จากกรณีซีรีส์ “แม่หยัว” ที่มีการใช้แมวดำเข้าฉาก แต่ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทรมานสัตว์ที่ใช้ยาสลบแบบไม่จำเป็น อาจเสี่ยงชีวิตได้จนเกิดกระแส #แบนแม่หยัว นั้น
อ่านเพิ่มเติม
- ผกก.แม่หยัว ยอมรับวางยาสลบ-โพสต์คลิปล่าสุด ยืนยันมีผู้เชี่ยวชาญ
- สัตวแพทยสภารับทราบแล้ว! ปมแมวในซีรีส์ดังที่โซเชียลวิจารณ์
ล่าสุดชาวเน็ตยังขุดต่ออีกว่า ละครในอดีตของช่องดังกล่าวก็เคยมีการทรมานงูกว่า 400 ตัวเพื่อทำวิกผมให้กับนักแสดงแบบสมจริงที่สุด
โดยข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 50 ดังนี้
หน่วยงานอนุรักษ์เตือนผู้สร้างละคร”มายาพิศวาส” ใช้”งูสายม่าน”มีชีวิตร่วม 400 ตัว มาสตั๊ฟฟ์ทำวิกผมนางเอก ชี้เป็นการทรมานสัตว์ ห่วงชักจูงคนดูทำลายทรัพยากร “ผู้กำกับฯคนดัง-บิ๊กเอ็กแซ็กท์”แจงไม่มีเจตนา ต้องการให้สมจริง ใช้เทคนิคช่วย ไม่ได้ทรมาน
หน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ออกโรงเตือนผู้กำกับการละครใช้งูจริงมาทำวิกเป็นการทรมานสัตว์ แนะควรมีจิตสำนึก ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม นายสุรพล ดวงแข อดีตเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีละครเรื่อง “มายาพิศวาส” ที่ผลิตโดยบริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด ซึ่งจะแพร่ภาพตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ใช้งูสายม่านจริงๆ เกือบ 400 ตัว มาสตัฟฟ์เพื่อทำวิกผมให้ดูสมจริงเวลานางเอกสาว แป้ง หรือ น.ส.อรจิรา แหลมวิไล แปลงร่างเป็นปีศาจงูเมดูซาเวลาโกรธว่า การเอาสัตว์มาแสดงนั้นเป็นปัญหาเรื่องการทรมานสัตว์มาตลอด
“เห็นว่าการจับงูจำนวน 400 ตัว มาทำวิกผมนั้น ถือเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก ไม่แน่ใจว่างูชนิดนี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหรือไม่ เพราะล่าสุดที่มีการปรับปรุงกฎหมายนั้น จำได้ว่ามีการบรรจุงูเข้าไปเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอีกหลายชนิดด้วยกัน แต่แม้ไม่ได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองผู้สร้างหนังก็ควรมีจิตสำนึกด้วย ถือเป็นการทรมานสัตว์อย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญทางกรมประชาสัมพันธ์ที่เป็นผู้อนุญาตให้หนังหรือละครออกอากาศจะต้องดูเนื้อหาองค์ประกอบด้วยว่าละครเรื่องนั้นๆ มีผลต่อการชักจูงให้คนดูทำลายทรัพยากรหรือไม่
ด้านนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นงูสายม่านไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง แต่หากไปจับมาจากแหล่งอนุรักษ์ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน จำนวน 400 ตัวนี่ถือว่ามากพอสมควร ไม่รู้ว่าได้มาอย่างไร หากคนดำเนินการอ้างว่าทำทุกอย่างถูกต้อง แต่ตนเห็นว่าคนทำน่าจะมีจิตสำนึก คิดได้ว่าทำแบบนี้ถูกต้องแค่ไหน ทรมานสัตว์หรือไม่
เมื่อถามเรื่องที่นางเอกของเรื่องคือ น.ส.อรจิรานั้น มีศักดิ์เป็นถึงหลานคนสนิทของ นายวิชัย แหลมวิไล อธิบดีกรมป่าไม้ จะส่งผลเรื่องภาพลักษณ์ในแง่การอนุรักษ์หรือไม่ นายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า เพิ่งทราบว่านายวิชัยมีหลานเป็นนางเอกหนัง แต่เรื่องนี้คงจะไม่เกี่ยวข้องกัน
นายสัตวแพทย์ (นส.พ.) อลงกรณ์ มหรรณพ สัตวแพทย์ประจำสำนักพระราชวัง กล่าวว่า งูสายม่านเป็นงูขนาดเล็ก ลำตัวส่วนบนสีน้ำตาลอมเหลือง ด้านข้างท้องมีสีขาวอมชมพู ลิ้นสีแดง ตาโต เลื้อยรวดเร็ว นิสัยค่อนข้างดุ มีฟันซี่เล็กละเอียด แต่ไม่มีพิษ วางไข่ครั้งละ 5-10 ฟอง มักจะอาศัยอยู่ตามป่าโปร่ง พบมากที่ จ.ราชบุรี นครปฐม ไม่จัดว่าเป็นสัตว์หายาก แต่ก็ไม่มีมากนัก
“งูชนิดนี้จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และว่องไวมาก เพราะมันไม่มีอาวุธใดๆ จะสู้กับศัตรู การจับงูไปทำวิกผมนั้นเป็นการทรมานสัตว์อย่างมาก เพราะธรรมชาติของงูสายม่านไม่ใช่สัตว์ที่เชื่อง เหมือนงูเขียวปากเป็ดที่เด็กวัยรุ่นชอบจับมาเล่น ดังนั้น มันจะต้องดิ้นอย่างแรงหากถูกจับหรือพันธนาการไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะดิ้นจนหมดแรงเพลียและตายไปในที่สุด” นส.พ.อลงกรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปกติแล้วมีงูชนิดนี้ขายตามท้องตลาดหรือไม่ นส.พ.อลงกรณ์กล่าวว่า งูสายม่านไม่ใช่สัตว์ที่เชื่อง ออกจะดุด้วยซ้ำ เพียงแต่ไม่มีพิษจึงไม่เป็นอันตราย ไม่เคยเห็นมีขายที่ไหน แต่การหางูมาทำวิกผมมากถึง 400 ตัวนั้น เข้าใจว่าน่าจะเป็นการสั่งซื้อมากกว่าการไปหาซื้อตามที่ต่างๆ
ขณะที่นายธัญญา จั่นอาจ หัวหน้ากองพิพิธภัณฑ์อ้างอิง องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า เข้าใจว่างูทุกตัวที่เอามาทำวิกผมดังกล่าวนั้นมีโอกาสรอดชีวิตเท่ากับศูนย์เปอร์เซ็นต์ กว่าจะถ่ายทำเสร็จงูจะดิ้นจนอ่อนเพลียและตายไปเลย ทั้งนี้ การเอาตัวงูตรึงไว้กับตัวหมวกหรือวิกนั้น จะต้องใช้เชือกหรือลวด หากมัดหรือตรึงไม่แน่นพองูจะหลุดออกมาได้ และการตรึงแน่นๆ นี้จะทำอันตรายต่อกระดูกสันหลังของงู ถือว่าทรมานสัตว์แน่นอน
ทางด้านนายกิตติ บุญสกุลศักดิ์ ผู้กำกับการแสดงละครเรื่อง “มายาพิศวาส” ให้สัมภาษณ์ว่า ในละครซึ่งเนื้อหามีเรื่องของคำสาปมาเกี่ยวข้องนั้น ตัวเอกของเรื่องคือ น.ส.อรจิรา จะต้องแปลงร่างเป็นปีศาจงูเมดูซาเวลาโกรธ โดยแม้จะมีร่างกายเป็นคนเหมือนปกติแต่ส่วนศีรษะจะกลายเป็นงู ทีมงานจึงจัดทำวิกให้ใส่เพื่อความสมจริง ซึ่งแม้จะทำให้มีงูตายไปบ้างแต่เชื่อว่าคนจะเข้าใจว่าไม่ได้ทรมานสัตว์
นายกิตติกล่าวอีกว่า แรกสุดทำวิกโดยใช้งูปลอม แต่เมื่อถ่ายออกมาปรากฏว่าไม่สมจริง จึงสั่งให้ทีมงานหางูจริงมาใช้เพื่อความแนบเนียน ทีมงานจึงนำงูสายม่าน ซึ่งเป็นงูตัวเล็ก ไม่มีพิษมาสตัฟฟ์ ซึ่งในการทำวิกต้องใช้งูราว 50 ตัว มาทำให้ตายแล้วสตัฟฟ์ เนื่องจากหากหางูที่ตายมาก่อนการสตัฟฟ์จะไม่เหมือนจริง อีกทั้งจะมีกลิ่นเหม็นมาก
“วิกช่วงแรกๆ ที่ลองผิดลองถูกทำคือ 3 อัน ใช้งูเกือบ 400 ตัว” นายกิตติกล่าว และว่า ในการถ่ายทำแต่ละครั้งยังมีการนำงูที่มีชีวิตอยู่ใส่ผสมเข้าไปในวิกอีก 2-3 ตัวเพราะต้องการให้มีภาพงูเคลื่อนไหว โดยการนำงูไปใส่ในวิกนั้นจะใช้ลวดเป็นเครื่องล็อค โดยมีลวดอยู่ 2 จุดในช่วงกลางลำตัว ซึ่งเมื่อล็อคแล้วงูจะยังพอเคลื่อนไหวได้ โดยงูที่ถูกล็อคเหล่านี้เมื่อถ่ายเสร็จก็จะปลดออก
“งูพวกนี้ไม่มีตายเลย เพียงแต่บางทีถ่ายไปแล้วมันหลับ เดี๋ยวก็ไปทำซีจีหรือเทคนิคพิเศษเอา” นายกิตติกล่าว
สำหรับประเด็นที่อาจถูกมองว่าทรมานสัตว์นั้น นายกิตติกล่าวว่า สิ่งที่ทำไม่ได้เป็นการทรมานงู เพราะในหลายๆ อย่างมีการนำเทคนิคพิเศษมาใช้ ซึ่งอาจทำให้คนเข้าใจผิด เพราะจริงๆ แล้วสิ่งที่ทำไม่ใช่เจตนาที่จะเอางูมาทรมาน แต่อยากแสดงความสามารถของงูมากกว่า
ขณะที่แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ทราบตอนแรกทีมงานจะใช้งูจริงมาทำวิก แต่ในขั้นตอนการทำมีงูตายไปหลายตัว จึงตัดสินใจนำงูที่ตายมาสตัฟฟ์
ส่วนนายนิพนธ์ ผิวเณร ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตบริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า ละครเรื่อง “มายาพิศวาส” นั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะทารุณงูที่เอามาทำวิกงูบนศีรษะของ “แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล” ตรงนี้จึงอยากจะอธิบายว่า วิกงูที่เห็นทางหน้าจอโทรทัศน์นั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นงูยาง ที่เอาไว้ถ่ายในระยะไกล แต่ไม่สามารถจะถ่ายโคลสอัพได้ จึงต้องมีส่วนที่ 2 คือ จ้างบริษัทรับทำเอฟเฟ็คต์ ทำวิกผมที่ทำจากงูสตัฟฟ์ขึ้นมา โดยตนไม่รู้ว่าวิธีทำนั้นเป็นอย่างไร เพราะเป็นวิธีการของทางบริษัทนั้นๆ หลังจากนั้นเพื่อให้มีความเหมือนจริงมากขึ้น ก็มีถึงส่วนของการใช่คอมพิวเตอร์กราฟิคช่วย โดยการใส่งูจริงไว้ ที่วิกเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว จากนั้นจึงทำภาพซ้ำๆ ให้เหมือนกับมีงูมากขึ้นทั้งที่ความจริงใช้งูเพียงไม่กี่ตัว
นายนิพนธ์กล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะส่งเสริม นี่ทำให้คนดูรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ทำขึ้นจากงูจริงทั้งหมด เพราะเข้าใจว่าคนดูเข้าใจว่านี่คือละคร และงูที่เห็นก็ทำมาจากคอมพิวเตอร์กราฟิค ซึ่งอาจจะไม่เหมือนจริงซะทีเดียวก็ได้ งูที่เห็นส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์กราฟิค ซึ่งเสียค่าใช้ตรงนี้ไปหลายแสนบาท โดยทำกรรมวิธีดับเบิ้ลให้เห็นงูจริงที่กองอยู่บน วิกผมงูสตัฟฟ์ดูว่ามีเยอะขึ้น และมีความเคลื่อนไหว เพราะจะมีความเหมือนมากกว่า ในวิกอันนี้ก็มีทั้งงูยางอันละ 3 บาทอย่างทีเด็กๆ ชอบเล่นนำมาย้อมสี แล้วก็มีงูจริงที่ไม่ มีพิษที่หาซื้อได้ตามสวนจตุจักรตัวละห้าบาทสิบบาท พยายามให้เหมือนที่สุด
“คิดว่าคนดูน่าจะเข้าใจว่านี่คือละเม็งละครอาจจะไม่เหมือน เพราะเราก็ไม่ได้ชูประเด็นหรือส่งเสริมว่าละครเรื่องนี้ใช้งูจริงทั้งหมด ส่วนที่ใช้ก็เป็นการนำงูมาวางไว้บนวิกงูสตัฟฟ์เฉยๆ ไม่ได้มีการล็อคงูให้อยู่นิ่งๆ เพราะถ้าทำอย่างนั้นงูอาจจะตายได้ ยืนยันได้ว่าไม่มีงูได้รับการทรมาน หรือตายจากการถ่ายทำละครเรื่องนี้แต่อย่างใด” นายนิพนธ์กล่าว
จากข่าวดังกล่าวทำให้ชาวทวิตเตอร์ (X) วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งถึงการทำงานโดยใช้สัตว์ในวงการบันเทิงไทย ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะจบลงอย่างไรบ้าง