กรมการทหารสื่อสาร รับสมัครทหารกองหนุนและบุคคลพลเรือนชาย/หญิงเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ





thss_logo

กรมการทหารสื่อสาร มีความประสงค์จะรับสมัครทหารกองหนุนและบุคคลพลเรือนชาย/หญิงเพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวนทดแทนกําลังพลสูญเสียปีงบประมาณ 2559 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 

1. ตําแหน่งที่เปิดรับสมัคร จํานวน 5 อัตรา ดังนี้
 
1. 1 รับสมัครและสอบคัดเลือกทหารกองหนุนและบุคคลพลเรือนชาย  
1. 1. 1 ช่างยานยนต์ล้อ (ชกท.63 1) กซสอ.สส. , พัน.ส.ซบร.เขตหลัง (อัตรา ส.อ.) จํานวน 2 อัตรา (เลือกตามคะแนนสอบรวม) ต้องสําเร็จการศึกษาประกาศนียบัตร วิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาช่างยนต์, ช่างยานยนต์, ช่างเครื่องกล
 
1. 1.2 พนักงานสร้างสาย (ชกท.320) กสส.สส. (อัตรา ส.อ.) จํานวน 1 อัตรา ต้องสําเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือเทียบเท่าขึ้นไป (สําหรับผู้ที่มีคุณวุฒิสูงกว่าที่กําหนดไว้จะใช้คุณวุฒิที่สูงกว่า น้ันมาเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ ภายหลังมิได้) 

1.2 รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือนหญิง
 
1.2.1 นายสิบสโมสร (ชกท.073) กบร.สส. (อัตรา ส.อ.) จํานวน  1 อัตรา  
1.2.2 ช่างเขียน (ชกท.8 10) กคส.สส. (อัตรา ส.อ.) จํานวน  1 อัตรา  
1.2.3 คุณวุฒิของผู้สมัครต้องสําเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือเทียบเท่าขึ้นไป (สําหรับผู้ที่มีคุณวุฒิสูงกว่าที่กําหนดไว้ จะใช้คุณวุฒิที่สูงกว่านั้นมาเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ ภายหลังมิได้) 
 
2. คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร

2.1 ตําแหน่งที่ระบุไว้ในข้อ 1. 1 มีดังนี้ 
2.1.1 ผู้สมัครบรรจุเข้ารับราชการเป็นทหารกองหนุนอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และ ไม่เกิน 29 ปีบริบูรณ์ 
2.1.2 งดรับบรรจุนายสิบกองหนุนที่มียศ จ.ส.ต.-จ.ส.อ. กลับเข้ารับราชการใน ทบ. เพื่อสงวนตําแหน่งอัตรา จ. ไว้ให้ ส.อ. ที่คงรับราชการตามแนวทางรับราชการอย่างต่อเนื่องใน ทบ. ให้ได้เลื่อนขึ้นครองอัตราที่สูงขึ้น


2.1.3 ผู้สมัครบรรจุเข้ารับราชการเป็นบุคคลพลเรือนชาย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 29 ปีบริบูรณ์ แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
2.1.3.1 ผู้ที่ผ่านการตรวจเลือกทหารแล้ว รับสมัครเฉพาะผู้ที่ผลการตรวจเลือกระบุว่าเป็นคนจําพวกที่ 1 เท่านั้น 
2.1.3.2 ผู้ที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์เข้ารับการตรวจเลือก ต้องมีร่างกาย สมบูรณ์ดี ไม่จัดอยู่ในคนจําพวกที่ 2 ตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.2497 และต้องมีความสูงต้ังแต่  160 เซนติเมตร และขนาดรอบอก 75/78 เซนติเมตร ตามขนาดที่คณะกรรมการตรวจวัดขนาดร่างกายของกรมการทหารสื่อสารวัดได้

2.1.3.3 งดรับบรรจุบุคคลพลเรือนชายที่เกิด พ.ศ.2538 ถึง 2539 ซึ่งจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจําการตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ.2497 

2.1.4 ไม่อยู่ในสมณเพศ


2.2 ตําแหน่งที่ระบุไว้ในข้อ 1.2 ผู้สมัครบรรจุเข้ารับราชการต้องเป็นบุคคลพลเรือนหญิง อายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี และ ไม่เกิน 29 ปีบริบูรณ์ มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ดี มีความสูงไม่น้อยกว่า 150 เซนติเมตร และมีน้ําหนักไม่น้อยกว่า 40 กิโลกรัม ตามขนาดที่คณะกรรมการตรวจวัดขนาดร่างกายของกรมการทหารสื่อสารวัดได้ 

2.3 สําหรับผู้ที่มีประวัติคดีอาญา และไม่กรอกลงในใบสมัครเข้ารับราชการ และ ไม่แจ้งข้อเท็จจริงต่อหน่วยรับบรรจุตามความเป็นจริง หากตรวจสอบพบในภายหลังแล้ว ทบ. จะถือว่า ผู้สมัครแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อทางราชการตั้งแต่แรก ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ ทบ. ได้ใน ภายหลัง ดังนั้น ทบ. อาจจะสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาไม่รับบรรจุหรือยกเลิกเพิกถอนหรือระงับการบรรจุในภายหลังได้ 

2.4 ต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด ตามระเบียบ กห. ว่าด้วยการบรรจุสัญชาติของ ผู้ที่จะบรรจุเข้ารับราชการ เป็นนายทหารสัญญาบัตรประจําการ นายทหารประทวนประจําการ/หรือ พลทหารประจําการ (พลอาสาสมัคร) พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยแต่บิดา และหรือมารดา มีสัญชาติไทยโดยการเกดิ หรือสัญชาติอื่นให้ถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติว่าด้วยการกําหนดสัญชาติ 

2.5 เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 

2.6 ไม่เป็นผู้ที่มีร่างกายทุพพลภาพ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่ สมประกอบ หรือมีโรคอันพึงรังเกียจหรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการได้ ตามท่ีกําหนดไว้ใน กฎกระทรวงออกตามความใน พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 

2.7 ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีงาม


2.8 ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือเป็นบุคคลล้มละลายตามคําพิพากษาของศาล 

2.9 ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกให้ออกจากราชการ เพราะมีความผิดหรือมีมลทินหรือมัวหมอง 

2.10 ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างพักหน้าที่ราชการ 

2.11 ไม่เป็นผู้ที่เคยต้องโทษจําคุก โดยคําพิพากษาของศาลในคดีอาญา ยกเว้นความผิดลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทําโดยประมาท 

2.12 ไม่มีรอยสักนอกร่มผ้า เมื่อใส่ชุดปฏิบัติงานเป็นข้าราชการ 

2.13 ไม่มีโรคที่ขัดต่อการรับราชการ มีอวัยวะ รูปร่าง ลักษณะท่าทาง และขนาด ร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหาร และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม 

2.14 ต้องผ่านการทดสอบร่างกายตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการสอบคัดเลือกกําหนด 

3. หลักฐานการรับสมัคร : ผู้สมัครเข้ารับราชการจะต้องแสดงความจํานง โดยเสนอใบสมัครพร้อมหลักฐานด้วยตนเอง จํานวน 3 ชุด ดังต่อไปนี้

3. 1 ใบประกาศนียบัตร หรือ ใบสุทธิ หรือใบระเบียนแสดงผลการศึกษา และ 
3.2 สําเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร ที่ระบุสัญชาติของบิดาและมารดา

3.3 สําเนาทะเบียนบ้านของบิดาและมารดาผู้ให้กําเนิด ที่ระบุสัญชาติบิดาและมารดา
3.4 สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้สมัคร 
3.5 ผู้ที่ผ่านการเป็นทหารกองหนุนแล้ว จะต้องมีสําเนาใบสําคัญทางทหาร สด.8 (หนังสือสําคัญทหารกองหนุน) , หนังสือรับรองความประพฤติจากหน่วยต้นสังกัดเดิม , ประวัติ ทหารบก แบบพิมพ์ ทบ.100 – 075 , ผู้ที่สําเร็จ รด. ปี 3 แล้ว จะต้องมีสําเนา สด.8 หนังสือ สําคัญประจําตัวแสดงวิทยฐานะจากกรมการรักษาดินแดน และหนังสือรับรองการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 3 
3.6 ผู้ที่ผ่านการตรวจเลือกทหารแล้ว จะต้องมีสําเนาใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (แบบ สด.43 ) 
3.7 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดํา (ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน) ขนาด  1 นิ้ว จํานวน 3 รูป 
3.8 ใบสําคัญความเห็นของแพทย์ทหาร และออกโดยโรงพยาบาลทหารเท่านั้น และหลังจากประกาศผลการสอบคัดเลือกทุกขั้นตอนแล้ว ให้ผู้ที่จะดําเนินการบรรจุดําเนินการตรวจโรคที่โรงพยาบาลทหาร และให้ใบสําคัญความเห็นของแพทย์ระบุว่า “ไม่เป็นโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร” และหากตําแหน่งบรรจุเป็นตําแหน่งพลขับรถให้ระบุเพิ่มเติมว่า “ตาไม่บอดสี” 

3.9 หลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) เช่น

3.9.1 หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ใบมรณะบัตรของบิดา มารดา ในกรณีเสียชีวิต (ถ้ามี) 
3.9.2 หลักฐานแสดงว่า บิดาเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ หรือเหรียญกล้าหาญ 
3.9.3 หลักฐานแสดงว่า บิดาหรือมารดา ประสบอันตรายถึงทุพพลภาพ ในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทําการตามหน้าที่ หรือบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบําเหน็จบํานาญพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ หรือได้รับเงินทําขวัญตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทําขวัญข้าราชการและลูกจ้าง

3.9.4 หลักฐานทางราชการซึ่งแสดงว่าเป็นบุตรข้าราชการกองทัพบก 
3.9.5 หลักฐานทางราชการซึ่งแสดงว่าเป็นพนักงานราชการ ลูกจ้างประจํา และลูกจ้างชั่วคราว สังกัด ทบ. 

4. การขอรับสิทธิคะแนนเพิ่มพิเศษ ทั้งบุคคลชาย/หญิง

4.1 หลักฐานแสดงว่าสําเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร “ชั้นปีที่ 3 ถึง ชั้นปีที่ 5” ต้องเป็นเอกสารที่ออกให้โดย “หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน” เท่านั้น โดยเพิ่มคะแนนให้ตามชั้นสูงสุดที่สําเร็จการฝึกวิชาทหาร ดังนี้  
4.1.1 ชั้นปีที่ 5 หรือ เทียบเท่า เพิ่ม 5 ใน  100 คะแนน
4.1.2 ชั้นปีที่ 4 หรือ เทียบเท่า เพิ่ม 4 ใน  100 คะแนน
4.1.3 ช้ันปีท่ี 3 หรือ เทียบเท่า เพ่ิม 3 ใน  100 คะแนน 

4.2 หลักฐานแสดงว่าเป็น ทหารกองหนุน ที่เคยรับราชการกองประจําการ มาก่อน เพิ่มให้ 5 ใน  100 คะแนน 

4.3 หลักฐานแสดงว่าเป็น บุตรของทหาร ข้าราชการ และลูกจ้างประจํา ในสังกัด กองทัพบก ซึ่งประสบอันตรายถึง ทุพพลภาพ ในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูกประทุษร้าย เพราะเหตุกระทําตามหน้าที่ หรือต้องบาดเจ็บถึงตายเพราะเหตุนั้น ซึ่งได้รับบําเหน็จบํานาญพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ หรือได้รับเงินค่าทําขวัญตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทําขวัญข้าราชการและลูกจ้าง หรือบุตรของผู้ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ หรือเหรียญกล้าหาญ เพิ่มให้ 10 ใน 100 คะแนน 

4.4 หลักฐานแสดงว่าเป็น บุตรของทหาร ข้าราชการ และลูกจ้าง สังกัดกองทัพบก ที่กําลังรับราชการหรือเคยรับราชการในกองทัพบกมาก่อน เว้นผู้ที่ถูกปลดออกจากประจําการเนื่องจากมีความผิด หรือบกพร่องต่อหน้าที่ เพิ่มให้ 2 ใน 100 คะแนน 

4.5 ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างประจํา พนักงานราชการ สังกัด ทบ. ที่ยังปฏิบัติงานใน ทบ. และมีระยะเวลาปฏิบัติงานใน ทบ. ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป (เว้นเป็นผู้ที่ถูกปลดเนื่องจากมีความผิดบกพร่อง) เพิ่มให้ 5 ใน  100 คะแนน 

4.6 หลักเกณฑ์การให้คะแนนเพิ่ม ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ได้รับการเพิ่มคะแนนจากหลักเกณฑ์ตามข้อ 4. 1 ถึง 4.5 หลายข้อให้เพิ่มคะแนนให้ตามหลักเกณฑ์ในข้อที่ได้รับคะแนนสูงสุดเพียงข้อเดียว ยกเว้นผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ทั้งในข้อ 4. 1 และ 4.4 รวมกัน 

4.7 การพิจารณาคะแนนเพิ่มพิเศษ จะดําเนินการทั้งในการสอบรอบแรกและการสอบรอบที่สอง โดยคิดฐานคะแนนของคะแนนเต็มในแต่ละการสอบ โดยยึดถือตามอนุมัติ ผบ.ทบ. ท้ายหนังสือ ทบ. ที่ กห 040 1/ 19 16 ลง 28 พ.ย.28 เรื่อง หลักเกณฑ์การบรรจุเข้ารับราชการ ใน ทบ. และหนังสือ กพ.ทบ. ที่ กห. 040 1/2689 ลง  12 ก.ย.55 เรื่อง ขออนุมัติแก้ไข หลักเกณฑ์การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการใน ทบ. 

4.8 สําหรับหลักฐานการขอรับสิทธิคะแนนเพิ่มพิเศษให้นํามาแสดงในวันรับสมัคร 

5. กําหนดการรับสมัคร

5.1 รับสมัครในวันที่
25-26 สิงหาคม 2559 ในเวลาราชการ ณ กรมการทหารสื่อสาร ถนนพระราม 5 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

5.2 กําหนดการสอบคัดเลือกภาคทฤษฎี, ภาคปฏิบัติ และสัมภาษณ์ในวันที่ 30 สิงหาคม 2559 เวลา 08.00

5.3 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ๋ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ในวันที่ 2 กันยายน 2559 เวลา 14.00

5.4 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ในวันที่ 6 กันยายน 2559 เวลา 07.00 
5.5 ประกาศผลสอบรอบสุดท้าย ในวันที่ 9 กันยายน 2559 เวลา  14.00 พร้อมทั้งรับฟังคําชี้แจงการบรรจุ 
 

คลิกที่นี่หากต้องการดาวน์โหลดไฟล์เอกสารฉบับเต็ม 


ที่มาข้อมูลข่าวสาร กองกำลังพล กรมการทหารสื่อสาร http://signal.rta.mi.th/kkp/

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: