กรมศุลกากร แถลงปิดคดีประมูลนาฬิกาหรูปลอม ลุยฟ้องตัวแทนสิทธิ เผยเป็นบทเรียนครั้งประวัติศาสตร์

Advertisement 11 ส.ค.2566 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงปิดคดีกรมศุลกากรประมูลขายนาฬิกาปลอม โดยยอมรับว่าความผิดพลาดครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ถือเป็นบทเรียนราคาแพงและยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซํ้าอีก Advertisement กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5-7 ก.ค.2566 กรมศุลกากรมีการเปิดประมูลขายนาฬิกาหรูรวม 14 เรือน ที่ตรวจยึดได้จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน จากนั้นจึงดําเนินการตามขั้นตอนในการเก็บบกษาและตรวจสอบทรัพย์จากตัวแทนสิทธิในประเทศไทยที่ระบุว่าเป็นของจริง โดยมีหนังสือเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษระบุว่าเป็นของแท้ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ จึงนําไปเก็บไว้ในห้องมั่นคง โดยมีกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างใกล้ชิด กระทั่งเมื่อมีการประมูลเสร็จสิ้นเรียบร้อย ผู้ประมูลได้นาฬิกาที่ประมูลไปจํานวน 3 เรือน ราคารวมกว่า 4 ล้านบาท ไปตรวจสอบปรากฎพบว่าเป็นของปลอม จึงนํามาเรียกร้องต่อทางกรมศุลกากร และประสานขอตรวจสอบไปยังบริษัทตัวแทนสิทธิในประเทศไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางตัวแทนสิทธิในประเทศไทยได้ประสานไปยังบริษัทตัวแทนสิทธิแม่ในฮ่องกง ระบุว่า มีการโทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ด้วยวาจาว่าพบนาฬิกาปลอม แต่ไม่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันกลับมา จึงทําให้ตัวแทนสิทธิในประเทศไทยกลับคําพูดว่าสรุปแล้วเป็นนาฬิกาปลอมทั้งหมด กรมศุลกากรจึงรับผิดชอบด้วยการคืนเงินเต็มจํานวนและยกเลิกการประมูลในครั้งนี้ นอกจากนี้ทางกรมศุลกากรได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยลงโทษเจ้าหน้าที่ด้วยการว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งมีการยอมรับว่ามีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์แจ้งว่านาฬิกาเป็นของปลอมจริง แต่ไม่มีการติดตามเอกสาร จนระยะเวลาล่วงเลยไปถึงการเปิดประมูล นอกจากนี้ทางกรมศุลกากรยังได้มีการฟ้องคดีเพ่งกับบริษัทตัวแทนสิทธิ โดยส่งสํานวนให้อัยการแล้ว Advertisement ในส่วนเจ้าของร้านที่ถูกจับกุมพร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่อ้างว่านาฬิกาแท้นั้น ทางกรมศุลกากรเตรียมประสาน ไปยัง สคบ. ตรวจสอบ ส่วนจะมีการเปลี่ยนตัวแทนสิทธิบริษัทในประเทศไทยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่จะดําเนินการต่อ ซึ่งทางกรมศุลกากรไม่มีสิทธิเลือก สำหรับการประมูลหลังจากนี้ จะมีการปรับปรุงแนวทางให้ชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น […]

สร้างสรรค์เกิ๊น! ร้านเค้กทำเค้กเนื่องในวันแม่ ย้อนถึงวินาทีกำเนิด ชาวเน็ตอึ้ง ไม่รู้จะซึ้ง ฮา หรือสยองดี

ร้านเวทย์มนตร์ คาเฟ่ดังที่ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง หลังแจ้งเกิดจากเค้กแฟนซี “เห็บหมา” อันโด่งดัง ที่หลายคนลองชิมแล้วชื่นชมในรสชาติและความแปลกใหม่ของไอเดีย ในวันแม่นี้ ทางร้านได้เปิดตัว “เค้กวันแม่” ที่บอกได้ว่าอาจจะห่างไกลจากคำว่า “มุ้งมิ้ง” ตามสไตล์ร้าน ทว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นเซต 2 ชิ้น ประกอบด้วย เค้กคุณแม่ ผู้หญิงผมยาวสลวย ใส่เกาะอกสีฟ้า มีผ้าคลุม โชว์ท้องป่องที่มีแตกลาย พร้อมหัวใจที่มีข้อความว่า “รักแม่” ซึ่งมีลูกเล่นที่ว่าเมื่อกินเค้กจากชั้นนอกแล้ว ชั้นในจะมีทารกขดตัวอยู่ ทำเอาฟีดแบ๊กตรึม เช่นว่า – หมอตำแยต้องรีบตำ – เธอก็ปั้นเกินเบอร์ค่ะสาวแตกลายชัดเจน – ท้องแม่แตกน่าจัวมาก – มีชั้นในอีกด้วย – ทั้งกลมเลยทีเดียว – ครีมทาท้องต้องเข้าละ ท้องลายมากแม่ๆๆๆ – น่ารัก ช่างสรรหาทำ – แม่จะซึ้งใจไหมนะ – งาน realistic   ข่าวจาก : มติชน

หญิงไร้บัตร ไม่มีเงินค่ารถไปหาแม่ หลังพรากจากแม่47ปี เพิ่งรู้ว่าตอนนี้แม่อายุ87 ยังมีชีวิตอยู่

11 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากฝ่ายทะเบียนราษฎรที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีหญิงอาศัยอยู่จังหวัดอุบลราชธานี มาวิ่งเต้นทำบัตรประชาชนที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด แล้วพบข้อมูลของแม่ตัวเองโดยบังเอิญว่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากไม่ได้พรากจากกันมานานกว่า 47 ปี จากการสอบถาม จ่าเอก อดิศักดิ์ สิงห์รัมย์ เจ้าพนักงานทะเบียนชำนาญงาน ที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ทราบว่าก่อนหน้านี้ได้มีหญิง อ้างตัวว่าชื่อนางต้อย แสนศรี อายุ 60 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มาขอค้นหลักฐานข้อมูลทางทะเบียนราษฎร ที่ อ.ลำปลายมาศ ระบุเป็นคนเกิดที่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ หมู่ 3 ต.หนองบัวโคก จ.บุรีรัมย์ ต้องการมาทำบัตรประชาชน เพราะแม่ไม่ได้แจ้งเกิดมาตั้งแต่แรก จ่าเอกอดิศักดิ์ เล่าว่า ต่อมาพันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอลำปลายมาศ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลให้ลึก เพราะหากเขาเป็นคนไทยจริง อาจจะเสียสิทธิที่จะได้รับในความเป็นคนไทย จึงทำการค้นหาข้อมูลหลายมิติตามคำสั่ง และจากการสอบถามข้อมูลนางต้อย ให้ข้อมูลว่า นางต้อย เกิดที่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แม่ไม่ได้แจ้งเกิดให้ เรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้านถึง ป.3 […]

แชร์ประสบการณ์ติดโซลาร์เซลล์ ค่าไฟเหลือ900 จากเดิมเดือนละ5พัน การไฟฟ้ายังต้องมาดู

8 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าของติ๊กต็อกชื่อ nongeegfa (น้องแว่น) ได้โพสต์คลิปวิดีโอ เผยว่า “เมื่อฉันติด โซลาร์เซลล์ ค่าไฟเดือน 5,000 บาท เหลือเดือน 900 บาท การไฟฟ้ามาเปลี่ยนมิเตอร์ดิจิทัลเลย” ทั้งระบุด้วยว่า “ตอนค่าไฟ 5,000 บาท เขียนในบิลว่า ค่าไฟสูงกว่าปกติ แต่ไม่มาตรวจเลย พอ 900 มิเตอร์ (ดิจิทัล) มาเลย” ทั้งนี้ ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวมีผู้สนใจจำนวนมาก ยอดวิวทะลุแล้ว 3.4 ล้านครั้ง เช่นว่า – ทำคลิปแนะนำติดทีค่ะ สนใจติดบ้าง – ปกติบ้านผมค่าไฟ 1,600-1,700 พอเปลี่ยนหม้อดิจิตอลค่าไฟ 3,200-3,600 บาท – เรารอลุ้นของตัวเองอยู่ ตอนยังไม่ติด 8,000 กว่า พึ่งติดไป 28 ก.ค. ไปดูมิเตอร์ทุกวัน ปกติเคยใช้50หน่วยต่อวัน ตอนนี้เหลือ 2-3 […]

“ชัชชาติ” ร่วมรำลึกวันเกิด “วันเฉลิม” ย้ำมาในฐานะเพื่อน ไม่มีใครควรถูกอุ้มหาย

11 สิงหาคม ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดงานเสวนารียูเนียนกับวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ : ความยุติธรรมต่อผู้ถูกบังคับให้สูญหายและความคืบหน้า จัดโดย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในวาระวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 41 ปี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทย ซึ่งถูกบังคับสูญหาย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2563 พี่สาวของนายวันเฉลิม สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เครือข่ายครอบครัวผู้สูญหาย และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงได้จัดงาน “รียูเนียนกับวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์: ความยุติธรรมต่อผู้ถูกบังคับให้สูญหายและความคืบหน้า” นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะเพื่อนของต้าร์ ไม่ได้มาในฐานะผู้ว่าฯ กทม. ต้าร์เป็นเพื่อนร่วมงานสมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต้าเป็นอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ที่มาช่วยทำโซเชียลมีเดีย โดยสมัยเมื่อ 10 ปีก่อนตนยังใช้โซเชียลมีเดียไม่ค่อยเป็น “เจอต้าเมื่อ 10 ปีก่อน ต้าร์เป็นเด็กหนุ่มที่มีพลัง หน้าตายิ้มแย้ม ไม่เคยเห็นโกรธใครเลย เขาจะหัวเราะยิ้มๆ […]

เตือน16จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า ดินถล่ม 12-18ส.ค.นี้

11 ส.ค. 2566 – กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หลังพบร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ในช่วงวันที่ 12-18 ส.ค. มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน ดังนี้ ภาคเหนือ เชียงราย (อำเภอแม่จัน แม่สาย แม่ฟ้าหลวง) เชียงใหม่ (อำเภออมก๋อย) ตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่สอด แม่ระมาด อุ้มผาง) น่าน (อำเภอเมืองน่าน บ่อเกลือ ปัว เชียงกลาง ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ สองแคว) ** โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ซึ่งปัจจุบันมีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่ อำเภอเวียงสา อำเภอท่าวังผา และอำเภอแม่จริม ระดับน้ำ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย เฝ้าไร่ โพนพิสัย รัตนวาปี) บึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด บุ่งคล้า […]

“สว.พีระศักดิ์” ขอดู “เพื่อไทย” รวมเสียงก่อน ไม่โหวตให้แน่ถ้ามี “งูเห่า” ชี้ต้องมายกพรรค

11 ส.ค.2566 นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการลงมติเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ว่า ตนเคยประกาศไว้ตั้งแต่แรก หากพรรคการเมืองอันดับ 1 รวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งก็พร้อมสนับสนุนให้เป็นนายกฯ แต่เมื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอชื่อซ้ำไม่ได้ และพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ขอรอดูว่าเพื่อไทยรวมเสียงอย่างเป็นทางการได้เท่าไหร่และเสียง สส.มาจากไหน หากลงมติให้แต่ไม่ได้มาทั้งพรรค ต้องขอดูว่าจะเดินหน้าไปได้หรือไม่ อย่างเช่น พรรคประชาธิปัตย์ที่มีข่าวจะมาเพียงบางส่วน ต้องดูว่าถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ หรือกรณีพรรคพลังประชารัฐที่บอกจะโหวตให้ทั้งพรรคโดยไม่มีเงื่อนไขต้องร่วมรัฐบาล ก็รู้สึกแปลกๆ แต่อย่างนี้ถือว่ามากันหมด พอเข้าใจได้ แต่ถ้ามาเป็นส่วนน้อยก็คงไม่โหวตให้ ดังนั้น ขอรอดูความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทยก่อน ว่าจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ และได้เสียง สส.มาเท่าไหร่ สว.ไม่อยากเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล แต่จะให้ฟันธงไปเลยว่าจะโหวตให้ ยังต้องดูว่าเขาเสนอชื่อใคร ได้มาจากไหนและนโยบายเร่งด่วนเบื้องต้นคืออะไร ถ้าไม่ขัดหลักการ ตนก็ยินดีโหวตให้ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยประกาศจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็นเรื่องเร่งด่วนนั้น นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วย และตอนที่พรรคเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนก็เป็นหนึ่งใน สว.ที่สนับสนุนและเห็นชอบ จึงไม่มีปัญหา เมื่อถามถึงคุณสมบัติ นายเศรษฐา ทวีสิน […]

“เพื่อไทย” แง้มสูตรแบ่งโควตา รมต. “9ต่อ1” ชงคนเก่าไม่ได้นั่งกระทรวงเดิม

11 ส.ค.2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในรายการ “อยากมีเรื่องคุย” ทางข่าวสดออนไลน์ ถึงการแบ่งโควตารัฐมนตรีว่า การเลือกคณะรัฐมนตรี(ครม.) 1.เราควรพยายามคิดใหม่ เอาวาระประชาชน วาระประเทศเป็นตัวตั้ง 2.ต้องยอมรับความจริงของกำลังทางการเมืองที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาล เราอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน ต้องมาดูว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าคิดแบบอุดมคติล้วนก็ตั้งไม่ได้ ถ้าเราเป็นเหมือนปี 2548 ได้ 377 เสียง เราตั้งได้หมด เราคัดเลือกคนของเราได้หมด แต่วันนี้เมื่อเป็นมีรัฐบาลร่วม มีข้อจำกัดของแต่ละพรรค แต่เราก็ไม่ได้ยอมจำนนแบบนั้น เราอยากให้การรวมตัวของเราเป็นวาระแห่งชาติ เป็นรัฐบาลพิเศษ ในสถานการณ์พิเศษ เราไม่อยากให้โควตาเป็นเรื่องหลัก แต่เรื่องโควตาก็ปฏิเสธไม่ได้ “สมมติวันนี้เราตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ 300 หรือ 310 เสียง มีกี่พรรค แต่ละพรรคมีคนเท่าไหร่ ก็เอามาหาร 310 เฉลี่ย 9 คนมีรัฐมนตรี 1 คน พรรคอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้ เป็นวิธีที่ทำมาตลอด แต่มีเงื่อนไขว่า เราขอได้หรือไม่ ต้องต่อรองกันและเคารพพรรคที่มาร่วม ต่อรองได้มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่การพูดคุยกัน”นายภูมิธรรม กล่าว […]

“เศรษฐา” มั่นใจ โหวตนายกฯ ผ่านฉลุย ย้ำอยู่กับความเป็นจริง จับมือสองลุง หวังได้เสียงสนับสนุนจาก สว.และทุกพรรค

11 ส.ค. ที่สนามกีฬาบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสสนับสนุนและคัดค้านที่ออกมาช่วงนี้ว่า เป็นธรรมดาตามระบอบประชาธิปไตยที่มีคนรักและมีคนชอบ ส่วนที่กรรมาธิการจริยธรรมวุฒิสภา รับเรื่อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ตรวจสอบนั้น การเป็นนักการเมืองต้องตรวจสอบได้ ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ เชื่อว่ากรรมาธิการจะให้ความเป็นธรรมกับตน ส่วนเรื่องนายชูวิทย์ ตนขออาศัยสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะต้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ฉะนั้น วันนี้ตนเดินหน้าเรื่องการเมือง ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน เมื่อถามว่ากังวลจะมีผลต่อเสียงสนับสนุนในรัฐสภาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากพิสูจน์แล้วว่าได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย คิดว่าจะได้รับความไว้วางใจ ส่วนการแสดงวิศัยทัศน์ต่อรัฐสภานั้น ตนไม่ได้เป็น สส. แต่หากได้รับเลือกแล้วคงต้องชี้แจง เมื่อถามว่าเสียง สส.ที่พรรคเพื่อไทยรวมได้เป็นจำนวนมาก มั่นใจหรือไม่ว่าจะมีเสียงสว.เข้ามาเพิ่ม นายเศรษฐา กล่าวว่า คณะเจรจากำลังเจรจาอยู่ มั่นใจว่าในสภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ หวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง สว.และทุกพรรค และหวังว่าจะได้เสียงตอบรับที่ดี เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้รับคะแนนเสียงได้รับเลือกเป็นนายกฯ ในครั้งเดียว นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจเพราะเชื่อในสิ่งที่ทำมา ในช่วงสถานการณ์การเมืองไม่ปกติที่พรรคเพื่อไทยได้รับไม้ต่อในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ของเราจะต้องรวบรวมเสียงให้พอเพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐ และจัดการปัญหาของบ้านเมือง เมื่อถามว่าตอนนี้มีโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาแล้ว […]

กกพ.ปัดตก ลดค่าไฟ 4.25บาท แนะให้รอรัฐบาลใหม่ มีโอกาสปีหน้าปรับขึ้นอีก

9 ส.ค.2566 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยถึงข้อเรียกร้องจากหลายฝ่ายที่ต้องการให้ลดค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.2566) ลงเหลือ 4.25 บาทว่าการลดค่าไฟทุก 1 สตางค์ จะต้องใช้เงินประมาณ 500-600 ล้านบาท หากเป็นไปตามข้อเรียกร้องจะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งกกพ. ไม่มีงบ คงไม่สามารถดำเนินการได้ จึงใช้วิธีการบริหารต้นทุนที่มีอยู่ในโครงสร้างค่าไฟ เพื่อให้การปรับขึ้นเป็นภาระกับประชาชนน้อยที่สุดเท่านั้น ประกอบกับการดำเนินการที่ผ่านมานั้นรัฐบาลมีงบประมาณบางส่วนมาสนับสนุน ดังนั้นหากจะให้ลดค่าไฟลงอยู่ที่ 4.25 บาท/หน่วย คงต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งคงไม่สามารถพิจารณาหรือเปลี่ยนแปลงได้ทันค่าไฟงวดสุดท้ายของปีนี้จะมีผลในรอบบิลเดือนก.ย.นี้แน่นอน “การลดค่าไฟฟ้างวดเดือนก.ย.-ธ.ค.2566 เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องมีกระบวนการคำนวณสูตรค่าไฟฟ้าใหม่ หากจะเปลี่ยนสูตรคำนวณใหม่ต้องใช้อำนาจรัฐเข้ามาจัดการ อาจต้องเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อีกทั้งยังต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นอาจต้องใช้เวลา รวมทั้งการพิจารณาต้นทุนที่เกี่ยวข้องทั้งของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ยังมีภาระค้างค่าเชื้อเพลิงนับแสนล้านบาท และอีกเหตุผลสำคัญ คือ ล่าสุดราคา ก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ตลาดโลกเริ่มสูงขึ้นอีก ทำให้ปรับลดค่าไฟในงวดปลายปี 2566 ค่อนข้างลำบาก”นายคมกฤช กล่าว […]

1 114 115 116 3,806
error: