เปิดตำนาน “ถ้ำหลวง” ประวัติความเป็นมาเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังของ “เจ้าหญิงเชียงรุ้ง” กับ “ชายเลี้ยงม้า” ก่อนเป็นถ้ำหลวงจนถึงปัจจุบันนี้!!





กรณีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอน ทีมหมูป่า อะคาเดมีแม่สาย นักฟุตบอลเยาวชน จ.เชียงราย 13 ราย หายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้สูญหายทั้งหมด

ตำนานถ้ำหลวง /  โดยหลังเกิดเหตุมีผู้นำเรื่องเล่าตำนานขอถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง โดยเพจ Lanna นำประวัติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มาเล่าต่อโดยเป็นประวัติที่เจ้านางเชียงรุ้ง ฆ่าตัวตายเนื่องจากผิดหวังในความรัก ความว่า

ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน


ขุนคีรีนี่หรือคือซากรัก


หญิงอกหักธิดาสาวเจ้าเชียงรุ้ง


รักวิบัติจึงพลัดพรากหนีจากกรุง


นางหมายมุ่งมาถิ่นดินแดนไทย


ทัพบิดายกมาทันหวาดหวั่นจิต


คร่ำครวญคิดคิดถึงคนรักจักทำไฉน


คืนพม่าท่าจะม้วยด้วยอาลัย


ยอมตักษัยให้รู้อยู่เชียงราย


นางใช้ปิ่นปักผมทิ่มแทงขมับ


ชีพลาลับเลือดกระเซ็นเป็นเส้นสาย


เป็นขุนน้ำนางนอนไหลไม่ขาดคลาย


ร่างวางวายกลายเป็นเขาแสนเศร้าเอย
(อาจารย์พรชัย เขียวสาคู) เล่ากันว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา มีราชธิดาองค์หนึ่งทรงพระสิริโฉมงดงามยิ่ง แอบรักกับชายเลี้ยงม้า ซึ่งเป็นการผิดกฏตามโบราณราชประเพณี แต่ด้วยความรักที่มีต่อกัน ทั้งสองได้แอบรักกันมาจนกระทั่ง พระราชธิดาเกิดตั้งครรภ์ เห็นจะปิดความไว้ไม่ได้อีกต่อไป จึงหลบหนีตามกันมา พระราชบิดารู้ความเกิดความอับอายที่พระราชธิดาใฝ่ต่ำ ก็ส่งทหารไล่ติดตาม

ทั้งสองระหกระเหินเดินป่า จนถึงร่มไม้ในที่ราบแห่งหนึ่งริมน้ำโขง ราชธิดาซึ่งทรงพระครรภ์ได้หลายเดือนแล้วเสด็จต่อไปไม่ไหว จึงบอกชายคนรักว่าไปต่อไม่ไหว หิว และเหนื่อยอ่อน จะรออยู่ที่นี่ ชายหนุ่มก็บอกนางว่า ให้รออยู่ที่นี้จะไปหาอาหารมาให้ อย่าเสด็จไปไหน แล้วชายหนุ่มก็เข้าป่าไปหาอาหาร

กองทหารเชียงรุ้งตามมาทัน เห็นชายเลี้ยงม้าในป่า ก็เข้าดลุ้มรุมฟันแทง ตายอยู่กับที่ ฝ่ายพระราชธิดารอชายคนรักจนเย็นมืดค่ำก็ไม่เห็นกลับมา ชะแง้เก้อชะเง้อคอยอยู่นาน ก็เห็นกองทหารของพระราชบิดาออกมาจากชายป่า เข้าล้อมพระราชธิดาไว้ แล้วทูลเชิญกลับไปยังนครเชียงรุ้ง

พระราชธิดาตระหนกตกใจสังหรณ์ว่าชายคนรักจะเป็นอันตรายเสียแล้ว แต่ก็ยังแข็งใจตรัสถามทหารว่าเห็นชายหนุ่มหรือไม่ ทหารก็ทูลตอบว่า ได้ฆ่าตายเสียแล้ว

เมื่อทรงทราบดังนั้น พระราชธิดาทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ทรงกรรแสงคร่ำครวญเกลือกกลิ้งอยู่กลับพื้น ใคร่ครวญเห็นว่าคนรักก็ได้ตายจากไปแล้ว จะเสด็จกลับนครเชียงรุ้งก็คงถูกราชอาชญาสาหัส อีกทั้งทรงครรภ์กับชายเลี้ยงม้า ชาวเมืองคงจะดูแคลนเล่นไปจนตลอดพระชนม์

เมื่อได้สติจึงตั้งสัจจะอธิษฐาน เอาความรักอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง ดึงปิ่นที่ปักผมออกมา แทงพระขมับของพระองค์เองจนโลหิตไหลออกมาเป็นสาย สิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้น

สายพระโลหิตที่ได้หลั่งไหลออกมา ได้กลายมาเป็นต้นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้ ส่วนพระวรกายของพระราชธิดาที่นอนเหยียดยาวจากใต้จรดเหนือ ก็กลายเป็นดอยนางนอนจวบจนทุกวันนี้ อิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง และส่วนของพระอุทรที่ทรงครรภ์ก็เป็นดอยตุง

ส่วนที่เป็นพระเศียรกลายเป็นดอยท่า (ปัจจุบันเรียกดอยจ้อง) พระถันกลายเป็นดอยอีกลูกหนึ่งขึ้นมา เรียกว่าดอยแม่ย่า

ในตำนานลาวจกจากพงศาวดารลาวเฉียง เล่าว่าปู่เจ้าลาวจกเทวบุตรก่ายบันได้เงินลงมาจากสวรรค์ ต่อมาได้สร้างตุงใหญ่ขึ้นปักบนดอยจึงเรียกดอยนั้นว่าดอยตุง ส่วนดอยที่เกิดจากพระถันนั้น ยอดพระถันเป็นที่อยู่ของชายาปู่เจ้าลาวจก จึงเรียกว่าดอยแม่ย่า ส่วนดอยที่เกิดจากพระเศียร เป็นดอยที่ราชโอรสปู่เจ้าลาวจกคอยพ่อ จึงเรียกว่าดอยท่า

เชื่อกันว่าดอยทั้ง 3 ในเทือกเขานางนอนนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของราชวงศ์ลาวจักราช ต้นวงศ์ของพญาเม็งราย ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง เหนือดอยดินแดงเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยตุง ถือเป็นปฐมธาตุแห่งแรกของล้านนาประเทศ

ขอบคุณที่มา : Khaosod

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: