ขอยื้อชีวิตเณร! พ่อแม่สุดเศร้า ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ ยันเอาผิดหลวงตาถึงที่สุด!





 

พ่อแม่‘สามเณรดิว’ ยังทำใจไม่ได้ หลังอดีตหลวงตาโหดทำร้ายลูกชายปางตาย ยันไม่ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออก เพราะไม่สามารถทำใจได้ ขอเดินหน้าเอาเรื่องหลวงตาถึงที่สุด ขอให้ได้รับกรรมที่ก่อไว้ในครั้งนี้

 

 

ความคืบหน้ากรณี สามเณรดิว อายุ 9 ขวบ บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนขมิ้น ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกหลวงตาวัย 64 ทำร้ายร่างกายอาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี อาการโคม่า เป็นตายเท่ากัน

หลังเกิดเหตุอดีต หลวงตาศุภชัย หรือนายสุภชัย บุญลักขะ อายุ 64 ปี อดีตพระลูกวัดดอนขมิ้น รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และจับสึกแล้วนั้น 

อ่านข่าว จับหลวงตา โหด! ตีเณรโคม่า อ้างโมโหดื้อ-ซน คว้าไม้หวดน่วม ตร.หิ้วสึกทันควัน

 

 

 

ขอยื้อชีวิต/เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น อายุ 33 ปี และ นายวัฒนา สีสวัสดิ์ อายุ 36 ปี พ่อและแม่ รวมทั้งญาติๆ ของสามเณรดิว ยังคงเฝ้าติดตามอาการลูกชายที่หน้าห้องไอซียูอย่างใกล้ชิด ด้วยความเป็นห่วง 

อ่านข่าว จับคาวัด หลวงตาคว้าไม้หวดสามเณรวัย 9 ขวบปางตาย หมอแจ้งญาติให้ทำใจ

นางสุกัญญา เปิดเผยว่า ล่าสุดแพทย์แจ้งอาการของสามเณรดิว ว่า ความดันลดลง หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด ตนได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ช่วยให้ลูกฟื้นขึ้นมา ถึงแม้ฟื้นแล้วจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต และอยู่กับตนได้ไม่นานนักตาม แต่ตนคงไม่ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ เพราะไม่สามารถทำใจได้ที่จะทำเช่นนั้น  

เณรน้อยวัย 9 ขวบ อาการโคม่า หัวบวม-คางแตก-กระดูกหัก คาดฝีมือหลวงตาพระลูกวัด

สำหรับเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งอดีตหลวงตาศุภชัย ก็ยอมรับสารภาพว่าลงมือทำร้ายลูกของตนจริง ตอนนี้ตนก็จะขอทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุดในช่วงวาระสุดท้ายของลูกที่จะได้อยู่กับเรา

ทั้งนี้ ครอบครัวมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ สามเณรดิวจึงอาสาบวชเรียนภาคฤดูร้อนเพื่อให้ครอบครัวสบายขึ้น ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ ตนพยายามทำใจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันมาก จึงรับไม่ได้ที่ลูกจะไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตแล้ว

สำหรับสามเณรดิว มีนิสัยซุกซนตามประสาเด็ก ตนแจ้งอดีตหลวงตาศุภชัยไปแล้วว่า ลูกชายชอบเล่นไฟ ซึ่งที่ผ่านมาอดีตหลวงตาศุภชัย ก็มักลงโทษด้วยการตี จนทำให้มีบาดแผลบ้าง แต่ครั้งนี้ถือว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้านนายวัฒนา กล่าวว่า ตนกับแม่ของสามเณรดิว แยกทางกันมานานกว่า 1 ปีแล้ว มีลูกชายด้วยกัน 2 คน คือ สามเณรดิว กับสามเณรวัย 5 ขวบ ที่บวชเรียนพร้อมกันอีกหนึ่งคน ตนเสียใจและทำใจไม่ได้ที่ สามเณรดิว ลูกชายถูกกระทำเช่นนี้ แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ยอมรับว่าไม่ค่อยมีเวลามาดูแลลูก แต่ก็พยายามหาเวลามาหาลูกให้บ่อยที่สุด ซึ่งคงต้องโทษตัวเอง เพราะการที่พ่อแม่แยกทางกัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องเช่นนี้

“คงไม่อโหสิกรรมให้อดีตหลวงตาศุภชัย แท้ที่จริงหากอดีตหลวงตาศุภชัย ไม่สามารถดูแลลูกผมได้ก็น่าจะบอกให้ผมทราบ และไม่น่าจะลงมือทำร้ายขนาดนี้  เมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมสามเณรดิว ลูกชายก็มักพบว่ามีอาการซึมเศร้า ร้องอยากลับบ้านตลอดเวลา ผมก็ถามว่าเป็นอะไร ลูกก็ตอบว่าถูกอดีตหลวงตาศุภชัยตี แต่ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อลูกทำผิดก็ต้องถูกทำโทษเป็นเรื่องธรรมดา” นายวัฒนา กล่าว

 

พ่อสามเณรดิว กล่าวต่อว่า ตนคงไม่ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออกตอนนี้ เพราะยังทำใจไม่ได้ อยากรอดูอาการอีกสักระยะ แต่หากไม่ไหวจริงๆ ถึงที่สุดแล้วก็คงต้องยอมทำใจ เพราะหากยื้อต่อไปอาจไม่มีประโยชน์กับลูก

การที่ตนนำลูกไปบวชเรียนก็เพราะเชื่อว่าศาสนาจะเป็นที่พึ่งพาได้ดีที่สุด ในระหว่างที่ตนต้องทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัว จึงนำไปฝากให้อดีตหลวงตาศุภชัย ดูแล แต่ครั้งนี้อดีตหลวงตาศุภชัยทำรุนแรงเกินกว่าเหตุไปมาก เหมือนจะฆ่ากันให้ตาย ทั้งที่เป็นเด็กตัวแค่นี้

หากไกล่เกลี่ย ตนจะไม่ยอมความเด็ดขาด จะเดินหน้าเอาเรื่องถึงที่สุด อย่างไรก็ตามฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด และขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวตนด้วย ขอให้อดีตหลวงตาศุภชัยได้รับกรรมที่ก่อไว้

ด้านร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งจะรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดเพิ่มเติมต่อไป

ต่อมาเวลา 10.30 น. นายแพทย์กิตติ อินทราสุขพร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นายแพทย์วสุ ศรีวสุธา ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง และเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคม จ.กาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าว

นายแพทย์กิตติ อินทราสุขพร กล่าวว่า ได้รับการส่งต่อ สามเณรดิว จากโรงพยาบาลมะการักษ์ โดยประมาณ 10 นาทีก่อนมาโรงพยาบาลมะการักษ์ พระพี่เลี้ยงแจ้งว่า มีอาการชัก ตาลอย ใบหน้าและแขนขามีรอยช้ำ แผลฉีกขาดที่คาง ข้อมือขวาผิดรูป ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ ใส่ท่อช่วยหายใจที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลพหลฯ วันที่ 18 สิงหาคม 2561 เวลา 22.15 น.

ตรวจร่างกาย ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง และรายงานเอ็กซเรย์สมองจากโรงพยาบาลมะการักษ์ พบว่ามีเลือดออกที่สมอง แพทย์รักษาตามอาการและแก้ไขภาวะผิดปกติ รับเข้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยไอซียูศัลยกรรม ชั้น 3 ตึก ญสส.

ที่ไอซียูศัลยกรรม ใส่เครื่องช่วยหายใจ ดูแลตามแผนการรักษาของแพทย์ ปรึกษาแพทย์แผนกกุมารร่วมดูแล ปัจจุบันคนไข้ไม่รู้สึกตัว ใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา มีการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม พบว่ามีความผิดปกติที่สมองเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากอาการไม่เหมาะสม มีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง จึงให้การรักษาเป็นแบบประคับประคอง และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: