ลูกสาวตาซาเล้ง ลั่น ไม่ได้เอาเงินไป โบ้ยพี่ชายหนี้สินพัวพันไถจนหมด หลังเพจดังสาปส่ง!





 

จากกรณีเหตุการณ์สุดสะเทือนใจเมื่อวัยรุ่นรายหนึ่งก่อเหตุเตะ ตาซาเล้ง วัย 80 ปี จนตกรถ ทำให้บาดเจ็บนอนโรงพบาบาล จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบว่า ครอบครัวฐานะขัดสน ประชาชนจึงร่วมกันบริจาค สมทบทุน โดยมีเพจดังหลายรายเข้าร่วมกัน จนสามารถสร้างบ้านหลังใหม่น่าอยู่น่าอาศัยให้ แต่ปรากฎว่า หลังจากงานศพไม่นาน เกิดปัญหาลูกอยากเอาเงินไปซื้อรถจนเพจดังออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้วครั้งหนึ่งนั้น

ล่าสุดพบว่า คุณยายกับลูกชาย ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางไทร เรื่องทองหาย และมีความสงสัยในตัวลูกสาว ซึ่งมีการทะเลาะมีปากเสียงกัน โดยเพจเฟซบุ๊ก “เตชะ ทับทอง” ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้ทราบว่าเงินค่าชดเชยการเสียชีวิตของคุณตาซาเล้ง จำนวนนับแสนบาท ที่ได้จากกระทรวงยุติธรรม ลูกสาวไม่ได้นำไปฝากเข้าบัญชีกลางตามที่ตกลงกันไว้ และยังปล่อยให้ นางฉลวย จริตเอก อายุ 71 ปี ภรรยาของ นายจรูญ มีพันธ์ ให้อยู่คนเดียว ทำให้ นางฉลวย เสียใจอย่างมาก พร้อมกันนั้น เพจแหม่มโพธิ์ดำ ยังออกมาระบุถึงพฤติกรรมของลูกสาวว่าสาปส่งนั้น

 

 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 17 พ.ค. น.ส.วนิดา มณีพันธ์ หรือ เจี๊ยบ ลูกสาว ของ นายจรูญ มีพันธ์ เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์”  ถึงกรณีดังกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เรื่องเงินทั้งหมด นางฉลวย ได้นำเงินไปให้ นายประพจน์ มณีพันธ์ หรือไก่ ลูกชายนายจรูญ โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใด

น.ส.วนิดา กล่าวว่า จากที่เป็นข่าว ตนอยากบอกว่า ตนและพี่ชาย มีปากเสียง ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นแบบนี้มานานแล้ว เวลาแม่อยู่กับพี่ชาย แม่ก็จะฟังพี่ชายแต่พี่ชาย ในกรณีที่มีข่าวว่าตนนำเงิน 1 แสนบาท ไปใช้ หรือ ขโทยทองของแม่ไปนั้น ตนขอยืนยันว่า ตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ทางประชาชนบริจาคมาให้ครอบครัว หรือ เงินที่ได้จากกระทรวงยุติธรรมเลย และไม่เคยยุ่งกับทองของแม่ด้วย สาเหตุที่หาไม่เจอ เนื่องจากที่บ้านอาศัยอยู่กันหลายคน ห้องไม่ได้ล็อก มีคนเข้า – ออก ตลอดเวลา แต่ทำไมทุกคนถึงคิดว่าเป็นตน ซึ่งภายหลัง หาเจอแล้ว ก็ไม่ได้มีใครมาขอโทษตนแต่อย่างใด

น.ส.วนิดา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเงินนั้น ส่วนใหญ่ พี่ชาย จะชอบมาขอเงินจากแม่ และเอาหลานมาอ้าง ว่า หลานไม่มีค่าเทอม แม่จึงใจอ่อน และให้มาโดยตลอด แต่ละครั้งที่มาหา ก็จะขอเงินจากแม่ไปประมาณ 10,000 – 20,000 บาท ซึ่งแม่จะไม่ค่อยกล้าบอกให้ตนรู้ เพราะกลัวตนจะว่า แต่ป้ามาบอก เมื่อตนรู้ ตนก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีก

น.ส.วนิดา กล่าวอีกว่า พี่ชายตนมีหนี้สินเต็มตัว ไปกู้เงินนอกระบบ แม่ก็ต้องตามจ่ายให้ นอกจากนั้นเมื่อปีก่อน ครอบครัวขายที่ดินได้ ที่ จ.อยุธยา ราคา 4 แสนบาท พี่ชายก็มาขอไป เพราะเอาหลานมาอ้าง ว่า หลานไม่มีค่าเทอม แม่ก็จะใจอ่อนให้เงิน และจากนั้นก็มาขอเรื่อยๆ จนขณะนี้เงินเหลือเพียง 1 แสนบาทเท่านั้น

“ขอยืนยันว่า ไม่เคยนำเงินที่ได้จากการบริจาคมาให้ครอบครัวไปใช้ เพราะเงินดังกล่าว ทางเพจแหม่มโพธิ์ดำและแม่เป็นคนดูแลทั้งหมด ตัวเองไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว และส่วนใหญ่ แม่ก็นำเงินไปให้พี่ชาย ซึ่งเราเคยขอ 20,000 บาท จากแหม่มโพธิ์ดำ ให้โอนเข้าบัญชีป้า ซึ่งไม่ใช่บัญชีเรา เพราะนำเงินป้ามาต่อเติมบันไดบ้านใหม่ ที่ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นบ้านที่อาศัยอยู่กับแม่ในปัจจุบันไม่ได้นำเงินไม่ใช้ส่วนตัว แต่ทางแหม่มโพธิ์ดำก็ผลัดว่าจะโอนเข้าบัญชีป้าให้ แต่ปัจจุบันก็ไม่โอนมาให้ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ตอนนี้ตนก็พยายามงานทำเพื่อลบคำสบประมาทของทุกคน ที่บอกว่า ไม่มีงานทำเลยมาขอเงินแม่ใช้ “ น.ส.วนิดา กล่าว

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: