หญิงไทยยอมรับชนหนุ่มอเมริกันเสียชีวิตจริง พร้อมกลับไปรับโทษแล้ว





จากกรณีเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมีการนำเสนอข่าว หญิงไทยในอเมริกา ก่อเหตุขับรถชน นายเบนจามิน เคเบิล อายุ 22 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 ณ เมืองมิชิแกน สหรัฐอเมริกา แล้วหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ต่อมา ได้บินหลบหนีกลับมากบดานที่ประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นางทับทิม ซู ฮาวสัน อายุ 57 ปี และได้ดำเนินการออกหมายจับ และต้องการประสานทางการไทยเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตรวจสอบข้อมูลกรณีดังกล่าว รวมทั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหญิงไทยรายดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับนางทับทิม พื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏ

จากการสืบสวนทราบว่า หลังจากนางทับทิมเดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มกราคม ได้ไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ต่อมา วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เมื่อมีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย นางทับทิมได้ย้ายไปอยู่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบข้อมูลดังกล่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าว และพบนางทับทิมอาศัยอยู่จริง จึงได้สอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว

นางทับทิมยอมรับว่า เป็นบุคคลที่ปรากฏชื่อตามข่าวจริง และเป็นผู้ก่อเหตุขับรถชนนายเบนจามินจริง ด้วยความตกใจจึงบินกลับมาที่ประเทศไทยก่อน ขณะนี้ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพร้อมที่จะเดินทางกลับไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่สหรัฐอเมริกาตามกฎหมาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เหตุดังกล่าวได้รับการประสานข้อมูลเบื้องต้นจากทางการสหรัฐ ท่าน ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลตามที่ปรากฏ เพื่อจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และตามที่กฎหมายไทยกำหนดไว้ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบและพูดคุยกับนางทับทิมพบว่าเจ้าตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยินดีที่จะเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า จากนี้จะประสานงานกับทางการสหรัฐเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ทางการไทยกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์อันดีกันมาเป็นเวลานาน รวมทั้งมีความร่วมมือในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมด้วยกันมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในครั้งนี้จึงถือเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างทางการไทยกับสหรัฐอเมริกาให้มีความมั่นคงต่อไป

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: