เมื่อวันที่ 18 ต.ค.61ผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องราวสุดดราม่าจากกรณีผู้ใช้ชื่อ “Nunnapas Suwasin”ได้มีการนำคลิปเหตุการณ์คนร้ายเป็นโจรสาวแม่ลูกอ่อนแอบรูดซิบหยิบเอาเงินในกระเป๋าของนายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 4 นายหนึ่งที่มาซื้อของในร้าน 10 บาท ย่านถนเอกนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แค่เกิดลืมกระเป๋าสตางค์ใบใหญ่เอาไว้บนแผงสินค้านายเกือบ 2 ชม. เมื่อเจ้าของร้านไปพบกระเป๋าจึงนำมาตรวจสอบพบว่ามีเบอร์โทรศัพท์เจ้าของกระเป๋าอยู่ในกระเป๋าจึงโทรแจ้งให้มารับกระเป๋าคืน 
แต่เมื่อนายทหารคนดังกล่าวเดินทางับกรก๋าพบว่าเงินในกระเป๋หายไปเกือบ 40,000 บาท จึงไปแจ้งคงามกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านและพบว่ามีหญิงสาวท้องแก่ประมาณ 6-7 เดือนและอุ้มลูกน้อยเพศหญิงวัยประมาณ 2 ขวบไว้ในอ้อมแขนเดินเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในร้าน 10 บาท เมื่อหญิงสาวท่องแก่แม่ลูกอ่อนเก๋ยกระเป๋าสตางค์ก็เข้าไปทำทีเลือกหาสินค้าใกล้ๆ กับกระเป๋าก่อนจะทำการรูดซิบกระเป๋าออกดูพบว่ามีเงินสดอยู่จำนวนมาก สาวท้องแก่แม่ลูกอ่อนได้หันไปมองแม่ค้าที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เก็บเงินห่างออกไปประมาณ 15 เมตร และทำกกทีเดินห่างออกมาจากจุดที่พบกระเป๋า ก่อนจะเดินกลับไปหยิบเอาเงินในกระเป๋าเป็นปึกใหญ่ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ได้อย่างชัดเจนทุกขั้นตอน 
ผู้ใช้ชื่อ “Nunnapas Suwasin” กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 14 ต..ค 2561 ที่ผ่านมา โดยเจ้าของกระเป๋าคือสามีของตนเป็นนายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 4 ตนจึงได้นำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมาโพสต์ในเพจ กลุ่ม “ประเทศคอน” พร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาตแอดมินนะคะ ใครคุ้นหน้าหรือรู้จักบุคคลในคลิป รบกวนช่วยตามให้หน่อยนะคะ ถ้าไม่อยากติดคุก ช่วยเอาเงินเกือบ4หมื่นที่น้องขโมยจากกระเป๋าพี่ไปมาคืนด้วยค่ะ พี่ต้องจ่ายค่าเทอมลูก หลักฐานแน่นอน สามีพี่ประมาทที่ลืมกระเป๋าไว้ตอนซื้อของ แต่น้องไม่ควรหยิบเงินจากกระเป๋าคนอื่นนะคะ ถ้าสงสารลูกตัวเองช่วยเอาเงินมาคืนค่ะ #ขอบคุณคลิปจากกล้องวงจรปิดในร้านทุกอย่าง 10 บาทถนนเอกนครค่ะ” โดยมีชาวโลกโซเชียลหลายพันคนเข้ามาชม แชร์และแสดงความคิดเห็นย่างกว้างขาง 
โดยในตอนแรกคิดว่าจะขอให้หญิงสาวท้องแก่แถมยังเป็นแม่ลูกอ่อนคนดังกล่าวเอาเงินมาคืนเท่านั้น เนื่องจากสงสารเห็นเขากำลังท้องแก่ และอุ้มลูกวัยประมาณ 2 ขวบอยู่ด้วย แต่ปรากฏว่าผู้หญิงท้องแก่ แม่ลูกอ่อน คนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับได้ เขาเข้ามาโพสต์ด่าทอตนอย่างรุนแรง กล่าวหาว่าตนตอแหล ขี้โกงคิดจะเอาเงินจากเจาเกือบ 4 หมื่นกว่าบาททั้ง ๆ ตัวเขารูดซิบหยิบเงินจากกระเป๋ามาแค่หมื่นกว่าบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามได้มีชาวโลกโซเชียลเข้ามาโพสต์แสดงความคิดเห็นตำหนิ ด่าประณามสาวหัวขโมยคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในช่วงแรก ๆ สาวหัวขโมยยังไม่รู้สำนึกและคงจะลืมตัวได้โพสต์ด่าโต้ตอบอย่างดุเดือด จนกระทั้งคงจะคิดทบทวนได้ว่า “ตัวเองคือนางโจร”จึงยุติการโพสต์โต้ตอบไปในที่สุด 
ต่อมาในวันเดียวกันตนจึงโพสต์ภาพ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวในเพจกลุ่ม “ประเทศคอน”อีกครั้งพร้อมข้อความว่า “สรุปเรื่องนี้แบบเข้าใจง่าย สามีลืมเป๋าตัง มีคนรูดซิปหยิบเงินออกไป สามีจำได้คร่าวๆ 3-4หมื่น (ตามที่ลงบันทึกประจำวันไว้ไม่มีใครกล้าโกหกตอแหลกับตำรวจ) เราตกใจรีบโพสต์ตามตัวคนขโมยว่าให้เอาเงินมาคืนประมาน 3-4 หมื่น โดยคิดว่าได้คืนเงินจะจบเรื่องให้เพราะสงสารเด็ก แต่ที่ต้องแจ้งความในตอนแรกเพราะต้องเอาใบแจ้งความมาขดูกล้องวงจรเพื่อปิดตามหาคนขโมย และสุดท้ายหัวขโมยตอบข้อความมาด่าว่าเราต่าง ๆ นา ๆ หาว่าเราตอแหล บอกยอดเงินเกินเพื่อจะโกงเงินจากมันเพิ่ม 
เอ๊ะ!! ขโมยลืมตัวไปหรือว่าตัวเองเป็นขโมยที่สันดานเลวหยิบเงินในกระเป๋าคนอื่น และขโมยยังกล่าวหาว่าสามีเอาเงินไปเลี้ยงคนอื่น แถมเอาแชทส่วนตัวไม่ปิดหน้ามาประจานสิ่งที่ขโมยด่าเจ้าทุกข์ เจ้าทุกข์ด่ามึงได้เพราะมึงขโมย บทสรุปเจ้าทุกข์โดนขโมยด่าว่าตอแหละจะโกงยอดเงินเพิ่ม เห้อออออ… ขโมยต้องให้กูเดือดร้อนขับรถตามหามา 2 วันไม่ได้เลี้ยงลูก ค่าน้ำมันรถอีกหลายบาท แล้วมาด่ากูอีก ปัดโธ่!! เวนกำอันใดของตรู ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแชร์ตามหาคนร้ายนะคะ ตอนนี้รู้ตัวคนร้ายแล้วค่ะ รอคุยกับพ่อแม่เค้า ส่วนตัวคนร้ายหลบหนียังตามตัวไม่เจอ หากใครเจอแจ้งมาได้เลยนะคะ 
ทางด้านนายทหารเจ้าของกระเป๋า กล่าวว่า ตอนนี้ภรรยาและเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปที่บ้านของสาวท้องแก่ แม่ลูกอ่อนคนดังกล่าวแล้ว แต่ไม่พบตัวสาวหัวขโมย โดยทราบชื่อที่อยู่อย่างละเอียดหมดแล้ว เรื่องนี้ตนจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เพราะนอกจากจะขี้ขโมยแล้วยังไม่สำนึกผิด ยังกล้าออกมาโพสต์ด่าภรรยาตนอีกด้วย โดยทราบจากพนักงานสอบสวนว่าได้เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวสาวนางโจรท้องแก่ แม่ลูกอ่อนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. 
ชมคลิป
ขอบคุณภาพ/คลิป “Nunnapas Suwasin”
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ