คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รับอาสาสมัครวิจัยรับวัคซีนโควิด 19 สลับชนิดในเข็ม 1 และ 2 “หมอยง” เผยฉีดสลับชนิดมีประโยชน์กรณีวัคซีนขาดแคลน ผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการจริยธรรมฯแล้ว
เปิดรับ 18-24 มิ.ย.นี้ รับคนอายุ 18-59 ปี ไม่เคยฉีดวัคซีนโควิดมาก่อน แบ่ง 2 กลุ่มรับซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ และแอสตร้าฯตามด้วยซิโนแวค
วันที่ 18 มิ.ย. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ถึงการรับวัคซีนโควิด 19 สลับชนิดกันในเข็มที่ 1 และ 2 ว่า ปัจจุบันการให้วัคซีนโควิด 19 ยังแนะนำให้ใช้วัคซีนชนิดเดียวกันทั้งเข็มที่ 1 และ 2 แต่ด้วยเหตุผลว่า บางคนฉีดเข็มแรกแล้วแพ้ จำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 2 ต่างชนิดกัน เช่น
เข็มแรกฉีดซิโนแวค เข็มที่สองฉีดเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ทั้งนี้ การให้วัคซีน 2 เข็ม ต่างชนิดกัน จะเป็นประโยชน์ในกรณีที่วัคซีนขาดแคลน และต้องการฉีดเข็มแรกให้มากที่สุดไม่ต้องเก็บวัคซีนไว้เข็มที่ 2 และเมื่อมีวัคซีนเข็มที่ 2 อาจจะใช้ต่างชนิดกันได้
ดังนั้น การสลับเปลี่ยนวัคซีนจึงต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด ก่อนที่จะนำไปใช้จริง ซึ่งขณะนี้ต้องการอาสาสมัครรับวัคซีนโควิด 19 สลับชนิดกัน โดยโครงการนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจริยธรรมแล้ว โครงการนี้จึงจะขอรับสมัครอาสาสมัครมารับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ต่างชนิดกัน
โดยกลุ่มแรกจะฉีดเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค เข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า โดยจะเจาะเลือดก่อนฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก จากนั้นอีก 21-28 วันจะเจาะเลือดก่อนฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 และจะเจาะเลือดหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง 1 เดือน และ 3 เดือน
ส่วนอีกกลุ่มจะฉีดเข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 เป็นซิโนแวค โดยเจาะเลือดก่อนฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเรนก้าเข็มแรก จากนั้น 10-12 สัปดาห์ จะเจาะเลือดก่อนฉีดวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มที่สอง และเจาะเลือดหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง 1 เดือนและ 3 เดือน ทั้งนี้ จะมีการบันทึกอาการข้างเคียงของวัคซีน และตรวจวัดภูมิต้านทานเป็นระยะ เพื่อให้ได้ข้อมูลทางวิชาการก่อนนำไปใช้จริง
สำหรับคุณสมบัติอาสาสมัคร มีดังนี้ 1.อายุระหว่าง 18-59 ปี 2.อาศัยอยู่ใน กทม.หรือปริมณฑล สะดวกเดินทางมารับวัคซีนและเจาะเลือดตามนัด ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (ในวันและเวลาราชการ) 3.ไม่เคยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาก่อน 4.ไม่เคยได้รับวัคซีน COVID-19 มาก่อน 5.ไม่มีประวัติแพ้ง่าย โรคภูมิแพ้ หรือส่วนประกอบของสารที่อยู่ในวัคซีน 6.อาสาสมัคร สมัครใจเข้าร่วมโครงการโดยยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร 7.ไม่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ที่ต้องนอน รพ. 8.ไม่กินยากดภูมิต้านทาน และ 9.ไม่มีประวัติโรคมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จากการติดเชื้อ HIV หรือเป็นมาแต่กำเนิด
ทั้งนี้ เปิดรับสมัครตั้งแต่ 18 มิ.ย. – 24 มิ.ย. 2564 หากมีคุณสมบัติเหมาะสม ทางผู้วิจัยจะติดต่อกลับมาหาภายในวันที่ 25 มิ.ย. เวลา 16:00 หากเลยวันเวลาดังกล่าวยังไม่ได้รับการติดต่อ แสดงว่าไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นอาสาสมัคร
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ