พ่อ เซนติเมตร เผยสาววีออสคู่กรณียังไม่ขอโทษหลังเกิดเหตุ ไม่ติดใจเรื่องคดี แค่หวังเข้าขอขมาศพลูก ด้าน พิชญ์ กาไชย เล่า เซนติเมตร-โจ้ มีตั๋วกลับ แต่เลือกอยู่เที่ยวต่อ
จากกรณี นายจตุรภัทร เข็มนาค หรือ เซนติเมตร พิธีกรล้นตู้ อายุ 29 ปี สไตลิสต์ชื่อดัง และพิธีกร กับนายศุภกิจ เกิดซ้ำ หรือ โจ้ อายุ 30 ปี เพื่อนสนิท ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนชนกับรถเก๋งของ น.ส.วิจิตรา ปุกบุญเรือง ตกคลองชลประทานเชียงใหม่ เป็นเหตุให้เซนติเมตรและโจ้ดับสลด ซึ่งทางตำรวจสรุปว่าฝั่งรถของ น.ส.วิจิตรา เป็นฝ่ายประมาทนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 4 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ที่ศาลาสามัคคี ศาลาริมน้ำ วัดรังษีโสภณ ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก พิธีรดน้ำศพของเซนติเมตร เมื่อเวลา 16.00 น. เพื่อนสนิท เจนนี่ ปาหนัน และพิชญ์ กาไชย พิธีกรร่วมรายการ เดินทางมาร่วมไว้อาลัย รวมไปถึงเพื่อนในวงการสไตลิสต์เดินทางมาร่วมงานแน่นศาลา และบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า พ่อแม่และพี่ชายน้องสาว ยังอยู่ในอาการเสียใจ
เจนนี่ ปาหนัน และพิชญ์ กาไชย เปิดเผยว่า ได้ทำงานเป็นพิธีกรร่วมกันในรายการล้นตู้ มากว่าครึ่งปี ก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนสนิทกันมานานกว่า 7 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อีกทั้งยังรู้จักกันในฐานะที่เซนติเมตร เป็นสไตลิสต์ คอยหาชุดให้ จึงทำให้ยิ่งสนิทกันมาก ยอมรับว่าช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะจากไปเร็วขนาดนี้
พิชญ์ กาไชย เล่าว่า คุณโจ้ เพื่อนอีกคนที่จบชีวิตพร้อมกับเซนติเมตรก็สนิทกับตน ตอนแรกคุณโจ้จะกลับพร้อมตนเพราะจองตั๋วไว้แล้ว แต่กลับยอมทิ้งตั๋ว เพราะอยากจะอยู่ต่ออีก 2 3 วัน เช่นเดียวกับเซนติเมตร ซึ่งตนมีลางสังหรณ์แปลก ๆ ในวันที่พาเซนติเมตรไปไหว้พระ วันที่ 1 มกราคม ก่อนเกิดอุบัติเหตุ 1 วัน อยู่ ๆ พระก็ทักคุณเซนติเมตรว่าสวยจังเลย ทั้งที่ไม่ได้แต่งหน้ามา
เจนนี่ และพิชญ์ กล่าวว่า สำหรับนิสัยใจคอของ เซนติเมตร เป็นคนสนุกสนาน เฮฮา และยังเป็นคนไม่เหมือนใคร ใครที่ได้รู้จักถือว่าโชคดีมาก แต่หากดูผิวเผินหลายคนอาจจะไม่ชอบ ที่ผ่านมามีคนด่าเขาค่อนข้างเยอะ คิดว่าต้องมีคนเกลียดเยอะ แต่พอมางานวันนี้ ก็รู้ว่าคนรักเยอะมาก
ด้าน นายศิริรัตน เข็มนาค พ่อของเซนติเมตร เล่าทั้งน้ำตาว่า วันที่เกิดเหตุ ตนไม่ทันได้ดูใจลูกเป็นครั้งสุดท้าย ตนบอกให้หมอปั๊มหัวใจเพื่อรอตนไปหาลูกก่อน และมีการโทรศัพท์รายงานตนตลอด แต่สุดท้ายลูกมาเสียตอนที่ตนอยู่บนเครื่องบิน จากนั้นตนบอกลูกไปว่า "มึงเก่ง แต่เก่งไม่จริง ถึงได้จบชีวิตเร็วขนาดนี้" (ร้องไห้ หยิบทิชชู่ขึ้นมาซับน้ำตา)
ส่วนทางคดี ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คู่กรณีผิดจริง แต่ลูกตนเสียชีวิตไปแล้ว และคงไม่ได้กลับคืนมาแล้ว ครอบครัวก็คงไม่ไปเรียกร้องอะไร ซึ่งในเรื่องกฎหมายก็ให้ตำรวจดำเนินการ โดยตนยังไม่รับคำขอโทษจากคู่กรณี และต้องการให้คู่กรณีเข้ามาขอขมาและขอโทษลูกของตน
ขอบคุณข่าวจาก : รายการทุบโต๊ะข่าว
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ