ทั่วไป

Advertisement เรื่องดราม่าในแวดวงโซเซียลขอให้บอก ล่าสุดมีมาอีกแล้วไม่เว้นวันพระวันเจ้าเมื่อมีภาพของอดีตนางแบบดัง ยุ้ย รจนา เพชรกันหา ไปร่วมงานแห่เทียนเข้าพรรษาที่จังหวัด อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของ ยุ้ย รจนา ซึ่งนี่ถือว่าเป็นปีแรกที่ยุ้ย ได้ไปร่วมงานที่บ้านเกิดอย่างน่าภาคภูมิใจในฐานะคนอุบล แต่ที่กลายเป็นกระแสดราม่าเห็นจะเป็นชุดและขบวนที่ยุ้ย รจนา ไปร่วมแห่ ทำเอาแฟนคลับของเธอรู้สึกน้อยใจแทน โดย ยุ้ย รจนา นั่งมาในขบวนแห่เทียน มีรถกระบะที่ไม่ได้ตกแต่งอะไรมีเก้าอีนั่งท้ายรถคอยโบกมือหน้าเจื่อนๆ เห็นแล้วรู้สึกสงสาร ดูไม่เหมาะสมกับฐานะอดีตนางแบบดังระดับโลกหนึ่งเดียวคนไทยที่เคยได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Chanel ซึ่งถ้า ยุ้ย นั่งกระบะแห่เทียนไปเรื่อยๆคงไม่มีดราม่าอะไรสักเท่าไหร่ แต่พอไปเห็นภาพของ น้องแนท อนิพรณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ คนล่าสุด และบรรดาสาวงาม ที่จัดขบวนมาเต็มนั่งรถแห่แบบอลังการเทียบกับ สาวอุบลแท้ๆ อดีตนางแบบดัง ยุ้ย รจนา แล้วทำเอาแฟนคลับรู้สึกน้อยใจแทน ว่าน่าจะให้ยุ้ย นั่งอยู่บนขบวนแห่รถที่ดูดีกว่านี้หน่อย ไม่ใช่กระบะขายผัก! Advertisement แต่ก็อย่างว่าแหละเรื่องนี้เข้าใจทีมงาน เพราะยุ้ยเองไม่ได้โด่งดังเหมือนเมื่อก่อน เก่าไปใหม่มา ตามคอนเซ็ป โดยหนึ่งในผู้ติดตามของยุ้ย รจนา เผยว่า ยุ้ยเองไปงานแห่เทียนด้วยความเต็มใจและอยากทำแบบนี้มานาน ซึ่งชุดและเครื่องแต่งกายก็ไม่มีใครหาให้ เป็นทางยุ้ย เองที่ขวนขวายหาเองซึ่งทำได้ดีที่สุดเท่านี้ […]

ปิดฉากชีวิตนักร้อง นักดนตรี ฝีมือดี ขวัญใจคอเพลง ด้วยวัยเพียงแค่ 31 ปี ทั้ง 2 นัก นักดนตรีที่ความเหมือน และบังเอิญ นำมาสู่ความสูญเสียแกแฟนคลับจำนวนมาก ย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีที่แล้ว คอเพลงทางเลือกอีกกลุ่ม ต่างต้องช็อคเมื่อมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า "โจ้ วงพอส" หรือ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ เสียชีวิตกระทันหันภายในที่พักของตัวเอง ในเวลานั้น "วงพอส" เป็นวงขวัญใจวัยรุ่นอันดับต้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ "โจ้" ทำให้หลายพลงที่เขาร้องโด่งดังมาก อาทิ ข้อความ, ที่ว่างา รักเธอทั้งหมดของหัวใจ, ความลับ และเป็นวงที่มีอนาคตสดใสมากอีกหนึ่งวง ใครจะไปคาดคิดว่าในช่วงเวลารุ่งเรืองที่สุดของชีวิต "โจ้" นักร้องนำจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย!! ช่วงกลางดึกของวันที่  20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 มีผู้พบศพของ "โจ้" ในลิฟต์ที่ ซี-วันแมนชั่น ซ.สุขุมวิท 50 ผลการชันสูตร พบบาดแผลกระสุนปืนบริเวณขมับขวา 1 นัด […]

จากกรณีโลกโซเชี่ยลได้มีดราม่ารายการ ไทยแลนด์ก๊อตทาเลน เกี่ยวกับการตัดสินค้านสายตาของกรรมการ  ล่าสุดได้มีการแชร์ภาพที่อ้างว่าเป็นกลุ่มผู้เข้าแข่งขันได้โพสข้อความดังกล่าว ที่มีการแชร์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ดังที่จะนำเสนอข้างล่างนี้     นี้คือคำพูดของ นาย N นามสมมุติ 1ในสมาชิกทีมที่กำลังดราม่าบน ไทยแลนด์ ดราม่าทาเล้น คิดเอาเองเน้อว่าควรสงสารตารมที่พวกเค้าแสดงออกบนเวทีไหม อ้างอิงจากเฟสบุ๊คคุณ Tanapol Jurawanitchakul   และมีเพิ่มเติม อ้างอิงจากคุณ [ads] และมีเพิ่มเติม อ้างอิงจากคุณ Chin Wan   [ads=center]

เผยวิธีแก้ปัญหา “แฟนไม่สนใจ เล่นแต่มือถือ” ของชายหนุ่มคนนี้ ทริคเล็กๆจากพี่สุดหล่อคนนี้ คิดได้ไงอ่ะฟินเลย!! งแม้จะทำให้แฟนเลิกเล่นมือถือไม่ได้ทันที อย่างน้อยแฟนก็จะเริ่มรู้ตัวว่า “สนใจกันบ้างเถอะน้าาาา” ไม่งั้นจัดอีกสักจุ๊บสองจุ๊บอย่าว่ากันนะ ไปดูกันเลยยย ว่าพี่แกทำยังไง ใครมีปัญหานี้อยู่ อยากลองทำบ้าง เพิ่มความฟิน ชมคลิปได้เลยจ้า         ขอบคุณที่มาจาก http://www.oopsmobile.net/kissmo/   [ads=center]

โลกโซเชี่ยลได้มีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคณะกรรมการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ ซึ่งประกอบไปด้วย ดี้ นิติพงษ์, เบนซ์ พรชิตา, กาละแมร์ พัชรศรี และ เบน ชลาทิศ ถึงได้ตัดสินให้ทีม Hilight TGT05 ผ่านเข้ารอบ ทั้งๆน่าจะเป็น จึ๋ง อนุรักษ์ TGT02 หลังจากการตัดสินรอบ Semi Final แล้วเมื่อเย็นวันอาทิตย์ (26 ก.ค.58) ที่ผ่านมา  โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นการตัดสินที่ค้านสายตาคนดูเป็น พร้อมทั้งต่อว่าถึงความไม่ยุติธรรมของคณะกรรมการ เพราะจึ๋ง มีความสามารถและโชว์ที่ดี เหมาะจะเข้ารอบมากกว่า ในขณะที่ทีม Hilight ก็โดนชาวเน็ตวิจารณ์ว่าก็อปปี้โชว์มาจาก America ปี 2014 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ดี้ นิติพงษ์ หนึ่งในกรรมการในรายการ ได้โพสอธิบายเรื่องนี้ไว้ในเฟชบุ๊คส่วนตัวว่า  อ้ะ…ไหนๆ ก็ไหน ๆ มีคนส่งคลิป คอมเม้นต์ เรื่อง ไทยแลนด์ก็อตทาเล้นต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา…ว่า มีดราม่ากันขนาดไหน… …ในฐานะกรรมการนะ…ก็ตัดสินไปตามความเห็นจ้ะ…เพราะ จะตัดสินให้ใครชนะ กรรมการก็ไม่ได้ตังค์เพิ่มขึ้นสักบาทเดียว….ค่าตัวกรรมการ เท่าเดิมจ้ะ… …ทางรายการก็มาบังคับบัญชากรรมการอะไรฉันไม่ได้จ้ะ กรรมการคิดยังไง […]

ก่อนหน้ามีดราม่าเรื่อง นักเชียร์ระดับชาติชื่อดัง ดักแด้ ถูก นักร้องชื่อดังอย่าง เอกชัย ศรีวิชัย ออกมาด่าเรื่องที่ ดักแด้ ใส่ชุดมโนราห์ไปเชียร์กีฬาซีเกมส์ว่าไม่เหมาะสม ไม่รู้จักกาลเทศะ เอาของสูงส่งที่ชาวใต้เคารพบูชามาทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ กรณีเดียวกันก็เกิดขึ้นกับเรื่องดราม่าของ หนุ่มคนหนึ่งที่ใส่ชุดครุยที่ใช้ในงานรับปริญญาลงไปถ่ายใต้น้ำ ก่อนที่จะมีทั้งกระแสบวกและลบ ซึ่งดูเหมือนว่าอันหลังจะมาแรงกว่า ถึงขนาดต่อว่าและด่าทำแบบนี้ไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติสถาบันการศึกษา จนกลายเป็นกระแสดราม่าที่ทำเอา เจ้าตัวรู้สึกไม่สบายใจ www.thaihothit.com เลยได้มีโอกาสขอสัมภาษณ์กับ คุณเก่ง ธนากร เจ้าของ เพจ “บันทึกฉัน” ผู้กำลังตกเป็นกระแสสังคมถึงเรื่องราวทีเกิดขึ้น “คือมันก็มีสองกระแสนะครับ ทั้งคนที่ชื่นชอบในสิ่งที่ผมทำ และอีกคนจำนวนหนึ่งที่ออกมาแสดงความเห็นไม่เห็นด้วย ส่วนใหญ่ก็ประมาณคนอีกวัยที่อายุเยอะกว่าเรา แต่กระแสจากช่างภาพที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นหน่อยก็ชอบ คือคิดคนละมุมกัน คือช่างภาพเขาชอบงาน บอกว่ามันมาแปลกกว่าชาวบ้าน ถ้ามองเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ผลงานคือไม่เป็นไร แต่หลายคนเลยครับออกมาด่า มาโจมตีในสิ่งที่ผมทำว่ามันไม่เหมาะสมนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง ชุดครุยรับปริญญาเป็นของสูง อย่าเอามาทำเล่นแบบนี้ ประมาณว่าต้องอยู่บนหิ้ง” ทำลงไปแล้ว แก้ไขกลับคืนมาไม่ได้ รู้สึกเครียดมั้ยที่โดนด่าทั้งๆที่เราไม่ได้มีเจตนาอะไรแบบนั้น “ก็ไม่เครียดเท่าไหร่ครับพี่ คือเราเป็นช่างภาพคนหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกระแสสังคมโจมตีเราขนาดนี้ ก็มีคิดๆบ้างแบบมีคนบอกว่ามันไม่เหมาะสมในสิ่งที่เราทำ แล้วผมอยากจะถามกลับว่า การที่เอาชุดครุยไปใส่นอนกับพื้นหญ้าพื้นอาคารถ่ายรูปที่เขาทำๆกันมันก็ไม่สมควรนะซิ บางคนก็บอกว่าถึงขนาดต้องลงทุนถ่ายอลังการขนาดนั้นเลยเรอ แค่จบปริญญาตรีนะ ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นยังต้อแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ […]

เปิดใจกันแบบหมดเปลือกกับเรื่องราวสุดแสนดราม่าอดีตชีวิตที่บัดซบของ นักธุรกิจสาวนามว่า หญิง ขนิษฐา กุลสุมิตราวงศ์ หรือในเฟสบุค Khanittar Koonsumitarwong ถึงเรื่องราวอันเจ็บปวดและขมขื่น มีชีวิตรักและครอบครัวที่ไม่สมหวัง มีผัวแต่ไม่มีความรับผิดชอบ แล้วพอทำเธอท้องกลับบอกว่าไม่ใช่ลูกของตัวเองแถมยังไล่ให้เธอไปทำแท้งอีก หญิง เปิดใจทั้งน้ำตากับเรื่องราวสะเทือนใจจากลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดมาว่าจะมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับตัวเอง   “หนูเรียนจบมหิดลมาค่ะ แล้วมาทำงานประจำได้เงินเดือนประมาณ 8,000 จนได้มารู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งที่เรามอบความรักให้และมั่นใจว่าเขาจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี แต่เรื่องมันก็มีอยู่ว่า พอหนูไปย้ายอยู่บ้านผู้ชายหลังเราแต่งงานกันเรียบร้อย เขาก็ไม่ใยดีกับเรายิ่งพอเขารู้ว่าเราท้อง เขาก็พยายามบอกให้เราทำแท้ง!! ที่แย่มากคือเขาบอกว่าที่ท้องเนี่ยมันไม่ใช่ลูกเขา!! แล้วก็บอกว่าต้องตรวจดีเอ็นเอนะ พี่รู้มั้ยหนูแบบร้องไห้หัวใจสลายมาก ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ แต่เพราะหนูรักเขาและอยากให้เป็นครอบครัวที่มีพ่อแม่อยู่ครบ หนูเลยได้แต่อดทนแต่ในใจมันเป็นทุกข์มาก แล้วพอลูกออกมาหน้าเหมือนเขามาก เขาเลยไม่ตรวจดีเอ็นเอ แต่ในระหว่างนั้น เขาพยายามทำทุกอย่างที่จะไม่ต้องรับผิดชอบ พอคลอดออกมาหนูเองคลอดแบบผ่าตัดนอนอยู่ในโรงพยาบาล 4 คืนโดยไม่มีใครมาเฝ้าและต้องดูแลลูก แถมผ่าคลอดขยับไม่ได้ทำอะไรไม่ได้นอนอยู่อย่างนั้น ค่าฝากท้องกับค่าคลอด หนูก็จ่ายเองนะ เขาไม่เคยควักสักบาท” แฟนพยายามรบเร้าให้หญิงไปทำแท้ง หลายรอบ รู้เต็มอกว่าชีวิตแย่แค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยแม้แต่สักวินาทีเดียวที่จะทำแท้ง “แฟนเขาพยายามให้เราทำแท้ง แต่เรายืนหยัดคำเดิมว่าไม่! ไม่เคยเลยแม้แต่เสี้ยวหนึ่งของความคิดที่จะทำแบบนั้น ถึงเขาจะไม่แคร์ชีวิตหญิงกับลูก เราก็ไม่ต้องไปแคร์เขาค่ะ ถามว่าตอนที่หนูคลอดน้องออกมาเขามาเยี่ยมมั้ย มาค่ะแต่ไม่ได้มาดูแล มาแล้วก็ไป จนวันหนึ่งพ่อหนูเขามาเจอว่าเรานอนอยู่ในห้องคนเดียวกับลูก ก็เลยสังเกตว่ามันเริ่มผิดปกติ พ่อถามว่าแฟนไปไหน […]

ป๋าเทพเผย รู้สึกเห็นใจทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องและได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเอง โดยเฉพาะภรรยาที่รัก แม่จุ๋ม ที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือมาตลอด ทำให้ ป๋าเทพ ไม่ต้องการเห็นภรรยาตัวเองต้องมาใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากด้วยกัน จึงตัดสินใจแยกทางกันในครั้งนี้ ทั้งนี้ ป๋าเทพ ได้เปิดใจผ่านรายการ บันเทิง 108 ทางช่อง 8 "พร้อมกับอวยพรส่งถึงภรรยา ขอให้พบเจอคนที่ดีและมั่งมี" ซึ่งทำให้ แม่จุ๋ม ที่ให้กำลังใจผ่านกล้อง ต้องยกมือไหว้ขอโทษ หากเป็นสาเหตุทำให้ ป๋าเทพ เกิดอาการน้อยใจ ยืนยันว่าไม่เคยเอาครอบครัวตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร แม่จุ๋ม ยังเปิดเผยอีกว่า ยังรักและเคารพ ป๋าเทพ ในฐานะสามีอยู่เสมอ แต่ยอมรับบทสรุปที่ต้องแยกกันอยู่เช่นนี้ เนื่องจากคิดว่าตัวเองเป็นตัวปัญหา ทำให้ธุรกิจของสามีไม่รุ่ง… ขอบคุณข้อมูลจากรายการ บันเทิง 108 ทางช่อง 8 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 09.00 น. และ เสาร์-อาทิตย์ 10.30 น.     [ads=center]

เฟซบุ๊กคุณ Dechavat Lerkjan‎ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 1.11 นาที โดยระบุว่า เมื่อเวลา 21.32 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม ทางสำนักงานได้รับการร้องเรียนจากเจ้าอาวาสวัดพระแก้วเพชรบูรณ์ ให้ตรวจสอบพระสงฆ์รูปหนึ่งว่าอาจจะเป็นพระปลอม หลังจากมีการร้องเรียนจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ จ.เพชรบูรณ์ ว่าได้แอบอ้างเป็นพระสงฆ์ ชั้นเปรียญ 5 ทางเจ้าหน้าตำรวจ 6 นาย จึงได้นำกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ               จากคลิปวิดีโอ เผยให้เห็นภาพของพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่ในรถตู้ที่เปิดประตูด้านข้างไว้ พร้อมโต้เถียงด้วยอารมณ์ดุเดือดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังโดนเรียกขอดูใบสุทธิ และกล่าวเสียงดังด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า "อย่าเข้ามาจับ กูบวชมานานกว่ามึงอีกไม่ต้องมาจับ ถ้าจับเดี๋ยวมึงมีเรื่อง" และพระสงฆ์รูปดังกล่าวได้โชว์ใบสุทธิ เพื่อยืนยันว่าเป็นพระสงฆ์จริง โดยในใบสุทธิมีชื่อว่า พระมหานิพนธ์ สุสุทโธ อีกทั้งยังพยายามโชว์ใบสอบชั้นเปรียญ 5 ให้ดู และมีการพูดคำหยาบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายครั้ง ก่อนจะโยนใบสอบเปรียญ 5 ให้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มจะเอือมระอากับพฤติกรรมของพระสงฆ์รูปดังกล่าวจึงตอบกลับไปว่า "เป็นพระสงฆ์แต่ทำไมต้องทำตัวเหมือนกุ๊ยเลย" [ads]               ในช่วงท้ายของคลิปวีดีโอ พระสงฆ์รูปดังกล่าวยังอารมณ์ร้อนไม่เลิก และพูดออกมาว่า "ไม่คุย […]