กรมอุทยานฯชี้แจงรับบริจาคช่วยคดี จนท.เป็น“วัฒนธรรมองค์กร” ยืนยันช่วยอย่างเต็มที่แล้ว





21 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ว่านายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะมีการออกคำสั่งย้ายนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เนื่องจากไม่พอใจนายเทวินทร์ ที่ถูกมองว่าชอบให้ข่าวเชิงเสียหายกับภาพลักษณ์ของกรมอุทยานฯ โดยเฉพาะเรื่องการให้ข่าวเรื่องการจัดซื้อตู้ยาสมุนไพรและการจัดสวนปลูก ต้นไม้ ดอกไม้ ตกแต่งภูมิทัศน์บริเวณห้องสุขาของอุทยานฯ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีกระแสข่าวว่าหัวหน้าอุทยานฯ หลายแห่งร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนว่า ให้ทำแต่ไม่ให้งบประมาณมาดำเนินการ

 

จึงสอบถามไปยังนายธัญญา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตามกรณีของนายเทวินทร์นั้น ขณะนี้มีเรื่องที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบกรณีที่มีการเบิกเงินงบประ มาณ จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สำหรับการรื้อถอนรีสอร์ตที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราช สีมาและ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ในสมัยที่นายเทวินทร์เป็นหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เมื่อปี 2555 -2557 แล้วปรากฏว่างบประมาณถูกใช้ไปหมดแล้ว แต่การรื้อถอนรีสอร์ตกลับยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอให้ผลการสอบสวนของคณกรรมการฯ ออกมาก่อนจึงจะมีการพิจารณาโยกย้ายกันภายหลัง

 

ด้านนายเทวินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่เคยมีการสอบถามกรณีการเบิกเงินงบประมาณ จำนวน10 ล้านบาท เพื่อไปรื้อถอนรีสอร์ตที่อุทยานฯ ทับลาน เมื่อปี 2557 แต่ไม่คิดว่าจะมีการรื้อฟื้นขึ้นมาอีก เรื่องงบประมาณ จำนวน 10 ล้านบาท ตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะอยู่ภาคสนามช่วงนั้นเป็นหัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน มีหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ถูกบุก ติดป้ายรื้อถอนตามมาตรา 22 ซึ่งยังมีคดีความที่ถูกเอกชนฟ้องร้องมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้เคยโทรศัพท์มาสอบถามตนเรื่องชอบให้ข่าวกับผู้สื่อข่าว แต่ตนปฎิเสธ เพราะไม่เคยให้ข่าวในทางเสียหายกับกรมอุทยานฯ

 

ขณะที่นายดำรงค์ พิเดช สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ในช่วงเวลานั้น กล่าวว่า ยินดีหากจะมีการตรวจสอบ เพราะจะได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้นว่าในช่วงขณะนั้นได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จากทั่วประเทศเกือบ 5 พันคน เพื่อมาตรวจสอบเอกสารสิทธิและตรวจสอบรีสอร์ทที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน และให้หัวหน้าอุทยานฯ ทั่วประเทศ มาร่วมรับผิดชอบคดี แค่ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่ารถ ฯลฯ ก็ไม่น้อย เจ้าหน้าที่หลายคนที่ยังรับราชการและเคยเข้าร่วมในยุทธการทับลาน คงรู้ถึงข้อเท็จจริงดี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความพยายามในการรื้อฟื้นกรณีการใช้งบประมาณ จำนวน 10 ล้านบาทที่ใช้ในภารกิจการรื้อถอนรีสอร์ตและบ้านพักที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน เคยเกิดขึ้นสมัยที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็น รัฐมนตรี ทส. เมื่อปี 2557 โดยอ้างว่าใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น แต่กลับรื้อถอนรีสอร์ตและบ้านพักไม่แล้วเสร็จ ก่อนที่เรื่องจะเงียบหายไป

 

วันเดียวกันที่กรมอุทยานฯ นายเฉลิมชัย ปาปะทา รองอธิบดีกรมอุทยานฯ แถลงถึงกรณีกรมอุทยานฯ มีหนังสือขอความร่วมมือบริจาคเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ถูกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ว่า กรมอุทยานฯ ไม่ได้เพิกเฉยหรือปล่อยปละละเลยไม่ให้ความช่วยเหลือในทางดคีแต่อย่างใด โดย ผู้อำนวยการส่วนอุทยานฯ หัวหน้าอุทยานฯ แม่ยมในขณะนั้น ได้ใช้ตำแหน่งและหลักทรัพย์เป็นประกัน ในการปล่อยตัวชั่วคราวพนักงานราชการทั้ง 4 ราย ในการประกันตัวชั้นศาล ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 รายยังคงปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติในปัจจุบัน ในช่วงเริ่มต้นคดีในชั้นสอบสวนกรมอุทยานฯ ก็ได้ส่งนิติกรประจำกรมเป็นผู้ประสานคดีและให้คำแนะนำด้านกฎหมายกับเจ้า หน้าที่ที่ถูกฟ้องร้องมาโดยตลอด ส่วน การนำเงินรายได้อุทยานฯ มาเป็นค่าใช้จ่าย เช่น ค่าทนายความ ค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ไม่มีข้อระเบียบใดที่สามารถทำกระทำได้ อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมอุทยานฯได้เสนอให้มีการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.อุ ทยานฯ โดยให้หาแนวทางแก้ระเบียบเพื่อให้สามารถนำเงินรายได้อุทยานฯ มาดำเนินการได้และการที่กรมอุทยานฯ มีหนังสือแจ้งเวียนเพื่อขอให้ข้าราชการร่วมกันให้ความช่วยเหลือในรูปแบบของ การช่วยเหลือนั้น ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติและวัฒนธรรมองค์กร ที่ถือปฏิบัติกันมาเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ข่าวจาก : มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: