คดีพลิก! เปิดเอกสารชัด ผู้สมัคร ส.ส.กรอกประวัติเองว่าจบ ‘ป.6’ กกต.ไม่ได้พิมพ์ผิด!

วันที่ 13 มี.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการเปิดเผยข้อมูลผิดพลาดของผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย น.ส.วันทิพย์ หิรัญธนาอังกูร ซึ่งกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทอยู่ ไม่ได้จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเอกสารแนะนำตัวของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารการยื่นสมัครที่ น.ส.วันทิพย์ ผู้สมัครเขต 3 จ.นครปฐม พรรคเสรีรวมไทย ยื่นต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตในวันที่ 4 ก.พ. พบว่า น.ส.วันทิพย์ ได้ระบุในช่อง (13) วุฒิการศึกษาสูงสุด ป.6 ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ที่จัดทำเอกสารแจ้งเจ้าบ้านก็ได้กรอกรายละเอียดโดยยึดตามเอกสารใบสมัครรับเลือกตั้งที่น.ส.วันทิพย์ ที่ได้กรอกเองด้วยลายมือ ซึ่งถือว่าเป็นการกรอกตามที่ผู้สมัครแจ้ง. ข่าวจาก : คมชัดลึกออนไลน์  

กกต.ย้ำรณรงค์โหวตโนถือมีความผิด ห้ามอดีตผู้สมัครเทคะแนนให้พรรคอื่น

ประธาน กกต.ชี้รณรงค์โหวตโนถือมีความผิด สั่งเลขา กกต.ตั้งกรรมการไต่สวนอดีตผู้สมัคร “ไทยรักษาชาติ” ประกาศเทคะแนนพรรคอื่น – พรรคที่ได้ประโยชน์เสี่ยงถูกยุบ โต้บินไปเมืองนอกยันทำงานไม่ได้ดูงาน เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2562 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการตรวจสอบการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า นายทะเบียนพรรคได้เสนอผลการพิจารณาคำร้องของสำนักงานเข้าสู่ที่ประชุม กกต.แล้ว โดยสำนักงานดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นเพียงกรณีเดียว คือ ที่ไม่มีชาวต่างชาติบริจาคเงิน ส่วนคำร้องของนายศรีสุวรรณ ในประเด็นที่ให้ตรวจสอบว่ามีหน่วยงานรัฐเข้าร่วมบริจาค ด้วยหรือไม่ รวมถึงประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทที่บริจาคโต๊ะจีนได้ เป็นคู่สัญญาของรัฐนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ กกต.ยังไม่ได้รับทราบ แต่เข้าใจว่าการตรวจสอบในกรณีต่างๆ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะเป็นผู้พิจารณา ขณะที่คำร้องให้ตรวจสอบสถานะของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่ที่ประชุมภายใน 1-2 วันนี้ ประธาน กกต.ยังไม่ขอให้ ความเห็นกรณีที่มีการคาดการณ์ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะทำให้ประชาชนไม่รับผลการเลือกตั้ง แต่จะขอทำงานอย่างเดียวให้ดีที่สุด พร้อมย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะไม่เป็นประเด็นฟ้องร้องหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีปัญหาทางข้อกฎหมาย นายอิทธิพร กล่าวถึงกรณีที่แกนนำของพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้เดินสายเปิดเวทีต่อต้านเผด็จการนั้น ต้องพิจารณาดูข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบต่อไป ขณะที่การประกาศถ่ายโอนคะแนนของผู้สมัครพรรค […]

เลขาฯ กกต.เผย ผลสอบโต๊ะจีนพลังประชารัฐยุติแล้ว ‘ไม่เข้าข่ายยุบพรรค’ เพราะไม่พบการบริจาคจากต่างชาติ

  เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงปัญหาเรื่องความผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสารแจ้งเจ้าบ้านว่า เกิดจากมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีการเพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งจึงทำให้เอกสารแจ้งเจ้าบ้านมีความบกพร่อง ซึ่งกกต.ได้แจ้งให้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตชี้แจง และ กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. หรือการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค. ขอให้ดูข้อมูลล่าสุดที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง ที่จะมีบัญชีรายชื่อผู้สมัคร รวมทั้งแจ้งว่าผู้สมัครคนใดถูกเพิกถอนสิทธิ แระกอบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายละเอียดของผู้สมัคร และบัญชีลำดับการใช้สิทธิของผู้มีสิทธิได้ ด้วยการโหลดแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ที่มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยทั้งผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต ซึ่งการศึกษาผ่านสมาร์ทโหวตดังกล่าวจะทำให้ทราบลำดับการใช้สิทธิซึ่งจะทำให้การใช้สิทธิไม่ล่าช้า แต่ถ้าไม่อัพเดตก็สามารถดูข้อมูลที่หน้าหน่วยเลือกตั้งได้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าความผิดพลาดดังกล่าวจะทำให้ถูกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ความผิดพลาดเรื่องเอกสารและการถอนสิทธิผู้สมัคร แต่เชื่อว่าผู้มีสิทธิคงมีคนและพรรคอยู่ในใจ เพียงแต่ขอให้ดูว่าผู้สมัครที่จะเลือกถูกถอนสิทธิในการรับสมัครหรือไม่ ประกอบกับในปัจจุบันทางสื่อโทรทัศน์ก็มีการจัดดีเบตและแถลงนโยบายของพรรคต่างๆค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นทางเลือกให้ผู้มีสิทธิ ส่วนจะมีการฟ้องร้องภายหลังการเลือกตั้งหรือไม่ คงเป็นสิทธิที่สามารถฟ้องได้ แต่กกต.ก็ได้ออกเอกสารใบแก้ไปแล้ว คงไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งที่ผ่านมาการที่ศาลจะสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ มีเพียงการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยตรงและลับ และการไม่จัดเลือกตั้งในวันเดียวกันเท่านั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ว่า มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิกันจำนวนมาก ได้จัดเตรียมหีบบัตร คูหาไว้เพียงพอ รวมทั้งแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยสำรองไว้ด้วย เบื้องต้น กกต.ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)  ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ โดยเฉพาะด้านการจราจร […]

กกต.ยอมรับ แก้เอกสารแนะนำตัวผู้สมัครไม่ได้แล้ว ชี้คลาดเคลื่อนในขั้นตอนการพิมพ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียง

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีปัญหาเอกสารการแนะนำตัวผู้สมัคร ที่ส่งให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนในการตีพิมพ์ข้อมูลของผู้สมัครเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ไม่สามารถแก้ไขเอกสารได้แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นปัญหาที่จะส่งผลต่อการลงคะแนนหรือจะกระทบกับคะแนนของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพราะช่องทางในการรับรู้ข้อมูลของผู้สมัครไม่ได้มีช่องทางเดียวแต่ยังมีแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ที่สามารถตรวจสอบได้ทั้งข้อมูลของผู้สมัครและข้อมูลของผู้ใช้สิทธิ์  ซึ่งกกต. ได้เร่งประชาสัมพันธ์และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของ กกต. ที่ดูแลการเลือกตั้ง Download Application นี้ เพื่อที่จะให้ข้อมูลกับประชาชนในวันเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย ส่วนการนำส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น จะมาถึงประเทศไทยประมาณวันที่ 17 มีนาคม และจะนำมารวมกับการเลือกตั้งนอกเขตในไทย และคัดบัตรแยกบัตรเพื่อนำส่งบัตรออกไปยังเขตนั้นๆ นายณัฏฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดการเลือกตั้งที่ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเดินทางมาใช้สิทธิจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการเพิ่มคูหาลงคะแนน โดยใช้ลังกระดาษมาทำเป็นคูหาแทน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม  ว่า การจัดคูหาเลือกตั้งให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียมีเพียงพอแต่เนื่องจากในวันนั้นมีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมากและมีการจัดคูหาเลือกตั้งเคลื่อนที่จึงต้องมีการเสริมคูหาโดยนำลังกระดาษมาทำเป็นคูหาชั่วคราวแต่การเลือกตั้งยังคงเป็นการจัดการเลือกตั้งโดยตรงและลับจึงไม่ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งซึ่งต้องขอชื่นชมคนไทยที่ออกมาใช้สิทธิ์การเป็นจำนวนมากด้วย พร้อมกันนี้ นายณัฐ กล่าวถึงปัญหาการส่งบัตรเลือกตั้งให้กับผู้มีสิทธิ์ในประเทศจีนที่มีการออกมาระบุว่าไม่ได้รับบัตรเลือกตั้งและมีบัตรเลือกตั้งสูญหายนั้น ว่า เป็นปัญหาจากการกรอกข้อมูลของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่กรอกรายละเอียด ไม่ครบถ้วนและไม่ชัดเจนจึงทำให้เกิดปัญหาในการจัดส่ง และมีการตีกลับมาที่สถานกงสุล ซึ่งได้มีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และคนไทยที่มีสิทธิ์เลือกตั้งก็ได้ลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว ข่าวจาก : innnews  

‘เลขาฯกกต.’ แจง กระดาษลังทำคูหาเลือกตั้งที่มาเลย์ไม่ผิด ตรงตามข้อกำหนดกฎหมาย

“เลขาฯกกต.” เผย ใช้กระดาษลังทำคูหาเลือกตั้งนอกราชฯ”มาเลย์” ไม่ผิด ระบุ ยังเป็นการใช้สิทธิทางตรงและลับตามกฏหมาย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)​ กล่าวถึงกรณีปัญหาการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเดินทางมาใช้สิทธิจำนวนมากจนต้องมีการเพิ่มคูหาลงคะแนนโดยใช้ลังกระดาษมาทำเป็นคูหาแทนจนเกิดการวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมนั้นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าสามารถทำได้ไม่มีปัญหาเพราะการลงคะแนนยังเป็นไปโดยตรงและลับตามที่กฏหมายกำหนด เพียงแต่อาจดูไม่สวยงาม ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นทางสถานเอกอัคราชทูตอาจมีคูหาไม่เพียงพอ จึงต้องแก้ปัญหาลักษณะดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดกฏหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด ส่วนกรณีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่มีการแชร์ภาพเอกสารให้ข้อมูลผู้สมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.เขต 13 ซึ่งมีความคลุมเครือเรื่องชื่อพรรคนั้น กำลังให้มีการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว แต่ผู้มีสิทธิยังสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครได้จากช่องทางอื่น อาทิ แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต เป็นต้น ข่าวจาก : มติชนออนไลน์

กกต.คาดโต๊ะจีน ‘พลังประชารัฐ’ ถูกเสนอพิจารณาสัปดาห์หน้า

เลขาฯ กกต.เผยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน คดีการระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ ชี้มูลเหตุที่จะทำให้ยุบพรรคได้คือกรณีการรับเงินจากบริษัทต่างชาติเท่านั้น คาดเสนอที่ประชุมพิจารณาสัปดาห์หน้า (8 มี.ค.62) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการของ กกต.หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงของการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรระหว่างวันที่ 4 – 10 มี.ค.62 ซึ่งบัตรได้มีการจัดพิมพ์ไปแล้ว ล่าสุด ได้มีการแจ้งไปยังสถานกงสุลในต่างประเทศ 97 ประเทศ ประชาสัมพันธ์เรื่องของการกาบัตรเลือกตั้งกรณีผู้สมัครที่ถูกถอนสิทธิ์เลือกตั้งจะกลายเป็นบัตรเสียซึ่งไม่เพียงแค่พรรคไทยรักษาชาติเท่านั้น ยังมีผู้สมัครรายอื่นที่ศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งด้วย พร้อมกันนี้ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จำนวน 13 คน เป็นผู้ที่ถูกศาลเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลา 10 ปี ส่วนอีก 1 คน ได้ลาออกไปก่อนหน้าวันที่ 8 ก.พ.โดยคณะกรรมการบริหารที่ถูกเพิกถอนสิทธิจะไม่สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดได้ ส่วนสมาชิกคนอื่นของพรรคสามารถย้ายสังกัดและขึ้นรูปในป้ายหาเสียงได้ รวมถึงไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ย้ำว่าพรรคไทยรักษาชาติจะต้องยุติการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเมืองรวมถึง ป้ายข้อความการหาเสียงในช่องทางต่างๆ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ระบุด้วยว่า กรณีผู้สมัครที่ถูกถอนชื่อออกจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้รับทราบที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้ การดำเนินคดีพรรคไทยรักษาชาติ ที่รวดเร็วเนื่องจากมีกหลักฐานครบถ้วนซึ่งเป็นหลักฐานเอกสารของพรรคไทยรักษาชาติในวันที่ยื่นรายชื่อผู้เสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏเป็นพยานหลักฐาน […]

1 13 14 15 16
error: