เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เดอะซัน รายงานว่า เมื่อปีพ.ศ. 2558 อาลี บานาท เศรษฐีหนุ่ม ชาวนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงเจ็ดเดือนเท่านั้น เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่เขากลับมีชีวิตอยู่ต่อได้ถึงอีกสามปี และใช้เวลาเหล่านั้น อุทิศชีวิต ในการช่วยเหลือผู้คน ก่อนจะเสียชีวิตในวัย 32 ปี เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา
อาลีเคยใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง และขับรถหรู จนเมื่อป่วยถึงตระหนักได้ว่าทรัพย์สินเงินทองไม่ได้มีความหมายใดกับเขาเลย เขาตัดสินใจใช้เวลาช่วงสุดท้ายของเขา หาเงินให้กับผู้ด้อยโอกาสชาวมุสลิม โดยอาลีขายรถของเขา และนำเสื้อผ้าไปให้คนเหล่านั้น
ในคลิปวิดีโอ “ของขวัญจากมะเร็ง” เขากล่าวว่ามะเร็งเป็นของขวัญสำหรับเขา เพราะว่ามันทำให้เขาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิต เขาเปิดเผยทรัพย์สินของตัวเอง อย่างเครื่องประดับที่มูลค่าประมาณ 1.6 ล้านบาท และรถเฟอร์รารี่มูลค่าเกือบ 17 ล้านบาท
อาลีกล่าวว่า “ตอนที่คุณพบว่าคุณป่วยและไม่มีเวลาเหลือในชีวิตมากนัก นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากจะได้”
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 อาลีได้เริ่มสร้างมูลนิธิ “ชาวมุสลิมทั่วโลก” เพื่อช่วยเหลือชาวมุสลิมที่ยากจนและด้อยโอกาสในประเทศแอฟริกา เขาเดินทางและไปอาศัยอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ พบปะกับเด็กๆ และครอบครัวชาวท้องถิ่น และได้รับรู้ว่าพวกเขามีความยากจนเพียงใด
องค์กรของเขาได้อุปถัมภ์และสนับสนุนในการสร้างสุเหร่า ศูนย์พยาบาล และโรงเรียนในแอฟริกา โดยเงินบริจาคที่เข้ามายังมูลนิธินั้นมีจำนวนกว่า 40 ล้านบาทแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในคลิปวิดีโอที่บันทึกช่วงเวลาสุดท้ายของอาลีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต อาลีได้พูดขอร้องผู้คนให้สานต่อสิ่งที่เขาทำด้วย
อดัม ซาเลห์ ยูทูบเบอร์ชาวอเมริกันโพสต์ทวิตกล่าวถึงอาลีว่า “อาลี บานาท เป็นแรงบันดาลใจให้ผม และโลกใบนี้!”
“เขามีเรื่องราวที่น่าประทับใจที่จะบอกโลกใบนี้ว่ามะเร็งเป็นของขวัญของเขาได้อย่างไร เขามีรอยยิ้มเสมอ ผมรู้สึกเสียใจมากที่เขาพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็ง ได้โปรดระลึกถึงเขาด้วยเมื่อคุณสวดมนต์”
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
คลิปจาก : Living Muslim
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ