รมว.ดีอี แนะเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี แก้ทุนสีเทา หนุนเปิดผับ-บาร์เกินเที่ยงคืน

Advertisement 19 ก.พ. 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาทุนสีเทา ว่า รัฐบาลเอาจริงและจะเร่งดําเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุมพรรคพิจารณา เพื่อจัดทำเป็นนโยบายพรรค ด้วยวิธีแก้กฎหมายที่ล้าสมัยหรือขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน ต้องปรับให้ทันสมัยตรงกับหลักสากล ให้ธุรกิจไปได้ โดยเปลี่ยนส่วยมาเป็นภาษี จะทำให้ได้เงินเข้ามาพัฒนาประเทศ ธุรกิจไม่ต้องมีการจ่ายส่วย ไม่มีการคอรัปชั่น Advertisement Advertisement นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพรรคพปชร.มองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหานอกจากการปราบปรามอย่างจริงจัง ต้องแก้ไขกฎหมายเปลี่ยนส่วยให้เป็นภาษี สกัดกั้นช่องทางเรียกรับส่วยจากผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างธุรกิจบริการบางประเภท เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น ควรเปิดขายได้มากกว่าเที่ยงคืนเช่นเดียวกับต่างประเทศ แต่ไทยไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้เกิดการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยผู้ประกอบการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เปิดบริการเกินเวลา รองรับท่องเที่ยวต่างชาติได้ จึงเกิดทุนสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมา “การแก้ไขกฎหมาย เปลี่ยนทุนสีเทาเป็นภาษี ต้องพิจารณาเปิดให้เฉพาะเรื่องที่ประชาชนรับได้ แก้ไขปัญหาทุนสีเทา และนำเงินที่ได้จากธุรกิจ มาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ดูแลสวัสดิการประชาชน ส่วนเรื่องยาเสพติด การค้ามนุษย์ ต้องปราบปรามจริงจัง แก้ไขกฎหมายให้โทษหนักขึ้นอีก ซึ่งจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ได้อีกทางหนึ่ง” นายชัยวุฒิ […]

“ธรรมนัส” ยอมรับรู้จักทุนจีนสีเทา แต่ไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน ขู่ฟ้องสื่อถ้าโยงไม่เลิก

10 พฤศจิกายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้อัดคลิปชี้แจงกรณีที่มีชื่อโยงกับกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยระบุว่า ตนใช้ชีวิตปีนี้ปีที่58 แล้ว ถามว่าคนอย่างตน คบคนไม่ใช่แค่เพื่อนพี่น้องคนไทย ตนมีเพื่อนอยู่หลายประเทศ เดินทางไปประเทศโน้นประเทศนี้ มีเพื่อนทั้งฝรั่ง จีน ไทย อินเดีย เป็นเรื่องปกติ ถามว่าตนรู้จักไหม หลายคนก็รู้จัก แต่ตนไม่ได้ทำธุรกิจกับคนพวกนี้ ธุรกิจของตนก่อนเข้าเล่นการเมืองชัดเจนว่าธุรกิจเยอะแยะ การที่ตนรู้จักคนนั้นคนนี้ อย่าเอาตนไปผัวพันว่าทำธุรกิจด้วย เวลานี้ตนคือนักการเมือง พร้อมที่จะถูกตรวจสอบ แต่ต้องถูกต้องตามกฎหมาย “จึงขอวอนถึงสื่อมวลชนบางสำนักที่เอาผมไปวิพากษ์วิจารณ์ด้านเสียหาย ผมเงียบมา 2 อาทิตย์แล้ว ไม่ใช่ว่า อยู่นิ่งๆแล้วไม่ทำอะไร ผมกำลังเก็บข้อมูล ฉะนั้น ขอให้นำเสนอข่าวให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายด้วย อย่างเพิ่งด่วนตัดสินใจว่า เขาเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่ต้องแยกแยะระหว่างการรู้จัก ทำธุรกิจ และเรื่องการเมือง อย่าไปผสม หรือละเลง จนผู้ใดผู้หนึ่งเกิดความเสียหาย ถ้าเขาเสียหายแล้วพวกท่านจะลำบาก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่น ฝากไว้ด้วย” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ   ข่าวจาก : […]

error: