ฝนตกหนัก

Advertisement ประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 14 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย ฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ระบุว่า Advertisement บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น กำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทย และทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคง มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมี อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอยของภาคเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ส่วนยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับมสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณเกาะสุมาตราและทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย Advertisement ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 […]

10 กันยายน 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศ 10 วันล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 10-19 กันยายน 2566 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) ระบุว่า วันที่ 10-14 กันยายน 2566 ฝนยังมีกระจายต่อเนื่อง แต่ปริมาณฝนส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง อาจมีฝนหนักบางแห่งด้านรับมรสุม โดยมรสุมช่วงนี้จะมีกำลังแรงขึ้นบ้าง ส่วนร่องมรสุมยังคงสวิงขึ้นลงพาดผ่านทางภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน จึงทำให้ยังมีฝนเกิดขึ้นได้บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง (กทม. และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ด้านรับมรสุม คลื่นลมยังมีกำลังปานกลาง ต้องเดินเรือด้วยความระวัง วันที่ 15-19 กันยายน 2566 ร่องมรสุมจะเลื่อนกลับลงมาพาดภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคอีสาน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักอีกช่วง เตรียมการและเฝ้าระวังฝนตกหนัก ส่วนสถานการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนในระยะนี้ ยังไม่มีสัญญาณการก่อตัว อาจจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ยังไม่แรงถึงระดับพายุ   ข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทยา

20 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้าระหว่างเวลา 18.00 น.วันนี้ถึง 18.00 น.วันพรุ่งนี้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าบไทยตอนบน เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยวการเดินเรือในเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก รวม 22 จังหวัด มีฝนตก 70% ของพื้นที่   ข่าวจาก : มติชน

30 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 2 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-3 ส.ค.2566) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ 30 กรกฎาคม 2566 ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี และ ราชบุรี ภาคตะวันออก: […]

8 มิถุนายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนเรื่อง คลื่นลมแรง (บริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน) และ ฝนตกหนักถึงหนักมาก (ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก) ฉบับที่ 17 มีผลกระทบถึงวันที่ 11 มิถุนายน 2566 ขณะเดียวกัน ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้และอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมชายฝั่งประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

5 พฤศจิกายน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ได้รับรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ควนกาหลง ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน และเอ่อล้นท่วมถนนสายเขาไคร-บ้านเหนือคลอง หมู่ 6 ต.ควนกาหลง และพื้นที่บ่อน้ำพุร้อน หมู่ 4 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เบื้องต้นขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 4 หมู่บ้าน 2 ตำบล ขณะนี้ในพื้นที่ฝนยังตกอย่างต่อเนื่องทางอำเภอควนกาหลงประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้ติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งจัดส่งกำลัง สมาชิก อส.ควนกาหลงที่ 4 ร่วมกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกช่วยเหลือพี่น้องแล้วในเบื้องต้น ความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติม ขณะที่นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดในพื้นที่จังหวัดสตูล พร้อมกันนี้ได้สนับสนุนเรือจำนวน 6 ลำ ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลควนกาหลง เพื่อรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วนในเบื้องต้นแล้ว   ข่าวจาก : มติชน

“พยากรณ์อากาศวันนี้” 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มี “ฝนตกหนัก” ถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง “พยากรณ์อากาศวันนี้” สำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มี “ฝนตกหนัก” คะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร […]

วันที่ 10 ก.ค.2565 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุฝนตกหนักบนเทือกเขา ด้านทิศเหนือดอยไตแลง ฝั่งตรงข้ามช่องทางชายแดนบ้านปางคาม ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ส่งผลให้บ้านเรือน ราษฎรชาวไทใหญ่ดอยไตแลงซึ่งมีที่ตั้งอยู่พื้นที่ราบลุ่มได้รับความเสียหาย 6 หลังคาเรือน พอรุ่งเช้าพบมีผู้ถูกก้อนหินขนาดใหญ่ และท่อนไม้ ที่มากับน้ำป่าทับเสียชีวิต 6 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 4 ราย และสูญหายอีก 2 ราย สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ หลังฝนตกหนักบนเทือกเขาทางทิศเหนือของดอยไตแลง ชาวบ้านได้มีการเตรียมพร้อมคอยเฝ้าระวัง แต่น้ำป่าได้มาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังพัดพาเอาก้อนหิน และท่อนไม้ขนาดใหญ่ ไหลมาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดความสูญเสียแก่ราษฎรชาวดอยไตแลงส่วนหนึ่งที่อยู่พื้นที่ราบลุ่ม ซึ่งผู้สูงอายุชาวดอยไตแลงคนหนึ่งระบุว่า เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมดอยไตแลงในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้งดอยไตแลงขึ้นมาเลยทีเดียว   ข่าวจาก : ข่าวสด

8 ก.ค. 2565 – กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฉบับที่ 2 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 9-14 ก.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 10-14 ก.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 9-14 ก.ค. นี้ไว้ด้วย   ข่าวจาก : ข่าวสด