เชิดชูแม่ตาบอด หนุ่มโพสต์ซึ้งถึงแม่ผู้เป็นฮีโร่ ถึงตาบอดก็เลี้ยงลูกได้ดี เตือนใจอย่าลืมดูแลก่อนจะสายไป





 

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 61 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ซอง ดูฮี” โพสต์ซึ้งถึงแม่ แม้ตาบอดมองไม่เห็น แต่สามารถเลี้ยงดูลูกๆให้เติบโตครบ 32 พร้อมเตือนสติลูกทุกคน ที่ยังมีแม่อยู่ อย่าลืมดูแลแม่ให้ดี ก่อนที่มันจะสายเกินไป

โดยเขาเล่าว่า”#พระคุณเเม่เลิศหล้ามหาสมุทร #พระคุณเเม่สูงสุดมหาศาล #พระคุณเเม่เลิศหล้าสุธาธาร #ใครจะปานเเม่ฉันนั้นไม่มี

ผมเป็นคนหนึ่งที่ศรัทธาในกตัญญูกตเวทีมากๆ..ผมเกิดในครอบครัวที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้านพ่อเเม่พิการทางสายตา ตั้งเเต่เกิดมาผมก็รู้สึกได้เลยว่า เราต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้รับการศึกษาที่สูงกว่าบ้านหลังอื่นๆ เวลาไปโรงเรียนผมเเทบไม่มีเงินเลย ในขณะที่คนอื่นๆมี ก่อนเที่ยงเเม่ก็จะห่อข้าวตามไปให้ บางทีก็ขอเพื่อนบ้าน อยู่ๆวันหนึ่งผมเกิดสงสารเเม่ ก็เลยตัดสินใจบวชเรียน เพื่อเเบ่งเบาภาระ เรียกได้ว่าตั้งเเต่อายุ 12 ปี ผมไม่เคยรบกวนเงินทองเเม่อีกเลย..

 

 

แม่คือฮีโร่ที่ผมศรัทธามากๆ เพราะขนาดท่านมองไม่เห็นยังสามารถเลี้ยงผมเเละพี่สาวให้โตมาได้ เเถมยังครบ 32 ประการด้วย ผมไม่เคยอายเลยครับ ที่คนอาจจะบอกว่าพ่อตาบอด เเม่ตาบอด เเต่ผมกลับดีใจด้วยซ้ำ ที่ได้ดูเเลท่าน มันเป็นบุญจริงๆนะครับ ผมเคยคิดว่า หรือเป็นเพราะความกตัญญูเช่นนี้ จึงมีผู้ที่คอยอุปการะผมตลอด จนจบการศึกษา

#เสียใจที่สุดในชีวิต…เมื่อปลายปี 2560 ผมกลับมาจากต่างประเทศเเละมีเงินอยู่ 1ก้อน ซึ่งก็ไม่มากนัก เเต่พอที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อกับเเม่ได้ ก่อนอื่นผมขอกล่าวถึงบ้านหลังเก่านะครับ บ้านหลังนี้ผมอยู่มาตั้งเเต่สมัยยาย เป็นบ้านไม้สองชั้นเก่าๆ บ้านผมมีไฟฟ้าหลังสุดท้ายในหมู่บ้าน โทรทัศน์ไม่มี พัดลมไม่มี ผมยังจำได้เลยเวลานอน ตอนเด็กผมนอน เเม่จะเอาหนังสือมาพัดให้ เพื่อให้เรานอนหลับสบาย เวลาฝนตกไม่ต้องพูดถึง ภาชนะในบ้านจะเริ่มออกมาทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ถ้วย ชาม กาละมัง ต่างพากันมารอรับน้ำฝนที่รั่วจากหลังคา ซึ่งเสียงหยดลงมา เป็นเสียงดนตรีอันไพเราะเลยทีเดียว…จินตนาการเหมือนอยู่ในสตาร์บัค 

 

 

ผมเริ่มวางแผนการสร้างบ้านให้เเม่ ด้วยการถมที่ให้สูงขึ้นจนเเล้วเสร็จ จนจะเริ่มก่อสร้างบ้านหลังใหญ่

 

 

ช่วงต้นปี 2561. แม่มีอาการป่วย เเต่ไม่ยอมบอกเรา ผมคิดว่าเเม่คงป่วยมาสักพักเเล้ว เเต่ท่านเป็นคนอดทน เเม่ผมไม่เคยเข้าโรงพยาบาลมาก่อนในชีวิตนี้ วันนั้น เพื่อนบ้านไปเจอ เเกนอนไออยู่ในห้องแทบหมดสติ จึงช่วยนำส่งโรงพยาบาล ผมเเละพี่สาวทราบข่าว จึงรีบกลับบ้านอย่างด่วน พอไปถึงโรงพยาบาล อาการเเม่ดีขึ้น ผมเลยถามเเม่ว่า ทำไมไม่เคยบอกเลยว่าป่วย ว่าไม่ไหว เเม่ตอบว่า กลัวลูกเสียการเสียงาน ต้องกลับมา ผมเลยบอกเเม่ว่า ชีวิตเเม่ เงินไม่สำคัญหรอก อย่างไรก็ต้องมาดูเเลเเม่ก่อน เเกก็ยิ้มที่เห็นพวกเรามาถึง….คุณหมอบอกว่า แม่ติดเชื่อในปอด เเต่นอนรักษาสักสองสามวันคงให้กลับบ้าน

 

 

ผมนี่โล่งใจเลย ภาวนาอย่าให้เเม่เป็นอะไร พอออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านได้สักสามวัน แม่ก็มีอาการอีกครั้ง พี่สาวเลยพาไปตรวจที่เเพทย์เอกชน คุณหมอบอกว่า พบก้อนเนื้อที่ลำคอ ต้องส่งตัวรักษาด่วน ที่โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย ตอนนั้นผมกลับมาทำงานที่กรุงเทพได้2วัน พอพี่สาวโทรมาผมก็รีบเหยียบรถเพื่อมาหาเเม่ หมอบอกว่าอีกไม่นานเเม่จะหายใจไม่ได้ จึงจำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เเละส่งต่อ ที่ โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตอนนั้นในใจผมสงสารเเม่มาก ผมรู้เลยว่าการใส่เครื่องช่วยหายใจมันทรมานเเค่ไหนเพราะเคยทำงานโรงพยาบาลมาก่อน

 

 

แม่ถูกส่งตัวรักษาต่อที่ห้องICU โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตลอดเวลาที่รักษาที่นี่ ผมเเละพี่สาวมานั่งเฝ้ารอดูเเลแม่ เท่าที่ลูกจะทำได้ ห้องนี้จะเปิดให้เยี่ยมเป็นเวลา ซึ่งผมบอกเลยมันทรมานใจมาก ทีเราเห็นเเม่เเค่ 1 ชม เเละอยู่ในสภาพอาการหนัก

เเละเเล้วคุณหมอก็เดินมากระซิบพวกผมว่าให้ทำใจไว้บ้างนะ บอกว่าเเม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เเละไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ เเต่การรักษาในขณะนี้ คือการพยุงอาการให้ดีขึ้นเท่านั้น ผมร้องให้จนไม่รุ้จะร้องยังไง เเต่พอถึงเวลาเปิดเยี่ยม ผมตัดสินใจบอกเเม่ ว่าเป็นโรคนี้ บอกให้เเม่สู้ๆ เเม่ก็เข้าใจ เเละพยักหน้าบอกสู้ ยังไหว ทุกๆวันผมพูดธรรมะให้เเม่ฟังตลอด จับมือเเม่ตลอด หอมเเก้มแม่ตลอด นับเป็นช่วงเวลาที่เราได้ไกล้ชิดเเม่อีกครั้ง

 

 

เเต่เเล้วอาการเเม่ทรุดลงหนักเรื่อยๆ แม่ได้เรียกผมเเละพี่สาวไปใกล้ๆ เเละสื่อสารทางมือ บอกว่า จะกลับบ้าน จะไม่ยอมตายที่นี่ เหมือนเเม่รุ้เเล้วว่าจะต้องจากพวกเราไป ตอนนั้นน้ำตาลูกผู้ชายมันไหลไม่หยุด ผมจับมือเเม่ตลอด พวกเราจึงตัดสินใจปฏิเสธการรักษา นำเเม่กลับบ้าน โดยการใส่ท่อช่วยหายใจ พยุงให้ถึงบ้านตามเจตนารมณ์ของเเม่ เเต่เเม่ดูเหมือนปกติมาก ยกเเขนขาได้สบาย

 

 

ผมรู้ว่าเเม่อยากคุยกับเรา เเต่ติดที่ท่อหายใจเท่านั้น พอไปถึงบ้าน พวกเราย้ายแม่ลงจากรถให้นอนในที่นอนที่ชอบ ตอนนั้นสติเเม่ดีมาก จำทุกคนที่มาหาได้ ยกมือทักทายได้ เเต่ต้องใช้ท่อหายใจผ้านการบีบเอาลมเข้าออก ช่วงเวลานี้ผมพูดธรรมะให้เเม่ฟังตลอด เเละกระซิบข้างหูว่า ถ้าจะไปแม่ไปเเบบสบายๆนะ เเม่ก็พยักหน้า เเละผมก็บอกแม่ว่า ผมขอเกิดเป็นลูกเเเม่ทุกๆชาติไปนะเเม่ แม่ก็พยักหน้า เเละเเม่ก็เอามือประสานที่หน้าท้องเเล้วจากไปอย่างสงบ…………ด้วยการได้บอกลาทุกคน#ขอเกิดเป็นลูกเเม่ทุกชาติไป…คนที่ยังเหลือเเม่อยู่อย่าลืมดูเเลท่านให้ดี…ก่อนที่มันจะสายไป เพราะการร้องไห้ฟูมฟายทีหลัง มันไม่มีประโยชน์เเล้ว“

ขอบคุณเรื่องจาก : ซอง ดูฮี

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: