5 เรื่องสำคัญของ น้ำ คุณรู้หมดรึยัง ?





5 เรื่องสำคัญของ "น้ำ" คุณรู้หมดรึยัง ?

นอกจากการอุปโภคแล้วมนุษย์ยังต้องบริโภคน้ำเข้าไปเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายหลักสำหรับอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลในร่างกาย ฯลฯ โดยเฉลี่ยคนเราจะรับน้ำเข้าร่างกายวันละ 2.4 ลิตร 1.4 ลิตรเป็นน้ำที่เราดื่มเข้าไป และอีก 1 ลิตรมาจากอาหาร เมื่อดื่มแล้วก็ขับออก ลองมาดูกันว่า เรื่องสำคัญที่น่ารู้เกี่ยวกับ "น้ำ" ที่เรานำมาขยายในวันนี้ คุณรู้กันหรือยัง

5 เรื่องสำคัญของ น้ำ คุณ
(คลิกที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่)

1 ดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้สมองเสียหายได้ !

หากดื่มน้ำมากๆ ไตจะสามารถรับมือได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเราดื่มมากๆ จนไตไม่สามารถรับได้ แล้ว น้ำก็จะล้น เนื้อเยื่อมากมายในร่างกายรวมทั้งเนื้อเยื่อสมองจะเกิดอาการบวมน้ำ ทำให้เกิดอาการสมองบวม ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ หรืออีกกรณีหากร่างกายได้รับน้ำปริมาณมากเกินไปในเวลารวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะน้ำเกิน หรือน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) เนื่องจากน้ำจะเจือจาง ทำให้ความเข้มข้นของแร่ธาตุโซเดียมลดลง ! ดังนั้นอย่าดื่มน้ำมากเกินวันละ 6-7 ลิตร

2 ดื่มน้ำช่วยลดอ้วนได้จริงหรือ?

แปลกแต่จริงที่น้ำสามารถเป็นตัวช่วยในการกำจัดจุดอ้วนได้ เนื่องจากคนที่ดื่มน้ำไม่พอมักหิวบ่อยๆ ขณะที่คนได้รับน้ำเพียงพอจะไม่ค่อยหิว ดังนั้น ยิ่งอยากลดความอ้วนให้ได้ผลก็ยิ่งต้องดื่มน้ำ เพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ น้ำยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ต้นเหตุริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส้ ฯลฯ ข้อมูลจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐอเมริการะบุว่า หากกระหายน้ำจากการออกกำลังกายหรืออากาศที่ร้อนจัด ต้องดื่มน้ำเย็นที่มีอุณหภูมิ 15-22 องศาเซลเซียส เพราะการดื่มน้ำเย็นจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยน้ำ 1 แก้วจะช่วยเผาผลาญไขมันประมาณ 9 กิโลแคลอรี ขณะที่หากดื่มน้ำน้อยตัวจะยิ่งบวมเพราะร่างกายพยายามเก็บน้ำไว้ จนทำให้มีอาการบวมน้ำทำให้เราดูอ้วนขึ้น มีเซลลูไลท์ง่ายขึ้น

3 น้ำจากฝักบัวเสี่ยงโรค

เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เรามักไม่ค่อยใส่ใจกันเท่าไหร่ แต่หลายคนก็ไม่รู้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ค้นพบว่ามีแบคทีเรีย มายโคแบคทีเรียเอเวียม (Mycobacterium Avium) สะสมอยู่ในหัวฝักบัวมากกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากสภาวะที่เหมาะสม ทั้งความชื้นอุณหภูมิและไม่มีแสง ช่วยทำให้แบคทีเรียชนิดนี้สร้างไบโอฟิล์ม (Biofilms) ที่ทำหน้าที่คล้ายตัวยึดจับเกาะกับฝักบัว ทำให้กำจัดออกยาก แบคทีเรียดังกล่าวเป็นสาเหตุของโรคปอด ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อย ไอแห้ง ไอเรื้อรัง หายใจลำบากและหมดแรง

ผลจากการศึกษาจากโรงพยาบาลยิวแห่งชาติ พบว่ามีการติดเชื้อในปอดเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการหายใจหรือสำลักเข้าไป และยังชี้ว่าปริมาณที่พบในฝักบัวนั้นมีมากกว่าปริมาณที่พบในน้ำจากก๊อกของบ้านทั่วๆ ไป 100 เท่า และการพ่นฝอยของน้ำจากฝักบัวเป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้เชื้อกระจายตัวไปในอากาศและเข้าสู่ปอดได้ง่าย เชื้อดังกล่าวเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดโรคในปอดและทางเดินอาหาร ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ และผู้ที่บำบัดมะเร็ง หรือเพิ่งปลูกถ่ายอวัยวะ ส่วนคนที่ร่างกายแข็งแรงไม่ใช่สิ่งที่กังวลมากนัก

การหลีกเลี่ยงสำคัญ อยู่ที่การเลือกใช้ฝักบัวที่เป็นโลหะ เพราะจุลินทรีย์จะเติบโตได้ยากกว่าฝักบัวพลาสติก นอกจากนี้ ยังควรหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และก่อนจะเปิดใช้ฝักบัวควรปล่อยน้ำที่ค้างทิ้งก่อนเสมอ

4 ดื่มน้ำกลั่นอันตราย !

แม้ว่าน้ำประปาจากก๊อกน้ำจะเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมาก แต่หากสะอาดจนเกินไปก็อันตรายได้เช่นกัน โดยเฉพาะ "น้ำกลั่น" ที่แม้จะกำจัดสารเคมีตกค้างในน้ำประปาให้หมดไปได้ แต่จะได้น้ำซึ่งไม่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ละลายอยู่เลย ถ้าหากดื่มเข้าไปเป็นประจำจะเกิดการดึงแร่ธาตุที่จำเป็นซึ่งสะสมอยู่ตามอวัยวะของร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และเกลือแร่อื่น ๆ ออกไป ทำให้อวัยวะนั้น ๆ ขาดเกลือแร่ ที่สำคัญ มีงานวิจัยระบุว่า การดึงธาตุแคลเซียมออกจากกระดูกและหัวใจอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน และการที่กล้ามเนื้อหัวใจมีแคลเซียม แมกนีเซียม ไม่พอจะทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมาได้

5 น้ำตาก็มีดี !

บทเจ้าน้ำตาซึ่งดูอ่อนแอ แต่บางครั้งก็มีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อเราปล่อยโฮ นอกจากจะปลดปล่อยอารมณ์และบรรเทาความเครียดแล้ว "น้ำตา" จากการร้องไห้ยังช่วยชะล้างสิ่งที่เป็นพิษออกจากตา เช่น เกลือที่ถูกกำจัดออกมาพร้อมน้ำตา อองตวน ลาโวซิเยร์ นักเคมีชาวฝรั่งเศส ใช้วิธีวิทยาศาสตร์ศึกษาเกี่ยวกับน้ำตาเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1791 พบว่าน้ำตาประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) และเกลือชนิดอื่นอีกหลายชนิด

เป็นเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญ เกี่ยวกับน้ำที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้

infographic by Riya www.eduzones.com
info : หน้าพิเศษ Hospital Healthcare, ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 7 ก.ค. 2557, health.kapook.com
Photo : clipartpal.com, www.rediff.com, matome.naver.jp, www.lakii.com, www.humantouchofchemistry.com
ค้นหาเรื่องน่ารู้ในชีวิตประจำวัน เทคนิค และ how to ทั้งหมด กินอะไรก่อนสอบ ถึงจะดีกั LifeStyle น่ารู้ในชีวิตประจำวัน
blog แนะนำ : จิตวิทยา และ แบบทดสอบ กินอะไรก่อนสอบ ถึงจะดีกั Get to know yourself จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน
blog แนะนำ : เรื่องดีๆ ความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ กินอะไรก่อนสอบ ถึงจะดีกั Inspiration เรื่องดีๆที่ต้องบอกต่อ

รู้กันรึยังคะ ว่า Google

เรื่องก่อนหน้า : 15 ศัพท์วัยรุ่น ฮิตติดชาร์ต !
เรื่องถัดไป : —

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: