กกต.ยกคำร้องเอาผิด “กระเป๋าเงินดิจิทัล” เป็นนโยบายหาเสียง-ไม่เข้าข่ายหลอกลวง

Advertisement 29 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กกต. ได้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ที่ประชุม กกต. พิจารณา กรณีมีการร้องให้ กกต. ตรวจสอบนโยบายหาเสียงกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่าเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ และหลอกลวงให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครตาม มาตรา 73 (1) (5) พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่ โดยที่ประชุม กกต. ได้พิจารณาและมีมติตามที่สำนักงานเสนอ ว่าไม่ควรรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียง เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว จึงไม่อยู่ในข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง จึงมีมติยกคำร้อง Advertisement Advertisement สำหรับนโยบายดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ ขณะเดียวกันสำนักงาน กกต. ก็มีหนังสือแจ้งให้พรรคเพื่อไทย ทำการชี้แจงที่มาของวงเงินที่จะใช้ ความคุ้มค่า ประโยชน์ และความเสี่ยงของการดำเนินโครงการตามที่ มาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ กกต. ดำเนินตรวจสอบความเป็นไปได้ของนโยบาย และเปิดเผยให้ประชาชนทราบ ขณะที่ทั้งนายศรีสุวรรณ จรรยา […]

กกต.ใหญ่ ทราบแล้ว ชลบุรีบัตรเขย่งหลายพันใบ ที่แท้แค่เขียนบัตรเสียผิด

20 พ.ค. 2566 รายงานข่าวจากกรณีหน่วยนับคะแนนรวม ส.ส.เขต 10 ชลบุรี มีบัตรเขย่งหลายพันใบ ทำให้เกิดการกังขาของประชาชนว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม และขอให้ กกต.ชลบุรีออกมาขี้แจง ล่าสุดทาง กกต.ชลบุรี กำหนดให้มีการขนย้ายหีบบัตรไปเก็บรักษาไว้ที่ กกต.จังหวัดชลบุรี ทำให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย และก้าวไกล พร้อมชาวบ้านนับร้อยคน ได้มาประท้วงไม่ให้เคลื่อนย้ายหีบบัตรคะแนนดังกล่าว ล่าสุดแหล่งข่าวระดับสูงของ กกต. กล่าวว่า ทาง กกต. รับทราบเรื่องนี้แล้ว และในเบื้องต้นจะให้จัดเก็บบัตรเลือกตั้งไว้ยัง กกต.เขต ก่อน ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของประชาชนที่มาชุมนุมกัน พร้อมชี้แจงว่า จากการรายงานในเบื้องต้น มิได้มีเหตุการณ์บัตรเขย่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่เป็นกรณีที่ กกต.เขต เขียนจำนวนบัตรเสียผิด จึงทำให้มีความเข้าใจว่าเกิดเหตุบัตรเขย่งขึ้น และมีผู้สมัครร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตามระเบียบสืบสวนไต่สวนของ กกต.   ข่าวจาก : ข่าวสด

“เรืองไกร” ยื่นเพิ่ม จี้ กกต. สอบสถานะหัวหน้าพรรค “พิธา” เชื่อเรื่องถึงศาล รธน.

16 พ.ค.2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือต่อกกต. ขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าข่ายพ้นจากสมาชิกพรรคและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 24 หรือไม่ และจะมีความผิดตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 112 วรรคหนึ่งหรือไม่ สืบเนื่องจากกรณีการถือครองหุ้นสื่อ บริษัทไอทีวี จำกัดมหาชน โดยระบุว่า การเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลของนายพิธา จะต้องเป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 24 ที่ระบุว่า สมาชิกพรรค ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กำหนดในข้อบังคับตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 การถือครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชนใดๆ ขณะที่มาตรา 112 ระบุว่า คนที่รู้ตัวว่าไม่มีคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก รวมถึงกรรมการบริหารอื่นของพรรค แต่ยินยอมรับการแต่งตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 […]

กกต.แนะคนพลาดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รีบแจ้งเหตุ ภายใน 7 วัน ป้องกันถูกจำกัดสิทธิ5ข้อ

15 พ.ค.2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่อาจติดภารกิจเร่งด่วนทำให้ไม่สามารถไปเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีข้อแนะนำให้ดำเนินการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปเลือกตั้งได้ ในช่วง 7 วันหลังเลือกตั้ง คือ 15-21 พ.ค.66 เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิสำคัญทั้งที่เกี่ยวข้องกับสิทธิทางการเมือง สิทธิในการดำรงตำแหน่งทางข้าราชการการเมือง รวมถึงตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำหรับขั้นตอนการแจ้งนั้น สามารถกรอกข้อมูลในแบบ ส.ส.1/8 หรือทำเป็นหนังสือชี้แจงเหตุที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ พร้อมระบุ เลขบัตรประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามทะเบียนบ้านให้ชัดเจน แล้วยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น สามารถยื่นด้วยตัวเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน นอกจากนี้ ยังสามารถแจ้งผ่านระบบออนไลน์ ทางแอปพลิเคชัน Smart Vote หรือ เว็บไซต์ www.bora.dopa.go.th/all-election น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า การไม่ไปเลือกตั้งแล้วไม่แจ้งเหตุ ไม่ถือเป็นกรณีที่ผิดกฎหมาย แต่จะถูกจำกัดสิทธิสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือ สมาชิกสภาท้องถิ่น […]

กกต.เลื่อนแถลงผลคะแนนเลือกตั้ง อ้างบางหน่วยเจอภัยพิบัติ​ นัดแถลงใหม่ 10.30 น.

15 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 01.15 น. สำนักประชาสัมพันธ์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งสื่อมวลชนที่เฝ้ารอการแถลงข่าวของ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่ได้นัดว่าจะมีการแถลงข่าวภายหลังการนับคะแนนผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป โดยนัดว่าจะแถลงรอบแรกภายหลังการปิดการลงคะแนนตั้งแต่เวลา 20.30 น. แต่ก็ได้เลื่อนออกไปเป็นระยะๆ เนื่องจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากที่เคยกำหนดเอาไว้ในเวลา 23.00 น. อีกทั้งการนับคะแนนก็ล่าช้าออกไป โดยในเวลา 01.15 น. ยังนับคะแนนได้เพียงร้อยละ 84.05 ซึ่ง กกต.จะแถลงสรุปก็ต่อเมื่อคะแนนถึงร้อยละ 95 แต่แล้วก็มาแจ้งยกเลิกการแถลงข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์ของ กกต.ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่แถลงข่าว เนื่องจากบางพื้นที่เกิดภัยพิบัติ ฝนตก และน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถส่งคะแนนได้ครบ หรือตามเวลา จึงยังไม่แถลงผลการเลือกตั้งโดยจะแถลงอีกครั้งในช่วงเช้า เวลา 10.30 น.   ข่าวจาก : มติชน

ชัชชาติเตรียมเสนอ กกต.ใช้ AI ตรวจสอบนับคะแนน

10 เม.ย. 2566 ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. เรื่องความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ของกทม. ว่า ได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งล่วงหน้า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้ดูแลด้านความปลอดภัย การรักษาบัตรเลือกตั้ง ตั้งแต่รับบัตรมาจาก กกต. และการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว โดยนำเทคโนโลยีป้องกันไม่ให้มีใครเข้าออกห้องที่เก็บรักษาบัตร หากมีใครไปยุ่งหรือขยับกล่องลงคะแนนก็จะมีสัญญาณเตือนทันที และจะมีการถ่ายทอดสด ผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนบัตรลงคะแนนได้เด็ดขาด รวมถึงกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนในการเลือกตั้งโปร่งใสครั้งนี้ โดยสามารถแจ้งเหตุผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ เลือกเมนูหลักเรื่องเลือกตั้ง แจ้งเหตุในเมนูย่อยเรื่องความไม่โปร่งใส สามารถแจ้งเหตุ หากพบเห็นเรื่องผิดกฎหมายเลือกตั้งใดๆ เช่น การซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่ง กทม.จะรวบรวมข้อมูลส่งให้กับ กกต.ดำเนินการต่อไป รวมถึงเรื่องของป้ายหาเสียง ที่ไม่ทำตามระเบียบในการติดประกาศป้าย ประชาชนก็สามารถแจ้งได้เช่นเดียวกัน นายชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับในวันเลือกตั้ง ได้มอบ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ […]

กกต.สั่งเพื่อไทย แจงที่มา-วงเงิน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” หลังพบแจ้งข้อมูลไม่ครบ

8 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​พรรคเพื่อไทย​ ปราศรัยชูนโยบายแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลให้​คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 10,000 บาท​นั้น ทั้งนี้ มีรายงานว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) มีการแจ้งนโยบายหาเสียงดังกล่าวมายังกกต.ตามมาภายหลังนายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​พรรคเพื่อไทย​ ปราศรัยโดยแจ้งนโยบายหาเสียงตามมาตรา 57 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 แล้ว แต่ไม่มีการระบุวงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงิน รวมทั้งยังมีอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้ระบุวงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงิน โดยกกต.จะมีการแจ้งให้พรรคดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ มาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดว่า การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณานโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงินการประกาศโฆษณานโยบายนั้นอย่างน้อยต้องมี 1.วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ ส่งความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย 3.ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย หากพรรคการเมืองไม่ได้จัดทำรายการดังกล่าวให้กกต.สั่งให้ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด   ข่าวจาก : มติชน

กกต.สรุปยอดสมัครส.ส.แบ่งเขต4,781คน 70พรรค ปาร์ตี้ลิสต์เกือบ2พัน

7 เมษายน ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงสรุปภาพรวม การเปิดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และรับแจ้งรายชื่อบุคคล ที่พรรคการเมืองมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2566 ว่า การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัคร 70 พรรค จำนวน 4,781 คน โดย กทม.เป็นจังหวัดที่มีผู้สมัครมากที่สุด 498 คน ส่วนการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มี 67 พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร รวมจำนวน 1,899 คน ส่วนการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จาก 43 พรรค จำนวน 63 คน ทั้งนี้ กระบวนต่อจากนี้ไปจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร โดยผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จะตรวจสอบโดย กกต. ส่วนแบบแบ่งเขต จะตรวจสอบโดยผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขต […]

กกต.แจงใช้บัตรเลือกตั้งเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่สับสนแน่นอน

1 เม.ย. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ชี้แจงเรื่องบัตรเลือกตั้ง ว่าในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป พ.ศ. 2566 ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แม้จะเป็นพรรคเดียวกันแต่เป็นคนละหมายเลข (เบอร์ ) เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กกต.เป็นเพียงผู้กำหนดรูปแบบบัตรให้เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น โดยรูปแบบบัตรเลือกตั้ง นับแต่มีการเลือกตั้งในประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน มีรูปแบบบัตรที่ใช้เลือกตั้ง อยู่ 3 ประเภท คือ บัตรมาตราฐานแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง คือ 1.บัตรที่มีเฉพาะหมายเลข(เบอร์)ผู้สมัคร หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าบัตรโหล จะไม่มีรายชื่อผู้สมัครแต่อย่างใด ทุกการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในประเทศไทยใช้บัตรเลือกตั้งแบบนี้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีเฉพาะแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 หรือมีการเลือกตั้งแบบบัญชีราบชื่อ หลังปี 2540 ก็ตาม หมายความว่า ไม่เคยมีชื่อผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งแต่อย่างใด 2.บัตรมาตราฐานแบบบัญชีรายชื่อ คือ บัตรที่มีหมายเลขผู้สมัคร(เบอร์) มีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของพรรคการเมือง และมีชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้ง เริ่มใช้บัตรเลือกตั้งรูปแบบนี้นับแต่รัฐธรรมนูญ ปี […]

กกต.เตือน “ห้ามรถแห่” หลังสมัคร ส.ส. ชี้เข้าข่ายจัดมหรสพ

1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวเผยแพร่กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้วันที่ 3 – 7 เมษายน 2566 เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และในวันที่ 4 – 7 เมษายน 2566 เป็นวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นั้น สำนักงานกกต. ขอแจ้งแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดขบวนแห่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง โดยผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมือง และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดขบวนแห่หรือกองเชียร์ที่แสดงการสนับสนุนเข้ามาในสถานที่สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้กำลังใจแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองในวันดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการสมัครเสร็จสิ้นลงแล้ว ไม่ควรมีการจัดขบวนหรือกองเชียร์ออกจากสถานที่รับสมัครไปตามถนน ตำบล หรือหมู่บ้านในลักษณะนี้อีก เนื่องจากเคยมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยไว้ในทำนองเดียวกันว่า การจัดขบวนแห่และรถยนต์ติดแผ่นป้ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งภายหลังการสมัครรับเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วไปตามชุมชน โดยมีการแสดงดนตรีหรือการรื่นเริงใด ๆ ถือเป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง อันเป็นการหาเสียงด้วยการจัดให้มีการรื่นเริงซึ่งขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง   ข่าวจาก : มติชน

1 2 3 16
error: