กรณีดาบตำรวจถูกรถชนบนถนนบางนา-ตราด เป็นทำให้เสียชีวิต ญาติๆ โอดถูกโซเชียลหมิ่นเกียรติวิจารณ์ต่างๆ นานา ยืนยันไม่ได้กระโดดพุ่งตัวให้รถชน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพตำรวจถูกรถชน และระบุข้อความว่า “ถนนมีไว้ให้รถวิ่ง ไม่ใช่มีไว้ให้สิ่งมีชีวิตกระโดดไปขวาง" โดยกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกำกองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า ตำรวจคนดังกล่าวคือ ดาบตำรวจ ภาสวี ศรีชัย อายุ 48 ปี สังกัดกองกำกับการตำรวจจราจร 5 ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สำหรับเหตุเกิดขึ้นเมื่อวาน เวลาประมาณ 11.00 น. บนถนนบางนา-ตราด แยกวัดศรีเอี่ยม ซึ่งด่านในครั้งนี้เป็นการตรวจควันดำรถบรรทุก และรถยนต์ที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน และเป็นการตั้งด่านอย่างถูกต้อง และมีป้ายชัดเจน ซึ่งจุดที่ ด.ต.ภาสกร ทำหน้าที่นั้น เป็นบริเวณจุดคัดรถ ก่อนเข้าไปยังจุดตรวจในเลนซ้ายของถนน โดยขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ ด.ต.ภาสกร กำลังโบกรถบรรทุกจากเลนกลาง ให้เข้าเลนซ้าย เพื่อตรวจสอบควันดำจากท่อไอเสีย
แต่ปรากฏว่า รถกระบะคันก่อเหตุ ซึ่งอาจจะไม่เห็นด่าน เพราะถูกรถบรรทุกบังอยู่ ขับแซงรถบรรทุกในเลนซ้ายด้วยความเร็ว และพุ่งชนเข้ากับ ด.ต.ภาสกร ที่ยืนอยู่บนถนนเลนซ้าย ซึ่งการชนค่อนข้างแรง ทำให้เจ้าตัวกระเด็นและหมวกกันน็อกหลุด และหัวไปชนแท่นแบริเออร์
ซึ่งหลังเกิดเหตุ นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลบางนา 1 และส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสและก้านสมองตาย กะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง และมีเลือดออกในปอด ทำให้ไม่สามารถยื้อชีวิตของ ด.ต.ภาสวีไว้ได้
ภาพจำลองเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ
พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวต่อว่า กองบังคับการตำรวจจะไม่ทิ้งบุตรหลานของผู้ตายในส่วนของการเรียน และจะทำเรื่องให้ครอบครัวของผู้ตายได้รับสิทธิ์ที่ผู้ตายจะได้รับ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ต.ภาสวี และจะทำอนุสรณ์สถานให้กับตำรวจจราจรที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้มีถึง 15 คน ที่เสียชีวิต
สำหรับการที่สังคมออนไลน์มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น ตนมองว่าโซเชียลก็มีการตำหนิตำรวจอยู่แล้ว และตนก็ได้ชี้แจงผ่านเพจไปแล้ว เกี่ยวกับความดีของ ด.ต.ภาสวี แต่ก็มีบางคนที่ไม่ชอบตำรวจ ก็ยังตำหนิและหมิ่นศักดิ์ศรีตำรวจว่าประมาท ซุ่มซ่ามจนทำให้เสียชีวิต
รวมถึงมีการด่าทอผู้ตาย ซึ่งตนจะดำเนินคดีทางกฎหมาย และตนอยากให้เข้าใจว่า ไม่มีตำรวจคนไหนอยากไปดมควันรถอยู่กลางถนน แต่ที่ทำไป ก็เพราะเป็นหน้าที่ และเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เบื้องต้น ตำรวจ สน.บางนา ได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้แล้ว
ขณะที่บรรยากาศที่วัดตรีทศเทพ เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ด.ต.ภาสวี ศรีชัย สังกัดกองกำกับการตำรวจจราจร 5 ซึ่งมีพิธีรดน้ำศพ โดยญาติและตำรวจมาร่วมงานกว่า 100 คน นางมด ภรรยาของ ด.ต.ภาสวี ยังคงอยู่ในอาการซึมเศร้าเสียใจ และสงบนิ่ง ไม่อยากพูดถึงเรื่องของสามี เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ ซึ่งลูกชายของผู้ตายกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้อย่างหนัก จนแม่ต้องเข้าไปปลอบ
พระสงฆ์ 4 รูป ประกอบพิธีสวดอภิธรรมศพของ ด.ต.ภาสวี ศรีชัย ซึ่งในวันนี้มี พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกำกองบังคับการตำรวจจราจร มาเป็นประธานในพิธี มีญาติและเพื่อนตำรวจกว่า 150 คน มาร่วมในพิธี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
น้องสาวของ ด.ต.ภาสวี ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า เปิดเผยว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากอาการก้านสมองตาย และเลือดคั่งในสมอง ตอนนี้นางมด ภรรยาผู้ตาย มีอาการซึมเศร้า สภาพจิตใจค่อนข้างแย่ ไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ เพราะทั้ง 2 คน นี้รักกันมาก ตัวติดกันตลอด ซึ่งตอนที่ ด.ต.ภาสวี ยังมีชีวิตอยู่ ก็มักจะพานางมดไปนั่งเฝ้าเวลาตั้งด่านด้วย ทั้ง 2 คน ไม่เคยห่างกัน และผู้ตายยังเป็นเสาหลักของครอบครัว
ซึ่งหลังจากพี่ชายของตนเสียชีวิต นางมดขอให้หมอบรรจุศพ ด.ต.ภาสวี ใส่โลงเย็น เพื่อจะนำศพกลับไปนอนที่บ้านอีก 1 คืน เนื่องจากไม่อยากทิ้งศพไว้ที่โรงพยาบาล เพราะความผูกพัน แต่หมอก็ไม่อนุญาต เพราะยังต้องชันสูตรพลิกศพ
น.ส.ธนาภา กล่าวต่อว่า จากกระแสโซเชียลที่ซ้ำเติมผู้ตาย ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่แย่มาก และไม่ยุติธรรมสำหรับอาชีพตำรวจ เพราะพี่ชายตนเป็นคนที่รักในอาชีพนี้ตั้งแต่เด็ก และตั้งใจทำงานจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ซึ่งอาชีพตำรวจค่อนข้างเสี่ยง และเชื่อว่าไม่มีใครที่อยากให้เรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ ซึ่งโดยหน้าที่แล้ว พี่ชายตนสามารถนั่งที่ศูนย์ปฏิบัติการได้ แต่เขาก็อาสาลงไปตั้งด่านเพื่อจะได้ทำงาน
แต่เมื่อเห็นกระแสโซเชียลค่อนข้างดูถูกคนตายว่ากระโดดลงไปบนถนน และถึงแม้ว่าผู้โพสต์จะลบรูปและข้อความไปแล้ว แต่มันก็ยังฝังอยู่ในจิตใจของครอบครัวตน และตนอยากถามว่า ใครบ้างที่อยากกระโดดให้รถชน คนที่เจอรถก็มีแต่วิ่งหนี อยากรู้ว่าคนโพสต์คิดได้อย่างไรว่าตำรวจจะกระโดดให้รถชน หรือคิดแค่โพสต์ให้ได้ยอดไลค์เยอะ ๆ หรือเพียงพูดสนุกปาก ถึงมาพูดถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของคน ๆ หนึ่ง ซึ่งจากกระแสในสังคมออนไลน์ สภาพจิตใจครอบครัวค่อนข้างแย่
ซึ่ง น.ส.ธนาภา ได้คำถามว่า เหตุใดสังคมต้องว่าพี่ชายตัวเองขนาดนี้ ไม่ยุติธรรมกับคนตาย ทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์นี้มากเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว ไม่ทันตั้งตัว และตนก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะพ่อแม่ได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว และตนก็มีพี่ชายเพียงคนเดียวที่ดูแลกันมาตลอด เพราะเรามีกันแค่ 2 คน เบื้องต้น ตนจะเอาผิดคนที่ขับรถชนแน่นอน เพราะเขาก็รับสารภาพว่าตั้งใจขับแหกด่านออกมา จนทำให้พี่ชายของตนเสียชีวิต
ข้อมูล :AmarinTV
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ