เงินเพิ่ม 42,330 บาท ไม่เกินวันละ 3,100 บาทต่อคน กรณีไม่ได้เบิกเหมาจ่าย ค่าอาหาร เครื่องดื่ม โรงแรม จ่ายไม่เกินวันละ 4,500 บาทต่อคน ค่าทำความสะอาดเสื้อผ้า จ่ายไม่เกินวันละ […]

กกต.แจง ไม่ได้เร่งรัดพิจารณา ส่งศาล รธน.วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. “พิธา”

13 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ขอชี้แจง กรณีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามที่ กกต.ได้ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีสมาชิกภาพของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 นั้น กกต.ขอชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ตามมาตรา 82 วรรคสี่ บัญญัติว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร… มีเหตุสิ้นสุดลง… ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย…” การส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย กกต.ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ กล่าวคือ มาตรา 82 วรรคสี่ บัญญัติให้ กกต.เป็นผู้ใช้อำนาจโดยตรง สามารถส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ กรณีดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเรื่องการกระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือการกระทำอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมิได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จะต้องนำบทบัญญัติตามมาตรา 43 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 และ ข้อ 54 ของระเบียบ กกต. […]

“พล.ท.พงศกร” ชี้ ถ้าประธานสภาไม่ใช่ก้าวไกล จะโหวตพิธาได้รอบเดียว

1 กรกฎาคม 2566 พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก มีความว่า วันพรุ่งนี้ไม่ว่าการเจรจาระหว่างสองพรรคใหญ่จะออกมาอย่างไร ขอให้คิดไว้เสมอว่าที่ประชาชนลงคะแนนให้จนชนะฝ่าย 2 ลุงมาได้อย่างเด็ดขาดนั้น ก็เพื่อให้มาช่วยกันถอนราก ถอนโคน เครื่องมือ กลไก ในการครองอำนาจของฝ่ายอำนาจนิยม พรรคการเมืองที่อนุรักษ์นิยมจนออกนอกหน้าแทบไม่มีใครเลือก ไม่มีผู้แทนเข้ามาได้เลยเป็นส่วนใหญ่ พรรคการเมืองฝ่ายอำนาจนิยมสนับสนุน คสช.หรือเป็นนั่งร้านให้แทบหมดจากเวทีการเมือง เรื่องนี้เป็นเจตจำนงของประชาชน ควรเอาตรงนี้เป็นตัวตั้ง และเข้าใจความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกัน แม้นโยบายและแนวทางของสองพรรคจะแตกต่างกันเป็นฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย ก็ควรมาแข่งกันในการเลือกตั้งรอบหน้า รอบนี้เอาประชาชนก่อน ในส่วนของพิธา ถ้าประธานสภาไม่ใช่ของก้าวไกล คงมีโอกาสเสนอเพียงครั้งเดียว ไม่มีโอกาสที่ประชาชนจะแสดงเจตจำนงที่หนักแน่นสนับสนุนจน ส.ว.เปลี่ยนใจได้เพราะยังไม่มีเหตุ ซึ่งเข้าใจได้ถึงการชิงเหลี่ยมทางการเมืองแบบคนเก๋าเกมส์เขาทำกันในการเมืองแบบที่ผ่าน ๆ มา คำถามคือ ประชาชนอยู่ตรงไหน เพราะโพลที่ถามว่าคนไม่เอาพิธามีน้อยที่สุด และต้องการพิธาก็มาอันดับหนึ่ง ปล่อยไปตามครรลองจะดีกว่าไหม เพราะไม่ว่าใครจะมาแทนพิธาก็จะปกครองด้วยความยากลำบากทั้งนั้น ในฝั่งของพี่ป้อมถ้ารวบรวมเสียงได้ ก็ต้องเอาจากฝั่งที่ประชาชนเลือกให้มาเลิกระบอบ คสช.หากฝืนเข้ามาจะอลหม่านหนัก ในฝั่งกันเอง ถ้าให้พิธารอบเดียว ในเวลานั้นหากบังเอิญพี่ป้อมยังไม่ผ่านซึ่งเป็นไปได้ยาก ขั้นที่สามนี้จะกลับมาที่ฝั่ง 8 พรรคก็ต้องเป็นเพื่อไทย เกิดทางผู้มีอำนาจต้องการทำลายพรรคเพื่อไทยก็ง่าย แค่ให้ ส.ว.และ บางส่วนในพรรคฝ่ายรัฐบาลที่เป็นของ […]

ชัชชาติเตรียมเสนอ กกต.ใช้ AI ตรวจสอบนับคะแนน

10 เม.ย. 2566 ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. เรื่องความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ของกทม. ว่า ได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งล่วงหน้า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้ดูแลด้านความปลอดภัย การรักษาบัตรเลือกตั้ง ตั้งแต่รับบัตรมาจาก กกต. และการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว โดยนำเทคโนโลยีป้องกันไม่ให้มีใครเข้าออกห้องที่เก็บรักษาบัตร หากมีใครไปยุ่งหรือขยับกล่องลงคะแนนก็จะมีสัญญาณเตือนทันที และจะมีการถ่ายทอดสด ผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนบัตรลงคะแนนได้เด็ดขาด รวมถึงกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนในการเลือกตั้งโปร่งใสครั้งนี้ โดยสามารถแจ้งเหตุผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ เลือกเมนูหลักเรื่องเลือกตั้ง แจ้งเหตุในเมนูย่อยเรื่องความไม่โปร่งใส สามารถแจ้งเหตุ หากพบเห็นเรื่องผิดกฎหมายเลือกตั้งใดๆ เช่น การซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่ง กทม.จะรวบรวมข้อมูลส่งให้กับ กกต.ดำเนินการต่อไป รวมถึงเรื่องของป้ายหาเสียง ที่ไม่ทำตามระเบียบในการติดประกาศป้าย ประชาชนก็สามารถแจ้งได้เช่นเดียวกัน นายชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับในวันเลือกตั้ง ได้มอบ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ […]

ภูมิใจไทยขอคะแนนชาว กทม. ชูนโยบายกู้20,000 ไม่ต้องค้ำ

22 ก.พ. 2566 ที่ หมู่บ้านเสนานิเวศน์โครงการ 1 เขต 12 ลาดพร้าว วังทองหลาง กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย กษิดิ์เดช ชุติมันต์ ว่าที่ผู้สมัครของพรรค เขตลาดพร้าว ได้เดินทางมาพบปะประชาชน โดยระหว่างที่คณะทักทายประชาชนบริเวณสวนสุขภาพภายในชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงอายุ มาออกกำลัง ได้พบกับ นายพิเชฎฐ์ ศุขแพทย์ ซึ่งมาแนะนำตัวว่า ขอเป็นตัวแทนผู้สูงวัยในพื้นที่ และเป็นอดีตนักดนตรีวงรอยัลสไปรท์ส ซึ่งมาสอบถามเรื่องเนื้อหาของนโยบายกองทุนประกันชีวิต ซึ่งทางพรรคเคยหาเสียงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนายอนุทิน ได้ชี้แจงรายละเอียดของกองทุน ว่าเป็นการให้สิทธิกู้เงินแก่ผู้มีอายุ 60 ขึ้นไป ใช้ดูแลตัวเอง ในวงเงิน 20,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่จะใช้กรมธรรม์ประกันชีวิต […]

มาแปลก! ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ ชลบุรี ลงนะหน้าทอง อ้อนขอคะแนน

19 ก.พ. 2566 นายอารยะ โรจนวณิชชากร ว่าที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 4 ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และคณะทำงานของ นายสาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ TikTok ลงนะหน้าทองเรียกคะแนน สร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์ โดยเปิดเผยว่า การตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี ยอมรับว่าในพื้นที่แข่งขันกันสูง ตนคงไม่มีเงินไปสู้กับพวกเขาเหล่านั้น จึงคิดวิธีหาเสียงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากประชาชน โดยการลงนะหน้าทองเผยแพร่ลงในโลกโซเซียล หวังว่าจะเรียกคะแนนความสนใจให้กับผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งคนนี้ด้วย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ.ชลบุรี เขต 4 นายอารยะ โรจนวณิชชากร, จ.ระยอง เขต 1 นายพศิน ปิตุเตชะ เขต 2 นายสาธิต ปิตุเตชะ เขต 3 นายบัญญัติ เจตนจันทร์ เขต 4 นายธารา ปิตุเตชะ เขต 5 ฉัตรชัย ปิตุเตชะ จ.จันทบุรี […]

อนุทินประกาศปราบยาบ้า จ่อลงนามครอบครอง 1 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ

29 มกราคม ที่ชุมชนวัดมะกอก เขตสามเสนใน กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคภูมิใจไทย และทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน พร้อมนำเสนอนโยบายของพรรค ระหว่างนั้นนายอนุทินและทีมงานได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนถึงกรณีที่ชุมชนถูกปิดกั้นทางเข้าออก ไปจนถึงปัญหาค่าเช่าที่ค้าขายซึ่งสูงเกินไป นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนจากชุมชนใต้ทางด่วน อาทิ การปล่อยน้ำทิ้งจากทางด่วนและมลพิษทางเสียง ปัญหาค่าเช่าและค่าปรับต่างๆ เป็นต้น ซึ่งนายอนุทินยืนยันว่าจะหาทางแก้ไขให้เกิดความเป็นรูปธรรม จากนั้นนายอนุทินได้ชี้แจงนโยบายของพรรค ระบุว่า ที่กรุงเทพฯปัญหามันมีความเฉพาะตัว ต่างจากต่างจังหวัด เราจำเป็นต้องใช้คนเก่งเข้ามาช่วยงาน ต้องขอขอบคุณนายพุทธิพงษ์ น.ส.ภาดาท์ และทีมงานที่มาอยู่ตรงนี้กับพรรค นี่คือคนดี มีความสามารถ และถ้ารู้ว่าจะมีคนมาให้กำลังใจขนาดนี้ พรรคภูมิใจไทยส่งผู้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง อย่างกระทรวงสาธารณสุขเราได้พยายามสุดความสามารถเพื่อให้ระบบสุขภาพองค์รวมดีขึ้น มีคนบอกว่าจะยกระดับเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ อยากจะบอกว่าทำไปหมดแล้ว อย่างเรื่องผู้ป่วยโรคมะเร็ง ถ้าภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาลเราจะมีเครื่องฉายรังสีในทุกจังหวัด ผู้ป่วยโรคไตต้องได้รับความสะดวกสบาย ทุกอำเภอต้องมีศูนย์ไตเทียม กับ […]

“บิ๊กป้อม”นำทีม พปชร.เปิดนโยบายบัตรประชารัฐ700 พร้อมเป็นนายกฯคนที่30

(17 ม.ค.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค ได้เป็นประธานการแถลงข่าว เปิดนโยบายของพรรค พปชร. เพื่อใช้หาเสียงในการเลือกตั้ง โดยชูนโยบาย เพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และพร้อมเริ่มมีผลทันทีหลังจากที่ พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ในส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 ทั้งนี้ หากมีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ1.5 แสนล้านบาท พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นเงิน 200-300 บาท/เดือน ด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ยังไม่ครอบคลุมค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้พรรคได้มีการประเมิน จากการลงพื้นที่ของส.ส. และว่าที่ผู้สมัครส.ส. พบว่า เงินที่ช่วยเหลือดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เพราะในแต่ละพื้นที่มีสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่แตกต่างกัน ดังนั้น เสียงสะท้อนจากผู้ได้รับสิทธิ […]

error: